เหมือนจะกระชุ่มกระชวย!! หลังรัฐบาลตั้งโต๊ะแถลงข่าวเปิดฉาก “ปฐมบท” โครงการ “แจกเงินดิจิทัล วอลเล็ต 10,000 บาท”
แต่!! กลับกลายเป็นว่า ความกระชุ่มกระชวยที่คาดหวัง…ไม่ได้สร้างบรรยากาศให้สดชื่นหัวใจอย่างที่ประชาชนคนไทยตั้งตารอคอยกันสักเท่าใดนัก
แม้จะมีความชัดเจนในเรื่องของ “วันลงทะเบียน-วิธีการลงทะเบียน-วันตรวจสอบสิทธิ์” และอีกสารพัดเงื่อนไข โดยเฉพาะผู้มีสิทธิ์ได้รับของขวัญชิ้นโตจากรัฐบาล
ปรากฎว่า…“วันได้รับเงิน-วันใช้เงิน” ยังไม่ปรากฎ!!
เพราะกำหนดไว้เพียงแค่ว่า เริ่มใช้จ่ายภายในไตรมาส 4 ของปีนี้ หากดูตามกำหนดวันลงทะเบียน ของผู้มีสมาร์ทโฟน ตั้งแต่ 1 ส.ค.-15 ก.ย.นี้
ส่วนคนไม่มีสมาร์ทโฟน วันที่ 16 ก.ย.-15 ต.ค. 67 ร้านค้าลงทะเบียน เริ่มวันที่ 1 ต.ค.เป็นต้นไป ขณะที่การตรวจสอบสิทธิ์ว่าตัวเองจะได้ใช้เงินหรือไม่ได้ใช้เงิน ตั้งแต่วันที่ 22 ก.ย.67 เป็นต้นไป
หากดูไทม์ไลน์ ที่รัฐบาลประกาศออกมา เชื่อเถอะ!! การใช้จ่ายคงหนีไม่พ้นช่วงปลายปี อาจเป็นเดือนพ.ย.-ธ.ค.นี้ หรือเป็นไปได้อาจไปกระตุ้นให้มีการใช้จ่ายจริงๆ ก็น่าจะต้นปีในช่วงปีใหม่ด้วยซ้ำไป
ถามว่า? เงินหมื่นจากโครงการที่จะออกมานั้น จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้มากน้อยแค่ไหน?
ตอบได้ทันทีว่า หากเป็นปี 67 นี้ คงน้อยมาก!! เพราะระยะเวลาการใช้จ่าย มีไม่กี่วัน
ที่สำคัญ!! คงเป็นไปไม่ได้ว่า ผู้ได้รับสิทธิ์จะเฮโลใช้เงินพร้อมๆ กันทีเดียวถึง 4-5 แสนล้านบาท
นั่นหมายความว่า…การกระตุกกระตุ้นจีดีพีในปีนี้ คงมีไม่มากนัก โดยหลายๆ สำนักได้คาดการณ์กันไว้ว่า อาจมีผลต่อจีดีพีประมาณ 0.1-0.2% เท่านั้น
ก็เท่ากับว่า…จีดีพี ปี 67 นี้ คงเติบโตได้ที่ประมาณ 2.4-2.6% ตามที่หลายฝ่ายคาดการณ์กันไว้ก่อนหน้านี้ ส่วนจะหมุดพายุได้ถึง 4 ลูกตามที่ “หัวหน้าทีมเศรษฐกิจ” ของรัฐบาล คาดหวังไว้นั้น คงต้องรอดูในช่วงต้นปีหน้า
เพราะว่ากันว่า โครงการแจกเงินดิจิทัลครั้งนี้ คงไม่สามารถแจกจ่ายทีเดียวหมดทั้งก้อน น่าจะเป็นการทยอยจ่ายเงินกันมากกว่า เผลอๆ อาจยาวๆ ไปจนถึงครึ่งปีหน้าก็เป็นไปได้
