“วิสุทธิ์” ย้ำเพิ่มวันประชุมสภาต้องหารือทุกฝ่าย ตอกอดีตสส.อยู่นอกสภาอย่ามาด้อยค่าคนคนอื่น สอนเป็นฝ่ายนิติบัญญัติไม่ใช่ต้องลอยอยู่บนฝ้าหายใจเอาแอร์อย่างเดียว 5 วัน ต้องลงพื้นที่รับฟังเสียงปชช.ด้วย ยันรัฐบาลพร้อมรับมือฝ่ายค้านซักฟอก
เมื่อวันที่ 8 ก.ค.67 เวลา 12.30 น.ที่รัฐสภา นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (ประธานวิปรัฐบาล) ให้สัมภาษณ์ถึงข้อเสนอของฝ่ายค้านในการเพิ่มวันประชุมสภา ว่า ยังไม่ได้มีการพูดคุยกัน การที่จะเพิ่มวันประชุมมันต้องเป็นการปรึกษาหารือกันว่ามีวาระด่วนอะไรเข้ามา ปกติถ้าประธานสภาเห็นว่ามีเรื่องที่ต้องพิจารณาเยอะ มีวาระที่ค้างคาเยอะก็จะสั่งให้มีการประชุมเพิ่มอีก 1 วัน คือวันศุกร์ แต่การจะขอความร่วมมือมันต้องมาพูดจากันโดยเฉพาะวิป ต้องมาปรึกษาหารือกันว่ามีเรื่องอะไรที่ค้างคาอยากเป็นเป็นวาระเร่งด่วนที่ต้องมีการประชุมอีกวันในวันศุกร์ แต่อย่าไปออกข่าวด้อยค่าคนที่ไม่เห็นด้วย เพราะว่าสภาแห่งนี้ประกอบไปด้วยหลายพรรค แต่คนก็ต่างความคิดต่างภารกิจ ก็มีการปรึกษาหารือกันด้วยดี คนที่ออกมาพูดเขาไม่ได้อยู่ในสภาแห่งนี้ และไม่ได้เกี่ยวข้องกับวิป เป็นคนนอก อดีตสส.ที่ไปด้อยค่าคนอื่น อย่างนี้มันหาความร่วมมืออยาก สภานี้มันไม่มีใครเห็นด้วยกันทั้งหมด แต่ต้องหาความร่วมมือ ถ้าเรื่องไหนที่เป็นสาระ เป็นประโยชน์ เราก็ยินดีอยู่แล้ว
เมื่อถามว่า แสดงว่าที่ผ่านมาฝ่ายค้านออกข่าวอย่างเดียว แต่ไม่ได้มีการมาพูดคุยกับวิปรัฐบาล นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า ยังไม่มีการมาพูดคุยกัน เห็นมีการพูดในสภาครั้งหนึ่งมีการหารือแค่นั้นเอง แต่ว่าการจะประชุมอะไรมันต้องปรึกษาหารือเป็นความร่วมมือระหว่างสมาชิกแต่ละพรรค ทั้งฝ่ายค้าน รัฐบาล ประธานสภา มีความพร้อมหรือไม่ต้องปรึกษาหารือ แต่ว่ามีการออกมาต่อว่า ๆ ออกพื้นที่ ไม่มีประโยชน์นั้น ไม่ได้ เพราะ สส.บางท่านก็อยู่ในพื้นที่ต่างจังหวัด ไปรับฟังปัญหาต่างๆ อย่างช่วงนี้เพี้ยกระโดดมีปัญหา ชาวบ้านบอกมา สส.ก็นำมาหารือในสภา แจ้งไปยังรัฐบาล การเป็นผู้แทนราษฎรไม่สามารถโทรไปหาหน่วยงานราชการเองได้ เดี๋ยวจะผิดรัฐธรรมนูญมาตรา 144 ก้าวก่ายแทรกแซง ก็ถือโอกาสไปรับฟังปัญหาเสาร์-อาทิตย์ เป็นหน้าที่ของ สส.
