วันพุธ, พฤศจิกายน 27, 2024
spot_img
หน้าแรกHighlight‘เรืองไกร’ชี้ตั้ง‘สุรพงษ์’ส่อฝ่าฝืนจริยธรรม เคย‘ต้องคำพิพากษา’คดีซื้อเสียงปี2563
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

‘เรืองไกร’ชี้ตั้ง‘สุรพงษ์’ส่อฝ่าฝืนจริยธรรม เคย‘ต้องคำพิพากษา’คดีซื้อเสียงปี2563

เอาแล้ว ! ‘เรืองไกร’ ร้อง กกต. สอบ ‘นายกฯ’ ตั้ง “สุรพงษ์ ปิยะโชติ รมช.คมนาคม” ฝ่าฝืนจริยธรรมข้อ 8 หรือไม่ งัดคำพิพากษาศาลกาญจนบุรี พิพากษาซื้อเสียงเลือกนายก อบจ.กาญฯ ปี 2563 อิงคำพิพากษาศาลรัฐธรรมนูญปี 67 นายกฯต้องตั้งคนซื่อสัตย์ สุจริต

เมื่อวันที่ 14 ก.ย.67 นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยว่า วันนี้ตนได้ส่งหนังสือทางไปรษณีย์ EMS ถึงคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อขอให้ตรวจสอบ น.ส.แพทองธาร ชินวัตรนายกรัฐมนตรี กรณีเสนอชื่อนายสุรพงษ์ ปิยะโชติ เป็นรมช.คมนาคม จะเข้าข่ายมีความไม่ซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 160 (4) หรือไม่ และการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรม ข้อ 8 หรือไม่ และเข้าข่ายเป็นเหตุให้ความเป็นรัฐมนตรีของนายกฯ สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามความในรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 (4) ประกอบมาตรา 160 (4) (5) หรือไม่

นายเรืองไกร กล่าวว่า โดยมีข้อเท็จจริงให้ กกต. ตรวจสอบ ดังนี้ 1.เมื่อวันที่ 4 มี.ค. 2565 ศาลจังหวัดกาญจนบุรี ได้มีคำพิพากษาในคดีหมายเลขแดงที่ อ1141/2565ว่า จำเลยมีความผิดตามพ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2562 มาตรา 65 (1), 126 จำคุก 2 ปี และปรับ 40,000 บาท จำเลยให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 1 ปี และปรับ 20,000 บาท ไม่ปรากฏว่าจำเลยเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน โทษจำคุกให้รอการลงโทษให้มีกำหนด 1 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 ไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29, 30 จ่ายสินบนนำจับอีกกึ่งหนึ่งของค่าปรับแก่ผู้แจ้งความนำจับ ริบธนบัตรรัฐบาลไทย จำนวน 1,500 บาท เพิกถอนสิทธิเลือกตั้งจำเลยมีกำหนด 20 ปี”

2.คำพิพากษาดังกล่าว มีส่วนที่ระบุชื่อนายสุรพงษ์ ปิยะโชติ ไว้ด้วย ดังนี้ “โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 19 ธ.ค. 2563 เวลากลางวัน หลังมีประกาศให้มีการเลือกตั้งนายกอบจ.กาญจนบุรีและสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรี ก่อนถึงวันที่กำหนดเลือกตั้งตามประกาศผอ.เลือกตั้งประจำอบจ.กาญจนบุรี จำเลยได้ให้ทรัพย์สินเป็นเงินสดคนละ 500 บาท แก่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งนายกอบจ.กาญจนบุรี และเป็นผู้มีสิทธิเลือกตั้งสมาชิกสภาอบจ.กาญจนบุรี เขตเลือกตั้งที่ 5 ต.หนองบัว อ.เมืองกาญจนบุรี จ.กาญจนบุรีจำนวน 3 คน รวม 1,500 บาท เพื่อจูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั้งสามคนดังกล่าวให้ลงคะแนนเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรี ให้แก่นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ ซึ่งเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรี หมายเลข 3 อันเป็นการฝ่าฝืนต่อกฎหมาย เจ้าพนักงานจึงยึดธนบัตรของกลาง เก็บรักษาไว้ ขอให้ลงโทษตามพ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2562 มาตรา 4, 32, 65, 126 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33 ริบธนบัตรรัฐบาลไทย จำนวน 1,500 บาท เพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของจำเลย 20 ปี และจ่ายสินบนนำจับไม่เกินกึ่งหนึ่งจากเงินค่าปรับแก่ผู้แจ้งความนำจับ จำเลยให้การรับสารภาพ”

3.กรณีตามคำพิพากษาซึ่งจำเลยให้การรับสารภาพนั้น ปรากฏข้อเท็จจริงที่เกี่ยวกับนายสุรพงษ์ ปิยะโชติ ในส่วนที่ระบุว่า “เพื่อจูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั้งสามคนดังกล่าวให้ลงคะแนนเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรี ให้แก่นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ ซึ่งเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรี หมายเลข 3 …” ซึ่งหากนำแนวคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่ 21/2567 ในส่วนที่วินิจฉัยว่า “…การพิจารณาว่าบุคคลใดมีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 160 (4) … เป็นดุลพินิจของนายกรัฐมนตรีจะต้องเป็นผู้พิจารณาในฐานะผู้รับผิดชอบ…” กรณี จึงเป็นความรับผิดชอบของนายกฯ ที่จะต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงตามคำพิพากษาดังกล่าวด้วย ดังนั้น จึงเป็นเหตุอันควรขอให้ กกต. ตรวจสอบว่า นายกฯ จะมีเหตุสิ้นสุดลงเฉพาะตัวจากการใช้ดุลพินิจเสนอชื่อนายสุรพงษ์ ปิยะโชติ เป็นรมช.คมนาคม หรือไม่

4.มาตรฐานทางจริยธรรม ข้อ 8 กำหนดว่า “ต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ไม่แสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ เพื่อตนเอง หรือผู้อื่น หรือมีพฤติการณ์ที่รู้เห็นหรือยินยอมให้ผู้อื่นใช้ตำแหน่งหน้าที่ของตนแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ”ดังนั้น โดยผลของคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่ 21/2567 ทำให้การตรวจสอบทางด้านจริยธรรมจะมีตามมาอีกมากมายหลายกรณี.

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img