กองทุนรวมวายุภักษ์ 1 ประเภท ก. เปิดจองซื้อวันนี้ (16 ก.ย.) ให้กับนักลงทุนทั่วไป มูลค่ากว่ารวม 1-1.5 แสนล้านบาท ชูอัตราผลตอบแทนขั้นต่ำ 3% ต่อปี และสูงสุดไม่เกิน 9% ต่อปี คงที่ตลอดระยะเวลา 10 ปี
รายงานข่าวจากกระทรวงการคลัง แจ้งว่า กองทุนรวมวายุภักษ์ 1 ประเภท ก. เปิดขายหน่วยลงทุน แก่ผู้ลงทุนทั่วไป มูลค่ารวม 1-1.5 แสนล้านบาท มีอัตราผลตอบแทนขั้นต่ำ 3% ต่อปี และสูงสุดไม่เกิน 9% ต่อปี คงที่ตลอดระยะเวลา 10 ปี ให้นักลงทุนทั่วไปที่เป็นนักลงทุนรายย่อยในประเทศจองซื้อในวันที่ 16-20 กันยายนนี้ ราคาหน่วยละ 10 บาท เริ่มต้นที่ 1,000 หน่วย หรือมูลค่า 10,000 บาท
โดยนักลงทุนรายย่อยได้รับการจัดสรรด้วยวิธี Small Lot First เพื่อกระจายหน่วยลงทุนอย่างเท่าเทียม คาดว่าจะนำหน่วยลงทุนประเภท ก. เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ภายในเดือนตุลาคมนี้
ทั้งนี้ ผู้ถือหน่วยลงทุนประเภท ก. จะได้รับเงินปันผลอย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง คำนวณจากมูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) ของหน่วยลงทุนประเภท ก. ที่ 10 บาทต่อหน่วย ไม่ใช่การรับประกันหรือค้ำประกันผลตอบแทน แต่เป็นกลไกคุ้มครองผลตอบแทนของกองทุน ทำให้ผู้ถือหน่วยลงทุนประเภท ก. จะได้รับเงินปันผลก่อนผู้ถือหน่วยลงทุนประเภท ข. จากนั้นผลตอบแทนส่วนที่เหลือจะเป็นของหน่วยลงทุนประเภท ข
กรณีกองทุนมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิรวม (เอ็นเอวี) รวมของกองทุนฯ ณ วันครบกำหนดระยะเวลาการลงทุนเบื้องต้น (10 ปี) ต่ำกว่ามูลค่าเงินลงทุนเริ่มต้นของหน่วยลงทุนประเภท ก. ผู้ถือหน่วยลงทุนประเภท ก. อาจได้รับคืนเงินลงทุนน้อยกว่ามูลค่าเงินลงทุนเริ่มต้นได้ และเมื่อครบระยะเวลาการลงทุนเบื้องต้น 10 ปี หากกองทุนจะระดมทุนต่อ จะให้สิทธิผู้ถือหน่วยลงทุนประเภท ก. ขยายระยะเวลาการลงทุน หรือขายคืนหน่วยลงทุน (redeem) ตามแนวทางที่กำหนด แต่หากกองทุนไม่ประสงค์จะระดมทุนต่อ บริษัทจัดการจะรับซื้อคืนหรือไถ่ถอนหน่วยลงทุนประเภท ก. ทั้งหมดโดยอัตโนมัติ
โดยแบ่งผู้ลงทุนเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ 1.ผู้ลงทุนรายย่อยในประเทศ จะต้องเป็นบุคคลธรรมดาสัญชาติไทยที่มีถิ่นที่อยู่ในไทยและมีอายุไม่น้อยกว่า 20 ปีบริบูรณ์ เป็นนิติบุคคลที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายไทย หรือกองทุนส่วนบุคคลของผู้ลงทุนรายย่อยดังกล่าว เบื้องต้นได้กำหนดสัดส่วนการเสนอขายหน่วยลงทุนประเภท ก. แก่ผู้ลงทุนกลุ่มนี้ 3-5 หมื่นล้านบาท และ 2.ผู้ลงทุนสถาบันและนิติบุคคลเฉพาะกลุ่ม อีกประมาณ 1 แสน-1.2 แสนล้านบาท โดยบริษัทจัดการและผู้จัดจำหน่ายหน่วยลงทุนมีสิทธิเปลี่ยนแปลงจำนวนหน่วยลงทุนที่เสนอขายต่อผู้ลงทุนแต่ละประเภท และอาจพิจารณาเพิ่มหรือลดสัดส่วนการเสนอขายหน่วยลงทุนแก่ผู้ลงทุนแต่ละประเภท (Claw back / Claw forward) หรือเปลี่ยนแปลงวิธีการจัดสรรหน่วยลงทุนตามความเหมาะสม
ทั้งนี้สามารถจองซื้อได้ที่สำนักงาน สาขา และ/หรือ ช่องทางออนไลน์ (เฉพาะรายที่เปิดจองซื้อทางออนไลน์) ของบริษัทจัดการและผู้สนับสนุนการขายหน่วยลงทุน รวม 8 ราย ได้แก่ 1.บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) 2.บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) 3.ธนาคารกรุงเทพจำกัด (มหาชน) 4.ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) 5.ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) 6.ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) 7.ธนาคารไทยพาณิชย์จำกัด (มหาชน) และ 8.ธนาคารออมสิน โดยขอให้ประชาชนซื้อผ่านช่องทางดังกล่าวเท่านั้น เพื่อป้องกันการถูกมิจฉาชีพหลอกลวง