อย่าลืมว่า…เป้าหมายคนที่ได้รับสิทธิ์ประมาณ 45 ล้านคน วงเงินที่ใช้มากถึง 4.5 แสนล้านบาท และรัฐบาลยังเปิดช่อง หากมีคนที่ต้องได้รับสิทธิ์ มากกว่าจำนวนนี้ ก็ไม่อั้นเช่นกัน
ด้วยเหตุนี้ระยะเวลา ของการดำเนินโครงการคงไม่ใช่เพียงแค่ 3 เดือน หรือแค่ปลายปี 67 นี้เท่านั้น ส่วนรายละเอียดอื่น คงต้องตามติดกันต่อไป
เพราะเชื่อได้ว่า ณ เวลานี้ การที่รัฐบาลยังไม่ปล่อย ยังไม่แถลงรายละเอียดทั้งหมดออกมาให้ชัด อาจเป็นเพราะระบบ กระบวนการทำงาน กระบวนการจัดการ ยังไม่แล้วเสร็จทั้ง 100%
หรือ!! อาจเป็นไปได้ว่า เพื่อไม่ให้เกิดความสับสน ก็ค่อยๆ ชี้แจงประชาชนคนไทยเป็นรอบๆ ดีกว่า โดยรอบแห่ง “ปฐมบท” นี้ ก็ขอเป็นเรื่องของคนที่มีสมาร์ทโฟนกันก่อน
ส่วนบรรดาผู้ไม่มีสมาร์ทโฟน ผู้เฒ่าผู้แก่ ผู้สูงวัย ผู้พิการ ผู้ป่วยติดเตียง ผู้ด้อยโอกาสอื่นที่มีสิทธิ์ได้รับของขวัญชิ้นนี้เช่นกัน คงต้องไปเตรียมการอีกขั้น
เนื่องจากเชื่อว่าได้ คนเหล่านี้จำเป็นต้องมี “ผู้ช่วยเหลือ” ซึ่งกระบวนการสำคัญก็ต้องใช้บรรดาอาสาสมัคร ต้องใช้ระบบของท้องถิ่น เข้ามาช่วยเหลือ เข้ามาบริหารจัดการ
ส่วนกระบวนการทั้งหมด ก็ต้องรอฟังรายละเอียดชัดๆ กันอีกที!!
หากมาดูเฉพาะในเรื่องของการกระตุ้นเศรษฐกิจ อย่างที่บอก ณ เวลานี้ ในปี 67 อาจต้องทำใจกันไว้ก่อน ว่าไม่น่ากระตุกได้มากนัก ด้วยกระบวนการ ด้วยวิธีการสารพัดที่ล่าช้า
ดังนั้น ผลของโครงการเรือธงของรัฐบาล คงต้อไปรอดูในปี 68 ว่าจะเติบโตได้ที่ 3% อย่างที่คาดการณ์กันไว้เบื้องต้นหรือไม่ เพราะใช่ว่าเศรษฐกิจไทยจะขึ้นอยู่กับการใช้จ่ายภายในประเทศเท่านั้น
แต่…ในเรื่องของต่างประเทศ ก็มีผลกระทบไม่น้อย โดยเฉพาะ ศึกการเลือกตั้งของสหรัฐฯ ที่โอกาสแปรเปลี่ยนนั้นมีอยู่สูงไม่น้อย รวมไปถึงสถานการณ์การกีดกันทางการค้าในทุกรูปแบบ
หรือ!! แม้แต่เรื่องของสงคราม เรื่องของปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ ที่ยังคงมีอยู่และมีเพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ ก็ยังกลายเป็นประเด็นที่มองข้ามไม่ได้ด้วยเช่นกัน
เพราะหากมัวแต่เทน้ำหนักมาที่เศรษฐกิจในประเทศ การทัดทานอาจไม่เพียงพอกับพายุใหญ่จากต่างประเทศก็ได้!!
……………………………..
คอลัมน์ : EC Focus by Virgo