นายกฯเผยเหตุผลจับมือ “ปชป.”ร่วมรัฐบาลเหตุเห็นศักยภาพ ความเปลี่ยนแปลง ยอมรับเข้าใจคนเสื้อแดงดี เมิน “เสรีพิศุทธ์”ขอโฟกัสเรื่องสำคัญ
เมื่อเวลา 13.45 น. วันที่ 30 ส.ค. ทึ่ จ.สุโขทัย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์กรณีพรรคประชาธิปัตย์เข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทยว่า รัฐบาลที่ดี รัฐบาลที่จะช่วยเหลือประชาชนได้ เสถียรภาพเป็นเรื่อง สำคัญ เมื่อพรรคเพื่อไทยไม่ได้เชิญพรรคพลังประชารัฐเข้าร่วม การแก้กฎหมายต่างๆต้องมีเสียงมากพอ ไม่เช่นนั้นการแก้กฎหมายช่วยเหลือประชาชนอาจสะดุดได้ วันนี้ฝ่ายบริหารพรรคประชาธิปัตย์ไม่เหมือนในหลายทศวรรษ การที่เราร่วมรัฐบาลกัน ไม่ได้แปลว่าพรรคเพื่อไทยยอมรับการกระทำของผู้บริหารพรรคประชาธิปัตย์ในอดีต วันนี้ทุกอย่างเปลี่ยนไปเยอะมาก เราต้องการรัฐบาลที่มีเสถียรภาพ การได้เสียงของพรรคประชาธิปัตย์ คือปัจจัยที่ทำให้เรามีเสียงมากพอ
นางสาวแพทองธาร กล่าวถึงคนเสื้อแดงบางกลุ่มที่ไม่พอใจ กับการร่วมรัฐบาลกับพรรคประชาธิปัตย์ ว่า ตนเองก็เป็นคนเสื้อแดง พร้อมย้ำว่าพรรคเพื่อไทยมีเป้าหมายชัดเจน จะต้องแก้ปัญหาให้ประชาชนให้ได้ นโยบายหลายนโยบายต้องทำให้สำเร็จ และเพื่อไทยก็เป็นพรรคที่ทำนโยบายสำเร็จมาเยอะแล้ว และกระบวนการทางการเมืองก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง วันนี้พรรคประชาธิปัตย์ผ่านมาแล้วหลาย 10 ปี ผู้บริหารก็ยังเปลี่ยน แม้ชื่อจะยังเป็นพรรคประชาธิปัตย์เหมือนเดิม แต่หลายอย่างได้เปลี่ยนไปมาก และคิดว่าวันนี้ต้องเดินหน้าต่อแล้ว และหากจะมายึดติดกับการเมืองเดิม จะเป็นการถ่วงรั้ง แม้แต่เรื่องฟ้องร้อง ที่บางเรื่องเป็นเรื่องเล็กน้อย ส่วนตัวมองว่าไม่ได้จำเป็นสำหรับการบริหารประเทศ และสิ่งที่อยากจะบอกกับคนเสื้อแดง ขอพูดในฐานะนายกรัฐมนตรี ที่เคยสัญญาไว้ว่าจะเป็นนายกรัฐมนตรีของทุกคน จะทำหน้าที่เพื่อประชาชนทุกคนและตนก็เข้าใจความรู้สึกของคนเสื้อแดงเป็นอย่างดี คนเสื้อแดงจะมาพูดไม่ได้ว่าตนไม่เข้าใจ แล้ววันนี้เราพร้อมหรือยังที่จะก้าวไปข้างหน้าข้างหน้า เตรียมประเทศให้กับลูกหลาน วันนี้เราต้องเป็นผู้ใหญ่ที่พร้อม เพราะนี่คือสิ่งสำคัญ
เมื่อถามว่าสาเหตุที่ตัดสินใจเลือกพรรค ประชาธิปัตย์ร่วมรัฐบาล เพราะเห็นศักยภาพและความเปลี่ยนแปลงของคนรุ่นใหม่ใช่หรือไม่ นางสาวแพทองธาร ได้ยกตัวอย่างว่า เหมือนมีประเทศหนึ่งที่ปกครองแบบเผด็จการมา เราก็ไม่ค้าขายกับเขา แต่วันหนึ่งเขาเปลี่ยนไปเป็นประเทศที่เป็นประชาธิปไตยแล้ว เราจะซื้อขายกับเขาต่อ มันคือการมองไปข้างหน้า ว่านี่คืออนาคต และต่อจากนี้ เราสามารถค้าขายกับประเทศนั้นได้ ซึ่งเป็นภาพที่เราจะต้องพุ่งเป้าไปยังจุดนั้น อยากขอสื่อมวลชนให้กำลังใจ และผลักดันประเทศไปพร้อมกัน เพราะไม่มีใครทำคนเดียวได้ อย่าไปให้ความสำคัญกับอะไรที่ไม่สำคัญ กับการฟ้องร้อง ประเด็นที่ไม่สำคัญ ขอให้ช่วยกัน หน้าที่นี้มันหนักและไม่ได้ง่าย จึงขอความร่วมมือจากทุกฝ่าย
ส่วนที่พรรคพลังประชารัฐ เตรียมที่จะเดินหน้าร้อง สอบต่อองค์กรอิสระ นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า คงไปห้ามการกระทำของเขาไม่ได้ แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นในพรรคพลังประชารัฐ ก็ให้เป็นปัญหาของเขา ซึ่งตนไม่มีส่วนไปเกี่ยวข้องกับการตัดสินใจอะไรทั้งสิ้นให้เขาแก้ปัญหากันเอง
ส่วนเหตุผลหลักที่ไม่เอาพรรคพลังประชารัฐร่วมรัฐบาลเป็นเพราะพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐหรือไม่นั้น นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า มีเหตุผลหลายอย่าง ที่ทำให้ไม่สามารถทำงานร่วมกันต่อไปได้
เมื่อถามว่าได้คุยกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ในฐานะบิดาบ้างหรือไม่กรณี พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ออกมาระบุว่าได้ไปเยี่ยมนายทักษิณที่โรงพยาบาลตำรวจถึงสองครั้ง น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า อยากให้โฟกัสที่เรื่องสำคัญค่ะ ส่วนพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์น้อยใจที่ไม่ได้ตำแหน่งเลยออกมาแฉว่านายทักษิณครอบงำพรรคร่วมรัฐบาล โดยเรียกพรรคร่วมรัฐบาลไปประชุมที่บ้านจันทร์ส่องหล้า อาจจะเป็นตนมากกว่าที่ครอบงำนายทักษิณ ข้อเท็จจริง คือนายทักษิณไม่ได้ครอบงำ การปรึกษากันคือเรื่องธรรมดา แต่ถ้าหากจะหาเรื่องกันเช่นนั้น มันก็เป็นอย่างนั้น แต่ความจริงไม่มีการครอบงำอะไร ทุกคนมีตัวตน มีความคิดเป็นของตัวเอง มีคำปรึกษาจากทุกคนที่สามารถช่วยกัน ทำงานให้ประเทศต่อ ก็แค่นั้นเอง