“รุ่ง” ประเมินเงินบาทสัปดาห์หน้าเคลื่อนไหวในกรอบ 33.20-34 บาทต่อดอลลาร์ เปิดสถิติตั้งแต่ 1 ก.ย.- 6 ก.ย. เงินบาทแข็งรั้งอันดับ 2 ในภูมิภาค เงินทุนไหลเข้าหุ้นไทย-พันธบัตร 14,200 ล้านบาท
น.ส. รุ่ง สงวนเรือง ผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมธุรกิจและกำกับดูแลโกลบอลมาร์เก็ตส์ เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทในสัปดาห์หน้าเคลื่อนไหวในกรอบ 33.20-34 บาทต่อดอลลาร์ นักลงทุนจะให้ความสนใจกับตัวเลขเงินเฟ้อเดือนส.ค.ของสหรัฐฯ การประชุมธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ซึ่งคาดว่าจะลดดอกเบี้ยลง 0.25% สู่ระดับ 3.50% รวมถึงการโต้วาทีของแคนดิเดตประธานาธิบดีสหรัฐฯ
สำหรับการเคลื่อนไหวของสกุลเงินในภูมิภาคช่วง 1 ก.ย.-6 ก.ย. พบว่า สกุลเงินส่วนใหญ่แข็งค่านำโดย ดอง-เวียดนาม1.12% รองลงมาเป็น บาท-ไทย 0.88% วอน-เกาหลีใต้ 0.68% ดอลลาร์-สิงคโปร์ 0.68% รูเปียห์-อินโดนีเซีย 0.57% เปโซ-ฟิลิปปินส์ 0.39% หยวน-จีน 0.08%ดอลลาร์-ไต้หวัน 0.04% ยกเว้นริงกิต-มาเลเซียอ่อนค่า 0.09% และรูปี-อินเดีย 0.08%
โดยเงินบาทแข็งค่าอย่างรวดเร็วจากกระแสเงินทุนไหลเข้า โดยเมื่อวันที่ 6 ก.ย.ที่ผ่านมาเงินบาทแข็งค่าสุด 33.50 บาทต่อดอลลาร์ มากสุดตั้งแต่กลางเดือนพ.ค. 66 หรือประมาณ 15 เดือน ขณะที่ตลาดมั่นใจว่าเฟดจะลดดอกเบี้ยลงอย่างน้อย 0.25% ในการประชุมวันที่ 17-18 ก.ย.นี้ อีกทั้งบรรยากาศตลาดหุ้นไทยฟื้นตัวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญตามความไม่แน่นอนทางการเมืองที่คลายตัวลงในระยะสั้นและความหวังเกี่ยวกับการกระตุ้นเศรษฐกิจและตลาดทุนของไทย
อย่างไรก็ตาม การที่เงินบาทปรับตัวอย่างรวดเร็วสู่ระดับแข็งค่าสุดในรอบ 15 เดือน ทำให้เรามองว่าอาจมีการพักฐาน และความผันผวนจะสูงขึ้นขณะที่นักลงทุนไม่แน่ใจเกี่ยวกับขนาดความรุนแรงของการชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯทั้งนี้ตั้งแต่ 1 ก.ย.-6 ก.ย.ที่ผ่านมานักลงทุนต่างชาติซื้อหุ้นไทยสุทธิ 4,700 ล้านบาท และพันธบัตรไทยสุทธิ 9,5 00 ล้านบาท
