‘ทักษิณ’ มั่นใจ เลือกตั้งครั้งหน้า ‘เพื่อไทย’ ชนะ ‘พรรคประชาชน’ ไม่ยาก มองพ่ายปี 66 เหตุ ‘อุ๊งอิ๊ง’ ลาคลอดช่วย “เพื่อไทย”หาเสียง ชี้ ตั้งรัฐบาลต้องให้สิทธิ์พันธมิตรเดิม หลังถูกถามโอกาสจับมือ พรรคประชาชน หากไม่แก้ ม.112 เลี่ยงตอบ ปชป.ร่วมด้วย บอกวันนี้ก็มางาน ย้ำ ตั้งแต่กลับไทยไม่เคยคุย ‘บิ๊กป้อม’ เชื่อ ‘นายกฯแพทองธาร’ ปลอดภัยจากรัฐประหาร 100%
วันที่ 22 ส.ค.67 ช่วงหนึ่งของการตอบคำถามบนเวที Dinner Talk : Vision for Thailand 2024 นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ตอบคำถามการเลือกตั้งครั้งหน้า โดยเชื่อว่า ในการเลือกตั้งครั้งหน้า ที่อาจจะเกิดขึ้นในปี 2567 พรรคเพื่อไทยมีโอกาสสูงที่จะชนะพรรคประชาชน พร้อมกล่าวว่าการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาถ้า นางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรค ไม่ลาคลอดแล้วหาเสียงจนจบก็มั่นใจว่าเพื่อไทยจะมีโอกาสสูง
ส่วนอะไรที่ทำให้ทักษิณมั่นใจว่าเลือกตั้งครั้งหน้าจะทำให้ชนะพรรคประชาชน นายทักษิณตอบว่า “แหมคนเคยชนะมาแล้ว” และมองว่าหลักของพรรคประชาชนหรือพรรคก้าวไกลต้องการความเท่าเทียมในบริบทการเมือง ส่วนของเราอยู่ในบริบทการปฏิรูปทางเศรษฐกิจที่สร้างโอกาสเท่าเทียมกันทางเศรษฐกิจ เขาเน้นสถานะที่เท่าเทียมกันหมด เราเน้นโอกาสโดยเฉพาะโอกาสทางเศรษฐกิจที่ไทยมีปัญหาตรงนี้ โดยเฉพาะคนชนบทที่ยังลำบาก และวันนี้ไม่ใช่ว่าคนไทยงอมืองอตีนหรือไม่ฉลาด แต่เพราะโอกาสไม่มี
ส่วนถ้าพรรคประชาชนไม่มีเรื่อง112 เพื่อไทยจะจับมือตั้งรัฐบาลได้หรือไม่ มองว่า เรามีพันธมิตรในทางการเมือง เขามีสิทธิที่จะร่วมรัฐบาลก่อน ”เคยจีบกันมาแล้วเลิกกันไปแล้ว แล้วมาแต่งงานใหม่ต้องเอาโอกาสให้คนที่ยังอยู่“
เมื่อถามว่า แล้วคนที่อยู่ด้วยกันมีพรรคประชาธิปัตย์หรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า “ประชาธิปัตย์ก็มาร่วมในงาน เห็นไหม”
ส่วนสัญญานแนวคิดที่จะดึงเข้ามาร่วมกันนั้น นายทักษิณ กล่าวว่า วันนี้ต้องสามัคคีกันเราแบ่งหน้าที่กันไม่ได้เป็นศัตรูกัน ใครมีหน้าที่อะไรก็ทำตามนั้น จะเป็นศัตรูทำไมคนไทยด้วยกัน
เมื่อถามว่า ตั้งแต่กลับมาประเทศไทย 1 ปีได้พูดคุยกับพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐหรือไม่ นายทักษิณ บอกว่า ก่อนที่จะเดินทางกลับมาได้โทรคุยผ่านคนอื่น ส่งสายให้ คุยกันสั้นๆ ตอนนั้นคุยกันน่าจะเรื่องร่วมรัฐบาล และถามสารทุกข์สุขดิบ และหลังจากนั้นก็ยืนยันว่า ไม่ได้คุยไม่ได้เจอ เขาไม่รู้จักผมแล้ว
ส่วนเหตุผลที่ทำให้ห่างกัน ทั้งที่เคยสนิทสนมตั้งแต่เป็นแม่ทัพภาคที่ 1 และผู้บัญชาการทหารบกนั้น นายทักษิณ บอกว่า ตั้งแต่ช่วงที่ พลเอกประวิตรเกษียณแล้วอยากไปเป็นประธาน ป.ป.ช.ทำให้ตนเองบ่นว่า ทหารจะไปเป็นประธาน ป.ป.ช.ได้อย่างไรรู้กฎหมายหรือเปล่า ทำให้พลเอกประวิตรโกรธ และก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะไปคุยและไปเคลียร์ เพราะหลังจากนั้นก็โดนแทงมาตลอด
นายทักษิณ ยังมองอีกว่า ประเทศไทยหลังจากนี้รัฐประหารคงไม่มีอีกแล้ว และมองว่านางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรีจะปลอดภัยจากการรัฐประหาร ”ในฐานะพ่อก็ต้องห่วงใยลูกต้องช่วยลูกแต่ไม่เข้าไปก้าวก่ายในหน้าที่การงานสถานะของความเป็นนายกฯ ถึงแม้เค้าเป็นลูกแต่ก็ต้องให้เกียรติสถานะที่เค้าเป็นอยู่“
พร้อมยอมรับว่านางสาวแพทองธารมีแววที่จะเป็นนักการเมืองตั้งแต่อายุ 12 ปีตอนลงพื้นที่ไปหาเสียงพร้อมกับตนเอง และตนเองก็ภูมิใจในลูกสาว รวมถึงรู้ว่างานมันหนักและหนักกว่าวันที่ตนเองเป็นนายกฯเนื่องจากสถานะบ้านเมืองวันนี้หนักกว่า
ส่วนการมีแพทองธารเป็นนายกฯ ศูนย์กลางอำนาจจะมาอยู่ที่บ้านจันทร์ส่องหล้าหรือไม่มองว่า พ่อ-ลูกมีแต่เสริมกัน ไม่มีทางที่จะขัดกัน และถึงแม้เขาจะเป็นลูก แต่ตนให้เกียรติและให้ความเคารพในหน้าที่การงานของเขา และตนมีหน้าที่ให้การสนับสนุนในสิ่งที่ทำได้หรือในสิ่งที่เค้าเรียกปรึกษา พร้อมย้ำว่ามีแต่เรื่องที่จะส่งเสริม สนับสนุนเกื้อกูลกัน