“หลายคนมาบอกว่าไปพื้นที่แล้วประชาชนเกลียดเพราะไม่มีผลงาน ไม่ทราบนะครับ แต่พรรคผมคนที่ไปรับฟังมา เขาก็มาบอกในพรรค อย่างน้อยๆ มาแจ้งรัฐมนตรีทราบว่าขณะนี้ประชาชนเดือดร้อนเรื่องอะไร มีปัญหาอะไร และบางส่วนก็นำมาหารือในสภา เพื่อแจ้งว่าสิ่งที่ประชาชนเดือดร้อนนั้นได้นำมาหารือแล้ว เป็นเรื่องที่ฝ่ายบริหารคือรัฐบาลจะไปแก้ไข ส่วนที่ว่าประชาชนเกลียดนั้น ผมไม่เข้าใจเหมือนกัน ทำไมประชาชนต้องเกลียดผู้แทนฯ เขามีแต่ยินดีต้อนรับด้วยซ้ำไป เห็นทุกคนเสาร์ อาทิตย์เขาก็มีความสุขในการไปนั่งรับฟังปัญหาของพี่น้องประชาชน อันนี้เป็นเรื่องที่ต้องฟัง ไม่ใช่ว่าเป็นผู้แทนฯ นิติบัญญัติจะต้องลอยอยู่บนฟ้า อยู่แต่ในสภา หายใจเอาแอร์อย่างเดียว 5 วันก็ไม่ไหว”นายวิสุทธิ์ กล่าว
เมื่อถามว่า นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 3 ระบุว่าจะนัดหารือวิป 3 ฝ่าย นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า ต้องคุยกันก่อน ตอนนี้ยังไม่ได้หารือ เมื่อถามต่อว่ามีกฎหมายที่ค้างอยู่จำเป็นจะต้องนัดวันประชุมเพิ่มหรือไม่ นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า ก็ต้องมาดู สมัยก่อนถ้ายังจำกันได้ ยุคก่อนๆ เราประชุมกันบ่ายวันพุธ และพฤหัส บางครั้งก็มีวันศุกร์มาเสริม แต่สมัยนายชวน หลีกภัย เป็นประธานสภา ก็เริ่มตั้งแต่เช้าวันพุธ พฤหัส บางครั้งก็มีวันศุกร์ และวันพุธ พฤหัสบางครั้งก็ดึกเราก็พยายามไม่ให้ดึกเกินไป เพราะว่า สส.จะได้มีสมาธิในการทำหน้าที่ตรงนี้ เราก็พยายามบริหารตรงนี้ ดังนั้นจึงต้องดูความจำเป็นเร่งด่วนอย่างไร ก็ไม่ได้ขัดข้อง แต่ต้องดูความจำเป็น และต้องพูดจากันดีๆ เพราะมีหลายพรรค และเป็นระบอบประชาธิปไตยที่ต้องฟังเสียงส่วนใหญ่ ไม่ใช่ว่าใครไม่เห็นด้วยก็ด้อยค่าเขา ตนก็รับไม่ได้เหมือนกัน
เมื่อถามว่า ฝ่ายค้านระบุว่ามีข้อมูลพร้อมในการอภิปรายไม่ไว้วางใจอาจจะเป็นช่วงก.ย.-ต.ค. นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นสิทธิ์ของฝ่ายค้านที่จะทำ ตนก็เชื่อมั่นว่ารัฐบาลก็ต้องเตรียมตัวในการมาตอบ เป็นเรื่องปกติในการที่ฝ่ายค้านจะยื่นญัตติไม่ไว้วางใจรัฐบาล ตอนเราเป็นฝ่ายค้านก็ทำ มันก็เปลี่ยนกันอย่างนี้ คนถามก็เตรียมหน้าที่มาซักซ้อม กล่าวหา รัฐบาลก็มีหน้าที่ชี้แจง ส่วนจะต้องมีการตั้งรับล่วงหน้าตั้งแต่ตอนนี้หรือไม่ ตนคิดว่าการทำงานของสมาชิกฝั่งรัฐบาลทั้งหมดก็มีการปรึกษาหารือกันอยู่เสมอ ไม่จำเป็นต้องไปตั้งองครักษ์พิทักษ์ใครทั้งนั้น ตนเชื่อว่าคนที่เป็นรัฐมนตรีก็มีข้อมูลและต้องตอบฝ่ายค้านได้ ไม่น่ากังวลอะไร แต่ขอให้อยู่ในกรอบในการอภิปราย ไม่ด้อยค่ากันหรือใช้วาจาเสียดสี ทำร้ายอัน อันนี้ประชาชนไม่ค่อยชอบ
