“จุลพงศ์” จี้ “แบงก์ชาติ” ทบทวนปัญหาเงินบาทแข็ง ยันกระทบ “ส่งออก-ท่องเที่ยว” วอนรบ.เลิกเล่นการเมืองให้ข่าวผ่านสื่อโจมตีธปท.รายวัน ขอ 2 ฝ่ายปิดห้องคุยกันเงียบๆ
วันที่ 25 ก.ย.2567 เวลา 11.00 น.ที่รัฐสภา นายจุลพงศ์ อยู่เกษ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะรองประธานกมธ.พาณิชย์และทรัพย์สินทางปัญญา สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงปัญหาค่าเงินบาทแข็งว่า คณะกมธ.ชุดนี้มีอำนาจหน้าที่สำคัญประการหนึ่งคือเรื่องการส่งออกและการค้าระหว่างประเทศ เนื่องจากการส่งออกและการท่องเที่ยวเป็นเครื่องจักรทางเศรษฐกิจที่เหลือเพียงสองตัวเท่านั้นในขณะนี้ที่พยุงเศรษฐกิจของไทยในขณะนี้ จึงเรียกร้องให้ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)ทบทวนปัญหาค่าเงินบาทที่กำลังแข็งค่าขึ้นในขณะนี้ เพราะการที่ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นได้กระทบการส่งออกและการท่องเที่ยวของไทยเป็นอย่างมาก และมีแนวโน้มจะกระทบการส่งออกสินค้าเกษตรของไทยในต้นปีหน้าค่อนข้างแน่นอน เพราะจะทำให้สินค้าเกษตรของไทยมีราคาแพงกว่าสินค้าจากประเทศคู่แข่ง
“ผมเพิ่งกลับจากการประชุมนักการเงินการธนาคารในเอเชียที่เซี่ยงไฮ้ในวัน 21-22 ก.ย.ที่ผ่านมา และทราบว่าธนาคารกลางของจีนกำลังทำให้ค่าเงินหยวนลดค่าลง เพื่อกระตุ้นการส่งออก และเพื่อดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ ซึ่งหากค่าเงินหยวนของจีนลดลงจะยิ่งกระทบการส่งออกของไทยมากยิ่งขึ้น การที่ธปท.จะบอกเพียงว่าไม่สนใจที่ธนาคารกลางสหรัฐฯลดดอกเบี้ยหรือไม่สนใจ หากค่าเงินหยวน จะลดลงแล้วมาเน้นดูเรื่องหนี้สินครัวเรือนอย่างเดียวน่าจะไม่ถูกต้องเพราะธปท.มีหน้าที่ดูแลเสถียรภาพ ของค่าเงินบาทเพื่อการส่งออกด้วย” รองประธานกมธ.พาณิชย์ฯ กล่าว
นายจุลพงศ์ กล่าวอีกว่า ตนเคยนั่งในบอร์ดธนาคารพาณิชย์ในต่างประเทศมาสิบปี มีเรื่องทางการเงินในระดับชาติสองเรื่องที่เขาจะไม่พูดพร่ำเพรื่อออกสื่อ และเวลาคุยกันระหว่างรัฐบาลและธนาคารกลางต้องนั่งจับเข่าคุยกันเงียบๆ สองเรื่องนั้นคือเรื่องอัตราดอกเบี้ยและค่าเงิน เพราะเป็นสองเรื่องที่อ่อนไหวมากในทางเศรษฐกิจ จึงขอให้กำลังใจน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ ว่าในฐานะที่เป็นผู้บังคับบัญชาเจ้าหน้าที่ของรัฐทุกหน่วยงาน ต้องนำการคุยกับแบงค์ชาติโดยอาจมีนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯและรมว.การคลัง พร้อมด้วยที่ปรึกษาเข้าร่วมพูดคุย และขอแนะนำว่า อย่าเผยแพร่ข่าวก่อนการประชุม และอย่าถ่ายรูปออกสื่อ เพราะเป็นเรื่องอ่อนไหวถึงในระดับการเงินระหว่างประเทศและนักลงทุนนานาชาติ ที่อาจจะมองว่ารัฐบาลกำลังครอบงำแบงค์ชาติอยู่ ขณะที่แบงค์ชาติก็ไม่ต้องการให้ถูกมองเช่นนั้น
นายจุลพงศ์ กล่าวด้วยว่าขอให้ตัดเรื่องการหาเสียงทางการเมืองว่ารัฐบาลหาทางแก้แล้ว แต่แบงค์ชาติไม่ฟัง นอกจากนี้ รมต.หรือคนในรัฐบาลที่ไม่เกี่ยวข้องก็ไม่ควรออกมาให้สัมภาษณ์สื่อโจมตีแบงค์ชาติรายวัน และขออย่างเอาเรื่องอัตราดอกเบี้ยและค่าเงินบาทมาใช้ประโยชน์ในทางการเมือง