กลาโหมยุค”บิ๊กอ้วน-บิ๊กเล็ก”กับเผือกร้อนตั้ง ”ผบ.ทร.”คนใหม่

ศึกหนักของรัฐบาล “แพทองธาร ชินวัตร”ที่รออยู่ หลังผ่านพ้นกระบวนการที่ นายกฯ แพทองธาร นำครม.เข้าเฝ้าถวายสัตย์ปฏิญาณตน  เมื่อวันศุกร์ที่ 6 ก.ย. และมีการประชุมครม.เสร็จสิ้นไปเมื่อวันเสาร์ที่ 7 ก.ย.ที่ผ่านมา ก็คือการแถลงนโยบายรัฐบาลต่อที่ประชุมร่วมรัฐสภาที่เคาะออกมาแล้วว่าจะประชุมกันวันที่ 12-13 ก.ย.นี้  

และหลังเสร็จสิ้นการแถลงนโยบายแล้ว ก็ถือว่า นายกฯ แพทองธาร สามารถใช้อำนาจนายกฯบริหารราชการแผ่นดินได้อย่างเป็นทางการ และคาดว่า อาจจะมีการนัดประชุมครม.ทันทีหลังเสร็จสิ้นการแถลงนโยบาย แต่เบื้องต้นหากไม่มีอะไรรีบร้อน ข่าวบางกระแสบอกว่า จะประชุมนัดแรก อังคารที่ 17 ก.ย. ที่คาดหมายกันว่า ประชุมครม.นัดแรก จะมีเรื่องสำคัญเข้าที่ประชุมครม.มากมาย อาทิ “การแบ่งงานให้กับรองนายกฯและรมต.สำนักนายกรัฐมนตรี”ว่ารองนายกฯคนไหนกำกับดูแลหน่วยงานใด

แน่นอนว่า หากดูจากรูปการณ์ทางการเมือง เบอร์สองของรัฐบาล รองจาก แพทองธาร นายกฯ  ก็คือ “ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและรมว.กลาโหม”ที่ต่อจากนี้ จะมีฉายาการเมืองใหม่ว่า”บิ๊กอ้วน”แล้ว หลังเป็นรมว.กลาโหม และรองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง ที่จะดูแลหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเช่น สภาความมั่นคงแห่งชาติ ,สำนักข่าวกรองแห่งชาติ และถูกคาดหมายว่า นายกฯอาจเซ็นมอบอำนาจให้รับผิดชอบ “สำนักงานตำรวจแห่งชาติ”แทนนายกฯด้วย แต่ในส่วนของ “ประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ”หรือก.ตร. ยังคงเป็นตำแหน่งเฉพาะตัวที่ นายกฯ ต้องเป็นเท่านั้น เช่นเดียวกับ การเสนอชื่อแต่งตั้ง”ผบ.ตร.”คนใหม่ ที่จะมาแทน พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ที่จะเกษียณ 30 ก.ย.นี้ ตามพรบ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2565 ก็เขียนล็อกไว้ชัดว่า ให้นายกฯ เท่านั้นเป็นคนเสนอชื่อผบ.ตร. ต่อที่ประชุมก.ตร.

ที่ถึงตอนนี้หลัง บิ๊กโจ๊ก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล อดีตรองผบ.ตร. อาวุโสอันดับหนึ่ง ถูกให้ออกจากราชการ ทำให้เหลือแคนดิเดตคือ  พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร. อาวุโสอันดับหนึ่งแทน บิ๊กโจ๊ก , พล.ต.อ. ไกรบุญ ทรวดทรง จเรตำรวจ และ พล.ต.อ. ชธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร.

ที่ข่าวว่า “ทักษิณ ชินวัตร”มีชื่อผบ.ตร.คนใหม่ในใจแล้ว และลือกันว่า มีการเรียกดูตัว ที่บ้านจันทร์ส่องหล้าและตึกชินวัตร 3 เรียบร้อยแล้ว ที่ถึงตอนนี้ บิ๊กต่าย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ยังคงเป็นเต็งหนึ่งอยู่ แต่ก็ต้องรอดูจะมีสถานการณ์แทรกซ้อน จนทำให้โผพลิกหรือไม่

