พุธหน้า! ได้รองหนึ่งคนใหม่แน่! ’วิสุทธิ์‘ ยันมาจากซีก รบ. 100% ขอใจเย็นๆ จะเป็นใคร ชี้ ‘ภราดร’ เหมาะสมแต่ไม่ฟันธง โยนพรรคร่วมรัฐบาลคุย ระบุคุณสมบัติต้องเป็นกลาง คุมประชุมได้
วันที่ 8 ส.ค.67 เวลา 09.30 น.ที่รัฐสภา นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล หรือวิปรัฐบาล ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรคก้าวไกล ว่า ก็ต้องให้กำลังใจพรรคก้าวไกล ที่ถูกศาลรัฐธรรมนูญตัดสิทธิ์ แต่ทุกสิ่งทุกอย่างก็ต้องเป็นไปตามกฎหมาย ตามกติกา ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัย ก็ต้องยอมรับเป็นเรื่องปกติ เป็นเรื่องธรรมดาทางการเมือง เราก็ผ่านเรื่องพวกนี้มาเยอะแล้ว
“ตอนนี้ก็ให้กำลังใจให้เข้มแข็ง การเมืองก็มีเข้ามีออก พรรคไทยรักไทยก็เพิ่งได้กลับมาสมัยนี้ เป็นเรื่องปกติที่เราได้รับการกระทำอย่างนี้อยู่แล้ว วิธีการทำงานของศาลรัฐธรรมนูญ ถือว่าผูกพันทุกองค์กรอยู่แล้วเป็นเรื่องปกติ ส่วนการทำงานคงไม่มีอะไรมาก เพราะคนถูกตัดสิทธิ์มีเพียง 3-5 คน สัดส่วนในสภาก็ไม่มีอะไรแตกต่างกันมาก ก็ยังพอทำงานเป็นปกติได้ ไม่มีอะไรน่ากังวล ไม่น่าเป็นห่วง คนออกไปไม่เยอะ ในสภาสามารถทำงานได้ปกติ”นายวิสุทธ์ กล่าว
เมื่อถามว่าจะมีผลกระทบต่อตำแหน่งประธานกรรมาธิการ และรองประธานสภาฯคนที่หนึ่งหรือไม่ นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า ตำแหน่งประธานกรรมาธิการฯ ต้องไปดูสัดส่วนของแต่ละพรรค เพราะข้อปฏิบัติในสภามีอยู่แล้ว ว่าจะต้องปรับเปลี่ยนอย่างไรให้ครบถ้วนในสัดส่วนที่พอเหมาะพอดีตามที่ตกลงกันไว้ ก็เป็นเรื่องปกติ ส่วนตำแหน่งรองประธานสภาฯตอนนี้ยังตอบไม่ ได้ ว่าพรรคไหนจะได้มาเป็น แต่ วันพุธหน้าจะได้เลือกรอง ประธานสภาฯแน่ ขอให้แกนนำพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคพูดคุยเจรจาตกลงกัน ถ้าบอกไปก่อนก็จะเร็วไป หลายคนสงสัยคนนั้นคนนี้ตนก็สงสัยเหมือนกันว่าใครจะได้ ขอให้พระร่วมฯได้พูดคุยกันก่อน โดยมารยาทต้องปรึกษาหารือกันทุกพรรค
“ไม่ใช่โควต้าอย่างเดียว ต้องมี องค์ประกอบทางการเมืองหลายอย่าง ทั้งสัดส่วนส.สของแต่ละพรรค การเมืองที่อยู่ในสภาก็เกี่ยวพันกัน หลายเรื่องหลายอย่าง อดใจนิดเดียวอาทิตย์หน้าได้แน่ ซึ่งเป็นโควต้าของฝ่ายรัฐบาล ส่วนเมื่อก่อนที่เลือกไปแบบนั้นเพราะพรรคก้าวไกลจะมาร่วมรัฐบาล แต่พอเป็นอย่างนี้แล้ว เป็นสัดส่วนของรัฐบาลที่จะต้องเจรจากัน”ประธานวิปรัฐบาล กล่าว
เมื่อถามว่าเป็นไปได้หรือไม่จะเป็นสัดส่วนของพรรคภูมิใจไทย นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า ก็เป็นไปได้ หมด ขอให้พรรคร่วมได้คุยกัน แต่มั่นใจว่าไม่มีปัญหา และเลือกบุคคลที่เหมาะสมขึ้นมาทำหน้าที่ ต้องเป็นกลางทางการเมือง แม่นข้อบังคับ ทำหน้าที่ควบคุมการประชุมสภา ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ซึ่งมีหลายท่าน หลายพรรคก็มีคุณสมบัติพร้อม เพราะอยู่สภามานาน ไม่กังวลคนที่จะขึ้นมาทำหน้าที่ เพราะมีหน้าที่ปฏิบัติตามข้อบังคับการประชุมสภาเท่านั้น”นายวิสุทธิ์ กล่าว
เมื่อถามถึงนายภราดร ปริศนานันทกุล จากพรรคภูมิใจไทย นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า ไม่รู้แต่ตนคิดว่าท่านเหมาะสม เพราะอยู่สภามาหลายสมัย และคุณพ่อนายสมศักดิ์ ปริศนานามสกุล)เคยเป็นรองประธานสภา ดูก็เหมาะสม แต่วันนี้ไม่กล้าฟันธงว่าเป็นใคร
เมื่อถามถึงการเลือกตั้งซ่อมที่จังหวัดพิษณุโลกว่าพรรคเพื่อไทยจะส่งคนลงสมัครหรือเปล่า นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า เป็นเรื่องของกรรมการบริหารพรรคจะพิจารณา เพราะครั้งที่แล้วพรรคเพื่อไทยมาที่ 3 ส่วยที่ 2 เป็นพรรคพลังประชารัฐ ต้องคุยกันก่อน แต่โดยมารยาทพรรคการเมืองที่เป็นพรรคร่วมรัฐบาล เราจะให้คนที่คะแนนสูงสุดก่อน ซึ่งเป็นพรรคพลังประชารัฐ แต่อยู่ที่ผู้บริหารทั้ง 2 พรรคจะต้องมีการเจรจากัน
เมื่อถามว่าตำแหน่งประธานรองประธานทั้งหมดเป็นพรรคร่วมรัฐบาลจะถูกครหาหรือไม่หากทั้ง3 ตำแหน่งเป็นของรัฐบาล นายวิสุทธิ์กล่าวว่า ตำแหน่งประธาน และรองประธานมีหน้าที่ควบคุมการประชุมสภาให้เป็นไปตามข้อบังคับการประชุมสภา และดูแลพื้นที่สภาไม่มีหน้าที่วินิจฉัยเรื่องอื่นนอกจากข้อบังคับ เพราะตำแหน่งนี้ไม่ใช่เรื่องการตรวจสอบถ่วงดุล หน้าที่ตรวจสอบเป็นของสส.ทุกพรรค ประธานและรองประธานไม่มีผลอะไร ให้เป็นดูแลแค่การประชุมสภาให้เป็นด้วยความเรียบร้อยเท่านั้น