“รุ่ง”ประเมินเงินบาทสัปดาห์หน้าเคลื่อนไหวในกรอบ 34.10-34.60 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ โดยปัจจัยชี้นำหลักยังคงอยู่ที่บอนด์ยิลด์สหรัฐฯ ข้อมูลจีดีพีไตรมาส 2- เงินเฟ้อ PCE ของสหรัฐฯ เปิดสถิติตั้งแต่ 1ส.ค.-23 ส.ค.เงินบาทแข็งรั้งอันดับ 3 ในภูมิภาค
น.ส. รุ่ง สงวนเรือง ผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมธุรกิจและกำกับดูแลโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทสัปดาห์หน้าเคลื่อนไหวในกรอบ 34.10-34.60 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ โดยปัจจัยชี้นำหลักยังคงอยู่ที่บอนด์ยิลด์สหรัฐฯ ข้อมูลจีดีพีไตรมาส 2 (ประกาศครั้งที่สอง) และเงินเฟ้อ PCE เดือนก.ค.ของสหรัฐฯ นอกจากนี้ ราคาทองคำในตลาดโลกเพิ่มความผันผวนให้กับค่าเงินบาทต่อเนื่อง ส่วนประเด็นในประเทศ ติดตามตัวเลขดุลบัญชีเดินสะพัดเดือนก.ค. และความชัดเจนด้านนโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาลใหม่
อนึ่ง เรามองเงินบาทพักตัว สร้างฐานใหม่บริเวณ 34-35 บาทต่อดอลลาร์ ในระยะสั้นนี้ ขณะที่ตลาดซึมซับการคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะลดดอกเบี้ยไปพอสมควรแล้ว ความไม่แน่นอนจึงมาในลักษณะของตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯกับขนาดของการชะลอตัว (แย่กว่าคาดบ้าง แย่น้อยกว่าคาดบ้าง) แต่ภาพระยะกลางยังมองเงินบาทอยู่ในทิศทางแข็งค่า
สำหรับการเคลื่อนไหวของสกุลเงินในภูมิภาคช่วง 1 ส.ค.-23 ส.ค.ที่ผ่านมาพบว่า สกุลเงินส่วนใหญ่แข็งค่า นำโดย รูเปียห์-อินโดนีเซีย 5.19% รองลงมาเป็นริงกิต-มาเลเซีย 4.88% บาท-ไทย 4% เปโซ-ฟิลิปปินส์ 3.60% ดอลลาร์-ไต้หวัน 2.71% วอน-เกาหลีใต้ 2.46% ดอลลาร์-สิงคโปร์ 2.19%หยวน-จีน 1.27%ดอง-เวียดนาม 1.10% ยกเว้น รูปี-อินเดียอ่อนค่า 0.17% โดยเดือนนี้เงินบาทแข็งค่าเป็นอันดับที่ 3 ของกลุ่มสกุลเงินเกิดใหม่ในเอเชีย ตามการคาดหวังเฟดใกล้ลดดอกเบี้ยและราคาทองคำตลาดโลกที่ทำจุดสูงสุดครั้งใหม่ อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ 1 ส.ค.-22 ส.ค.นักลงทุนต่างชาติ ขายหุ้นไทยสุทธิ 9.9 พันล้านบาท แต่ซื้อพันธบัตรสุทธิ 2.6 หมื่นล้านบาท