ขณะที่ “บิ๊กอ้วน-ภูมิธรรม”กับบทบาทใหม่ ในการเป็น รมว.กลาโหม ที่ดูจะไม่คุ้นเคยนัก แต่การที่ ทักษิณ ส่ง ขุนพลคู่ใจอย่าง ภูมิธรรม เข้าไปคุมทหาร -ผูกมิตรบิ๊กท็อปบู๊ต แบบนี้ ย่อมไม่ธรรมดาแน่นอน

โดยแม้  ภูมิธรรม จะเป็นรมว.กลาโหม แต่บทบาทหลักในการบริหารงานในกระทรวงกลาโหม ตัวหลักน่าจะเป็น “รมช.กลาโหม พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ อดีตรองผบ.ทบ.” ที่สอดแทรกเข้ามาได้สำเร็จ ในโควตา รวมไทยสร้างชาติ ที่ข่าวว่าเป็นชื่อที่  “ผู้ใหญ่นอกพรรค”แต่เคยอยู่ในพรรครทสช.มาก่อน เป็นระดับซุปเปอร์วีไอพีที่คนทั้งรวมไทยสร้างชาติ ทั้งพรรคให้ความเกรงใจ “ฝากมา” หลังก่อนหน้านี้วืดมาตลอด แต่รอบนี้สมหวังเสียที

ด้วยความที่เป็นอดีตทหารมาทั้งชีวิต แม้จะไปจบชีวิตราชการในตำแหน่ง เลขาธิการสมช. แต่”บิ๊กเล็ก พลเอกณัฐพล”  จะมีบทบาทสำคัญในกระทรวงกลาโหม แน่นอน ในฐานะพี่เลี้ยงคนสำคัญให้กับภูมิธรรม ในการเป็นรมว.กลาโหม   

สำหรับงานเฉพาะหน้า ที่แวดวงทหาร-การเมือง กำลังจับตามอง “บิ๊กอ้วน -รมว.กลาโหม” ขณะนี้ก็คือเรื่องของ”บัญชีแต่งตั้ง-โยกย้าย-จัดทัพบิ๊กทหาร”ประจำปี 2567 ที่ผ่านความเห็นชอบจากบอร์ดแต่งตั้งระดับนายทหารระดับนายพลไปเมื่อ 3 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยเฉพาะในส่วนของ”กองทัพบก-กองทับเรือ”ที่ปีนี้ “ผบ.ทบ.-ผบ.ทร.”เกษียณทั้งคู่

แต่หากโฟกัส เฉพาะกองทัพบก-กองทัพเรือ ตามข่าว ก็ออกมาดังนี้ พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์  (ตท.26) หรือ บิ๊กปู จากเสนาธิการทหารบก เป็น ผบ.ทบ.โดยจะอยู่ในตำแหน่งยาวสามปี เกษียณปี 2570 , พล.อ.ณัฐวุฒิ นาคะนคร  (ตท.24) รอง ผบ.ทบ., พล.อ.วสุ เจียมสุ (ตท.25) ผู้ช่วย ผบ.ทบ., พล.ท.ชิษณุพงศ์ รอดศิริ (ตท.26) ผู้ช่วย ผบ.ทบ., พล.ท.ธงชัย รอดย้อย (ตท.25) เสธ.ทบ.

ท่ามกลางข่าวว่า โผระดับแม่ทัพภาค มีความพยายามต่อรองเปลี่ยนชื่อแม่ทัพภาคที่ 1, แม่ทัพภาคที่ 2, แม่ทัพภาคที่ 4 รวมถึงอีกหลายตำแหน่งในกองทัพภาคที่ 2 แต่ พล.อ.เจริญชัย หินเธาว์ ผบ.ทบ.ขอไว้ลายก่อนเกษียณ ด้วยการยืนยันตามรายชื่อเดิม  พล.ท.อมฤต บุญสุยา (ตท.27) แม่ทัพน้อยที่ 1 เป็นแม่ทัพภาคที่ 1, พล.ท.บุญสิน พาดกลาง (ตท.26) แม่ทัพน้อยภาคที่ 2 เป็น มทภ.2, พล.ท.กิตติพงษ์ แจ่มสุวรรณ (ตท.23) แม่ทัพน้อยที่ 3 เป็นแม่ทัพภาคที่ 3 และ พล.ต.ไพศาล หนูสังข์  รองแม่ทัพภาคที่ 4 เป็น มทภ.4

