“เปรียญสิบ” ได้ข่าวมาค่อนข้างชัดว่า “บุคคล” ที่จะเข้าไปเสริมทีมช่วยงาน “ชูศักดิ์ ศิรินิล” รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่กำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ และสนองกิจการคณะสงฆ์นั่นคือ
“นักการเมืองรุ่นเก๋า-อดีตมหา” ซึ่งหากเปิดชื่อออกมาแล้ว…
ทุกคนร้อง อ๋อ!! พร้อมสาธุการ เพราะทำงานช่วยคณะสงฆ์และเรียกร้องความเป็นธรรมให้พระคุณเจ้า “คดีเงินทอนวัด” มาต่อเนื่อง
พรรคเพื่อไทย…ตลอด 1 ปีที่ผ่านมานี้ เสียดายโอกาส เรียกคะแนนจากชาวพุทธ และคำยกย่องจาก “คณะสงฆ์”
ตลอด 1 ปีที่ผ่านมานี้ “รัฐบาล” นำโดยพรรคเพื่อไทย เสียชื่อยี่ห้อ “ทักษิณ ชินวัตร” หมด
นโยบายที่ส่งผลดีต่อคณะสงฆ์และชาวพุทธ ถามว่า..มีอะไรบ้าง ที่เป็นรูปธรรม
ไม่มี..เพราะรุ่นแรก เอาใครมาก็ไม่รู้ !! นโยบายที่ประกาศไว้ 7 ข้อ จะทำเรื่องพระพุทธศาสนาและคณะสงฆ์
บางข้อ..คณะสงฆ์ ร้อง “ยี้” โดยเฉพาะบัตรสมาร์ทการ์ด
และเกือบทุกข้อที่ประกาศออกมาคืองาน “รูทีน” งานประจำที่สำนักงานพุทธเขาทำกันอยู่แล้ว
ไม่มีนโยบายเชิงรุก..อะไรที่ส่งผลดีต่อพระพุทธศาสนาและคณะสงฆ์เลย
ถูกข้าราชการประจำ “ต้ม” เอาโครงการมาเสนอให้รัฐมนตรีประกาศเป็นนโยบาย
“เปรียญสิบ” ต้องใจเรื่องเดียวคือ การสร้างพุทธมณฑลให้เป็นศูนย์กลางพุทธโลก และแนวคิดที่จะปรับสถานที่ให้สร้างรายได้ให้ตัวเอง
ยุคพรรคเพื่อไทย เป็นฝ่ายค้าน โฆษณาชวนเชื่อจังว่าหากเป็นรัฐบาลจะทำโน้นนี้นั่น เพื่อพระพุทธศาสนา เพื่อคณะสงฆ์ และเพื่อชาวพุทธ ทั้งเรื่องร่าง พ.ร.บ.สภาชาวพุทธ, ร่าง พ.ร.บ.สังเวชนียสถาน, ร่าง พ.ร.บ.ปกป้องและคุ้มครองพระพุทธศาสนา หรือแม้กระทั้งร่าง พ.ร.บ.ธนาคารพุทธ
เป็นรัฐบาล “เงียบเป็นป่าช้า”
“เปรียญสิบ” เคยฝากการบ้านให้พรรคเพื่อไทยในฐานะผู้นำรัฐบาล สิ่งที่รัฐบาลควรทำมีอะไรบ้าง เพื่อสนับสนุนกิจการต่างๆ ของคณะสงฆ์ ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มศักยภาพให้กับพระวินยาธิการ, ไวยาวัจกร, โครงการวัดประชารัฐสร้างสุข, พระคิลานุปัฎฐาก, การดูแลสุขภาพพระสงฆ์ ผู้สูงอายุ และอาพาธ
โครงการเหล่านี้นอกจากรัฐบาล “ได้ใจ” คณะสงฆ์และชาวพุทธแล้ว มันคือ “ผลงาน” สร้างภาพให้คณะสงฆ์ ดูดีได้ในสังคม
มิใช่เป็น “กาฝากสังคม” ดังที่คนรุ่นใหม่บางคนบางกลุ่มกล่าวหา
โดยเฉพาะศีล 5 ที่พระคุณเจ้าเพิ่งลงพื้นที่ และจบไป ทั่วประเทศการลงพื้นที่ 77 จังหวัดได้เงินอุดหนุนมาไม่ถึง 2 ล้านบาท พระต้องออกกันเองรูปละ 5 หมื่นบ้าง 3 หมื่นบ้าง
ในขณะที่หน่วยความมั่นคง เวลาจัดกิจกรรมเรื่องการสร้างความปรองดอง รู้รักสามัคคี หรือมวลชนสัมพันธ์ เพื่อให้คนในสังคมรู้รักสามัคคี ปีหนึ่งงบประมาณหลายร้อยล้านบาท
แต่พระคุณเจ้าทำงานลงพื้นที่ทั่วประเทศ จัดกิจรรรมใหญ่โต มีหน่วยงานภาครัฐและประชาชนมาร่วมมากมาย ได้ไม่ถึง 2 ล้านบาท
กระจอก..สิ้นดี
“เปรียญสิบ” ฝากแม้กระทั้งการดูแลคณะสงฆ์และชาวพุทธในภาคใต้
รัฐบาลต้องมี “ทีมพิเศษ” คิดเคาะมาตรการออกมาช่วยเหลือและเยียวยา ภายใต้การสนับสนุนด้วย “งบพิเศษ” และ หน่วยของ ศอ.บต. และ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ต้องร่วมสนับสนุน โดยมี “สำนักงานพุทธ” เป็นตัวประสาน
“เปรียญสิบ” เป็นห่วงอีกเรื่องหนึ่งที่กลายเป็น “ดินพอกหางหมู” และรัฐบาลต้องถือว่าเรื่องนี้เป็น “วาระแห่งชาติ” คือ ปัญหาที่ดินวัด ตอนนี้มีปัญหามาก หลายวัดไม่มีโฉนดที่ดิน หลายวัดพิพาทกับหน่วยงานรัฐ พิพาทกับประชาชน และหน่วยงานในท้องถิ่น แก้ไม่ตก ทั้งที่ดินราชพัสดุ สปก. กรมอุทยาน กรมป่าไม้ กรมทะเลและชายฝั่ง นิคมสหกรณ์ กระทรวงมหาดไทย หรือแม้กระทั้ง “เขตทหาร”
อันนี้ฝากถึงรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และ “ทีมงาน” ที่มีข่าวว่า “อดีตมหา-นักการเมืองรุ่นเก๋า” จะเข้าไปช่วย ขอให้การแก้ไขปัญหาทีดินวัด การออกโฉนดให้วัด ทำเป็น “วาระแห่งชาติ”
ปัญหาที่ดินวัด ที่ตั้งอยู่ในเขตที่ดินรัฐ ขอให้มันจบที่..รุ่นเรา
…………….
คอลัมน์ : ริ้วผ้าเหลือง
โดย…“เปรียญสิบ”: [email protected]