“เทพไท”เตือนอย่า “ติเรือทั้งโกลน” จ้องเล่นงานพรรคประชาชน จนเกิดกระแสสงสาร แนะควรเปิดโอกาสให้พรรคพลังประชาชนได้แสดงบทบาททางการเมืองไปก่อน ยังมีเวลาที่จะตรวจสอบก่อนถึงวันเลือกตั้งครั้งต่อไป
เมื่อวันที่ 12 ส.ค.67 นายเทพไท เสนพงศ์ อดีตสส.ประชาธิปัตย์ ได้โพสต์ข้อความระบุว่า อย่า“ติเรือทั้งโกลน” จ้องเล่นงานพรรคประชาชน จนเกิดกระแสสงสาร
เมื่อศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรคก้าวไกล ตัดสิทธิ์กรรมการบริหารพรรค จนเหลือสส. 143 คนและได้ย้ายไปสังกัดพรรคประชาชนทั้งหมด ทำให้กระแสของพรรคประชาชนเริ่มคึกคักมาทันที มีผู้มาสมัครเป็นสมาชิกพรรคจำนวน 30,000 กว่าคน และมียอดเงินบริจาคสูงถึง 20 กว่าล้านบาท แสดงให้เห็นถึงความการมีส่วนร่วมของประชาชนทางการเมืองมากระดับหนึ่ง
ในขณะเดียวกันก็มีผู้เตรียมร้องยุบพรรคประชาชน และประกาศขัดขวาง ต่อต้านนโยบายแก้ไขมาตรา 112 พรรคประชาชน ที่ประกาศไม่ลดเพดานลง ซึ่งเรื่องนี้อยากให้ทุกฝ่ายได้ตั้งสติ ใจเย็นๆ อย่าให้สังคมมองว่าพรรคประชาชนถูกรังแกจนได้รับคะแนนสงสารมากขึ้น น่าจะเปิดโอกาสให้พรรคประชาชนได้ดำเนินกิจกรรมทางการเมืองไปก่อนสักระยะหนึ่ง ดีกว่าตั้งหน้าตั้งตาขัดขวาง จองล้างจองผลาญกันตั้งแต่วันเริ่มต้นเลย เมื่อถึงวันนั้นถ้าหากพรรคประชาชนเคลื่อนไหวทางการเมือง มีประเด็นที่ขัดต่อกฎหมาย ก็สามารถยื่นตรวจสอบและยุบพรรคได้
แต่ตอนนี้เหมือนเป็นจุดเริ่มต้น ไม่ควรติเรือทั้งโกลน ควรเปิดโอกาสให้พรรคพลังประชาชนได้แสดงบทบาททางการเมืองไปก่อน ยังมีเวลาที่จะตรวจสอบก่อนถึงวันเลือกตั้งครั้งต่อไป และถ้าหากการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในครั้งหน้า พรรคประชาชนสามารถครองใจคนได้ และได้คะแนนจำนวนสส.มากที่สุด ก็ต้องเคารพการตัดสินใจของประชาชน และเปิดโอกาสให้พรรคประชาชนจัดตั้งรัฐบาล ไม่ควรมีเกมการเมืองมาขัดขวาง หรือทำลายเจตนารมย์ของประชาชน ที่แสดงออกผ่านผลการเลือกตั้ง
ในฐานะที่เป็นนักการเมืองมาก่อน และปัจจุบันไม่ได้สังกัดพรรคการเมืองใด ไม่ได้เชียร์หรือสนับสนุนพรรคประชาชนเลย แต่ขอแสดงความเห็นทางการเมืองในฐานะผู้สังเกตการณ์ทางการเมืองคนหนึ่ง อยากให้พรรคประชาชนได้เคลื่อนไหวอย่างระมัดระวัง ต้องอยู่ในกรอบของกฎหมาย อย่าเคลื่อนไหวแบบท้าทายผู้มีอำนาจ ซึ่งถ้าหากการเคลื่อนไหวใดๆที่เกิดขึ้นขัดต่อกฎหมาย และถึงขั้นต้องยุบพรรคอีก ก็จะเป็นคำทำลายคะแนนเสียงที่เลือกพรรคประชาชนเข้ามา เป็นการทำลายโอกาสของพรรค และพี่น้องประชาชนผู้สนับสนุนทั่วประเทศอีกด้วย