วันอาทิตย์, กันยายน 22, 2024
spot_img
หน้าแรกHighlightเกาะติดเงินเฟ้อสหรัฐฯ-ศาลรธน.ชี้ขาดคดีนายกฯ กระทบต่อตลาดเงิน
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

เกาะติดเงินเฟ้อสหรัฐฯ-ศาลรธน.ชี้ขาดคดีนายกฯ กระทบต่อตลาดเงิน

กูรูประเมินเงินบาทสัปดาห์หน้าเคลื่อนไหวในกรอบ 34.80-35.50 บาทต่อดอลลาร์ เกาะติดข้อมูลเงินเฟ้อและยอดค้าปลีกเดือนก.ค.ของสหรัฐฯ-คำวิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญต่อคดีนายกฯ กระทบต่อตลาดเงิน

น.ส. รุ่ง สงวนเรือง ผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมธุรกิจและกำกับดูแลโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา  เปิดเผยถึงค่าเงินบาทในสัปาดห์หน้าว่า ให้กรอบ 34.80-35.50 บาทต่อดอลลาร์ เกาะติดข้อมูลเงินเฟ้อและยอดค้าปลีกเดือนก.ค.ของสหรัฐฯซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการคาดการณ์ดอกเบี้ยเฟด หากออกมาต่ำกว่าคาดหรือใกล้เคียงกับที่ตลาดคาด เงินดอลลาร์มีโอกาสย่อลง (บาทแข็ง) ต่อได้ ส่วนปัจจัยในประเทศ ตลาดจะให้ความสนใจกับคำพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญต่อคดีนายกฯ

สำหรับการเคลื่อนไหวของสกุลเงินในภูมิภาคช่วง 1ส.ค.-9 ส.ค. พบว่า  สกุลเงินส่วนใหญ่แข็งค่า นำโดยริงกิต-มาเล เซีย 2.82 % รองลงมาเป็นรูเปียห์-อินโดนีเซีย 2.15%  เปโซ-ฟิลิปปินส์ 1.81%ดอลลาร์-ไต้หวัน  1.61%   บาท-ไทย 1.15% ดอลลาร์-สิงคโปร์ 0.89%หยวน-จีน 0.72%ดอง-เวียดนาม 0.53% วอน-เกาหลีใต้ 0.26% ยกเว้น รูปี-อินเดียอ่อนค่า 0.28% 

โดยต้นเดือนส.ค.นี้ เงินบาทแข็งค่า เกาะกลุ่มไปกับสกุลเงินส่วนใหญ่ในภูมิภาค ท่ามกลางการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์ในตลาดโลกและบอนด์ยิลด์สหรัฐฯที่ร่วงลง หลังข้อมูลการจ้างงานเดือนก.ค.ของสหรัฐฯบ่งชี้ภาวะชะลอตัวเกินคาด ทำให้นักลงทุนมองว่ามีโอกาสมากขึ้นที่เฟดจะลดดอกเบี้ยนโยบายทุกรอบการประชุมที่เหลืออีก 3 ครั้งในปีนี้ ขณะที่ในระยะนี้ นักลงทุนต่างชาติซื้อพันธบัตรไทยต่อเนื่อง ส่วนการเหวี่ยงตัวของราคาทองคำยังคงสร้างความผันผวนให้กับค่าเงินบาท อนึ่ง การระบายสถานะ yen carry trade สร้างความปั่นป่วนวุ่นวายช่วงต้นสัปดาห์นี้แต่ตลาดสามารถกลับมามีเสถียรภาพในระยะเวลาอันสั้น

อย่างไรก็ตาม เดือนนี้ต่างชาติขายหุ้นไทย 1.6 พันล้านบาท แต่ซื้อพันธบัตรมากถึง 4 หมื่นล้านบาท โดยมีทั้งพันธบัตรระยะสั้นและยาวคละกันไป

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img