“เทพไท” ชี้กระแสเพลง “คิดถึงลุงตู่”มาแรง ประชดความล้มเหลวรัฐบาลเศรษฐา ที่มีนโยบายหาเสียงไม่สมกับราคาคุยทั้งที่บริหารประเทศมาเป็นเวลาหนึ่ง
เมื่อวันที่ 27 ก.ค.67 นายเทพไท เสนพงศ์ อดีตสส.พรรคประชาธิปัตย์ ได้โพสต์ข้อความระบุว่า กระแสเพลง “คิดถึงลุงตู่”มาแรง : ประชดความล้มเหลวรัฐบาลเศรษฐา
ถ้าใครที่ติดตามสื่อโซเชียล ก็จะเห็นกระแสเพลงคิดถึงลุงตู่แชร์กันเป็นไวรัล โดยเฉพาะอย่างยิ่งใน TikTok มีการนำเพลงคิดถึงลุงตู่มาเล่นเป็นจำนวนมาก รวมถึงเพลงอื่นๆที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับลุงตู่ด้วย
ผมยังแปลกใจว่า เพลงที่ผมแต่งให้กับลุงตู่ 2 เพลง คือ สดุดีลุงตู่ และภูมิใจในลุงตู่ ที่มียอดวิวหลายแสนวิว เคยมีคนนำมาแชร์กันอย่างแพร่หลายเมื่อหลายเดือนก่อน แต่ช่วงนี้เมื่อมีกระแสเพลงคิดถึงลุงตู่ฮิตขึ้นมา ก็มีคนนำมาแชร์ใหม่อีก จนมีการตั้งคำถามว่า อะไรเกิดขึ้นกับการเมืองในตอนนี้ ที่มีคนคิดถึงลุงตู่ขึ้นมาอย่างมากมาย ทั้งที่ลุงตู่อยู่ในฐานะเป็นองคมนตรี ไม่เกี่ยวข้องกับการเมืองแล้ว แต่ยังมีคนเรียกร้องและพูดถึงลุงตู่กันอีก
ผมคิดว่าเหตุผลสำคัญ ที่เกิดกระแสคิดถึงลุงตู่ กระหึ่มสื่อโซเชี่ยล น่าจะมาจากความผิดหวัง หรือประชดประชันการทำงานของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐบาลพรรคเพื่อไทย ที่ไม่มีนโยบาย หรือผลงานอะไรออกมาเป็นชิ้นเป็นอัน ทั้งที่ได้บริหารประเทศมาเป็นเวลาหนึ่งปีแล้ว ไม่สมกับราคาคุย เพราะนโยบายที่หาเสียงบนเวทีปราศรัย ก็ไม่สามารถนำนโยบายมาใช้ในทางปฏิบัติได้เลย
ในช่วงที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี บริหารประเทศ กระแสความนิยมของประชาชนก็ไม่ได้สูงมากนัก ดูจากผลการเลือกตั้งเมื่อปี 2566 และผลโพลของสำนักต่างๆในช่วงนี้ จะเห็นว่าคะแนนนิยมในตัวพลเอกประยุทธ์ก็ อยู่ในระดับ 10% กว่าๆ แต่มาเมื่อมานำมาเปรียบเทียบกับ การทำงานของนายเศรษฐาแล้ว ทำให้ประชาชนคิดถึงผลงานของพลเอกประยุทธ์ มากกว่าผลงานของนายเศรษฐาในตอนนี้
ส่วนการที่นายทักษิณ ชินวัตร ได้ให้สัมภาษณ์ว่า ถ้าพรรคเพื่อไทยไม่สามารถแก้ปัญหาเศรษฐกิจได้ ก็ไม่มีพรรคการเมืองใดทำได้นั้น ก็เป็นแค่ราคาคุย นายทักษิณกำลังหลงยุค อาจจะคิดว่าเหมือนกับสมัยรัฐบาลไทยรักไทย ที่นายทักษิณเป็นนายกรัฐมนตรี ในยุคนั้นบ้านเมืองไม่มีสื่อโซเชียลเหมือนยุคนี้ จึงทำให้คนในชนบท ยังเข้าไม่ถึงข้อมูลช่าวสาร หลงเชื่อและฝังใจนิยมชมชอบต่อนายทักษิณตามกระปลุกปั่น
แต่วันนี้เป็นโลกดิจิตัล สื่อโซเชียลแพร่หลาย ทุกคนเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร จึงทำให้ประชาชนรู้เท่าทันการทำงานของพรรคเพื่อไทย แม้ว่านายทักษิณจะมั่นใจว่า สามารถทำให้พรรคเพื่อไทยกลับมาได้รับความนิยมเป็นอันดับหนึ่งนั้น อาจจะเป็นเรื่องที่เพ้อฝันไปก็ได้