แต่ที่เป็นประเด็นมากกว่า และหลายฝ่ายกำลังรอดูว่า”บิ๊กอ้วน-รมว.กลาโหม”จะว่าอย่างไร ก็คือ เก้าอี้ ผบ.ทร. ซึ่งชื่อที่ออกมาคือ พล.ร.อ.จิรพล ว่องวิทย์ (ตท.23) ที่ปรึกษาพิเศษ ทร. เป็น ผบ.ทร.  ที่ไม่ได้อยู่ในไลน์ 5 ฉลามกองทัพเรือ และไม่ได้จบโรงเรียนนายเรือ แต่จบโรงเรียนนายเรือเยอรมัน ทั้งๆ ที่มีแคนดิเดตในตำแหน่งหลักหลายคนอยู่ในแผงอำนาจของกองทัพเรือที่สามารถดันขึ้นเป็นผบ.ทร.ได้ คือ พล.ร.อ.ชลธิศ นาวานุเคราะห์ (ตท.23) ผู้ช่วย ผบ.ทร., พล.ร.อ.วรวุธ พฤกษารุ่งเรือง เสธ.ทร. และ พล.ร.อ.สุวิน แจ้งยอดสุข (ตท.25) รอง ผบ.ทร. น้องชาย พล.ต.อ.สุวัฒน์ อดีตผบ.ตร. ที่นอกจากพลาดหวังเก้าอี้ผบ.ทร.แล้ว ก็จะถูกส่งออกไปเป็นรอง ผบ.ทหารสูงสุด แต่สุดท้าย พล.ร.อ.อะดุงยืนยันเสนอชื่อ พล.ร.อ.จิรพล เพื่อนร่วมรุ่น ที่เหลืออายุราชการอีกหนึ่งปี เป็น ผบ.ทร. คนใหม่

จนมีข่าวว่า เกิดคลื่นลมแรง-คลื่นใต้น้ำขึ้นในกองทัพเรือที่ไม่เห็นด้วย  ถึงขั้นมีข่าวว่า มีใบปลิวในทร.ไม่เห็นด้วยกับการตั้งผบ.ทร.ที่ไม่ได้จบโรงเรียนายเรือของไทย

คราวนี้ ต้องดูแล้วว่า ภูมิธรรม-รมว.กลาโหม จะว่าอย่างไร จะมีการเรียกประชุมบอร์ดฯ เพื่อขอให้ทบทวน รายชื่อผบ.ทร.หรือไม่

อย่างไรก็ตาม หลายฝ่ายมองว่า ภูมิธรรม ที่เพิ่งจะเข้ามาไม่กี่วัน คงไม่ทำเช่นนั้น เพราะจะถูกมองว่า เข้ามาไม่กี่วัน ก็เข้ามา”ล้วงโผ”ทหารเสียแล้ว อาจทำให้เสียขบวนได้ ยกเว้นแต่ แรงต้านแรงจริงๆ หรือมีข้อมูลใหม่ ข้อมูลพิเศษ ที่จะทำให้ขอให้ มีการทบทวน  ถ้าแบบนี้ อาจขอเรียกถกบอร์ดแต่งตั้งฯ อีกรอบก็ได้  เพื่อขอฟังเหตุผลการแต่งตั้ง พล.ร.อ.จิรพล เป็นผบ.ทร. คนใหม่ แต่ถ้าไม่มีข้อมูลอะไรที่จะมาค้านได้ คนก็เชื่อว่า ภูมิธรรม ก็น่าจะไม่ขอให้มีการทบทวนรื้อชื่อแต่อย่างใด

และจบจากเรื่องบัญชีแต่งตั้งโยกย้ายทหารประจำปีเสร็จ ก็ยังมีอีกหลายเรื่องให้ รมว.กลาโหม ต้องเข้าไปพิจารณาเช่นเรื่อง เรือดำน้ำของจีน ที่ยืดเยื้อมานาน เรื่องการจัดซื้ออาวุธของกองทัพอากาศ เป็นต้น ส่วน บิ๊กอ้วน จะทำหน้าที่ในการเป็นรมว.กลาโหมได้ดีแค่ไหน คงต้องรอสัก 4-6 เดือนถึงจะพอวัดผลได้

…………………………..

คอลัมน์…..ส่องป้อมค่ายการเมือง

โดย….”พระจันทร์เสี้ยว”