“เทพไท”ชี้ การเมืองท้องถิ่น:ก้าวไกลยังไร้เดียงสา เหตุระดับท้องถิ่น-ระดับชาติคนละเรื่อง และเป็นบทเรียนให้พรรคก้าวไกล ได้ทบทวนการทำงาน
เมื่อวันที่ 6 ส.ค.67 นายเทพไท เสนพงศ์ อดีตสส.ประชาธิปัตย์ ได้โพสต์หัวข้อ “การเมืองท้องถิ่น : ก้าวไกลยังไร้เดียงสา” มีเนื้อหาว่า…ต้องยอมรับความจริงว่า การเมืองระดับชาติกับการเมืองระดับท้องถิ่น มีความแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง การนำผลการเลือกตั้งของการเมืองระดับชาติ มาเชื่อมโยงกับการเลือกตั้งในระดับท้องถิ่น เป็นคนละเรื่อง เป็นหนังคนละม้วน เพราะ
1.การเมืองระดับชาติเป็นเรื่องการรณรงค์ เพื่อการเลือกตั้งหัวหน้าพรรคไปเป็นนายกรัฐมนตรี และจัดตั้งรัฐบาล การรณรงค์หาเสียง เป็นการสร้างกระแสทั่วทั้งประเทศ ไม่ใช่เฉพาะท้องถิ่นบางจังหวัด เท่านั้น
2.การเลือกตั้งระดับชาติ มีการเลือกตั้งล่วงหน้าและมีการเลือกตั้งนอกสถานที่ ทำให้ผู้มีสิทธิ์ที่อยู่นอกพื้นที่จังหวัดนั้นๆ สามารถลงคะแนนเลือกตั้งได้ แต่การเลือกตั้งท้องถิ่นมีผู้ใช้สิทธิ์น้อย คะแนนจัดตั้งจึงมีความสำคัญต่อการเลือกตั้ง
3.กระแสการเลือกตั้งระดับชาติ เลือกตามกระแสความนิยมของพรรคการเมือง มากกว่าตัวบุคคล ส่วนการเมืองท้องถิ่นเน้นตัวบุคคลมากกว่ากระแสพรรค
4.การเมืองท้องถิ่นเป็นการสร้างเครือข่าย ระบบอุปถัมภ์ของบ้านใหญ่ต่อหัวคะแนน และ เชื่อมโยงกลุ่มอิทธิพลในพื้นที่ได้แนบแน่น
5.แชมป์เก่าได้เปรียบผู้สมัครหน้าใหม่ ในเรื่องผลงาน บารมี บุญคุณ การบริหารจัดการดูแลหัวคะแนน
6.การเมืองท้องถิ่นใช้เงินทุน ในการบริหารจัดการ ดูแลหัวคะแนนเป็นจำนวนมาก บ้านใหญ่ แชมป์เก่า มีการสะสมทุนไว้มาก มีความได้เปรียบผู้สมัครใหม่ที่ไม่มีทุน
ดังนั้นผลการเลือกตั้งนายก อบจ.ใน 3 จังหวัด คือพระนครศรีอยุธยา พะเยา และชัยนาท แม้ว่าพรรคก้าวไกลไม่ได้ส่งในนามพรรคโดยตรงก็ตาม แต่ผู้สมัครนายก อบจ.บางคน คือแนวร่วมและกลุ่มผู้สนับสนุนพรรคก้าวไกล จะเห็นได้ว่าแชมป์เก่า บ้านใหญ่เป็นผู้ชนะแบบคะแนนทิ้งห่างพอสมควร ซึ่งเป็นสัญญาณและบทเรียนให้พรรคก้าวไกล ได้ทบทวนการทำงานการเมืองในระดับท้องถิ่นว่า แตกต่างกันกับการเมืองอุดมคติในระดับชาติ ไม่อยากให้พรรคก้าวไกล หลงประเด็น ไร้เดียงสา กับการเมืองระดับท้องถิ่นมากเกินไป