วันนี้ เกมการเมือง “พรรคภูมิใจไทยเหนือกว่าพรรคเพื่อไทย” ทุกกระบวนท่า เป็นรองนิดหน่อยแค่ “อำนาจในมือ” แม้อยู่ในพรรคร่วมรัฐบาลด้วย แต่เล่นแรงหักเหลี่ยมชิงกระแส-รุกคืบทางอำนาจตลอดเวลา
ดูเฉพาะบทการแสดงของนักการเมืองสองค่าย และทฤษฎีปรากฏกาย ซึ่งต้องสมบทบาท ถูกจังหวะสถานการณ์ จาก “นายกฯนิด-เศรษฐา ทวีสิน” ถึง “นายกฯอิ๊งค์-แพทองธาร ชินวัตร” หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ตีบทแตกแพ้ทาง “มท.หนู-อนุทิน ชาญวีรกูล” รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย แม่ทัพใหญ่พรรคภูมิใจไทย
กลยุทธจัดการข่าวสาร ระบบพรรคภูมิใจไทยก็แข็งโป๊ก ข่าวร้ายไม่ปรากฏ ทิศทางข่าวไปในทางเดียวกัน ทั้งในพรรคและกระทรวงที่รับผิดชอบดูแล บริหารจัดการเบ็ดเสร็จ
ค่ายสีแดงเจอสี่ดอกติดๆ ค่ายสีน้ำเงินขยับแค่สองกระบวนท่า พรรคเพื่อไทยถึงกับถอยร่นเกือบตกเหว ดอกแรก เพื่อไทยย้ำหัวหมุดถอนกัญชาออกจากยาเสพติด ดอกสอง ปักธงผุดเอนเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ ดอกสาม แก้รัฐธรรมนูญรายมาตรา เน้นตีกรอบจริยธรรมนักการเมือง-รื้ออำนาจองค์กรอิสระ และ ดอกสี่ ดันดิจิทัลวอลเล็ต
“4 เรือธง” เหมือนงูเหลือมเจอเชือกกล้วย ตัวอ่อนปวกเปียก กัญชายอมเสียหน้าไม่เอาออกจากบัญชี ยาเสพติด แต่ออกกฎหมายกำกับเข้มข้นเฉพาะทางแพทย์และสุขภาพ เอนเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ เอกซเรย์ลึกถึงชั้นหินแกรนิต ต้องรอบคอบโดยประชาชนได้ประโยชน์ กระจายไปโซนที่กระตุ้นการท่องเที่ยวเพิ่ม
แก้รัฐธรรมนูญรายมาตราโยนบาปให้รัฐสภา รัฐบาลขอมุ่งทำงานแก้ปากท้องประชาชน ดิจิทัลวอลเล็ต หวั่นทำผิดกฎหมาย เร่งกดปุ่ม 25 ก.ย.67 ใช้งบปี 67 ให้ทันก่อนสิ้นปีงบประมาณ 30 ก.ย.
แต่ละประเด็นเบี่ยงตัวยอมเดินตามพรรคภูมิใจไทย ล่าสุดค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาท ตั้งแท่นขึ้น 1 ต.ค.67 กระทรวงแรงงาน ลุยตามกติกาคณะกรรมการไตรภาคี (บอร์ดค่าจ้าง) มีฝ่ายรัฐ-ฝ่ายนายจ้าง-ฝ่ายลูกจ้าง ดันสุดลิ่ม เหมือนหอกของตัวเองหักทิ่มใส่รัฐบาล จน “นายกฯอิ๊งค์” ยอมรับทำไม่ทัน ขอเขย่าให้สะเด็ดน้ำภายในปี 67
มติครม.จัดสรรงบกลาง 3,045 ล้านบาท ช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมก็เช่นเดียวกัน กระทรวงมหาดไทยเด้งรับเร่งจ่ายเงินเยียวยาเดินตามเกมเป๊ะ หวยกลับมาออกที่ “นายกฯอิ๊งค์” แก้ปัญหาใหญ่ใช้งบก้อนนิดเดียว
ผ่านไป 1 สัปดาห์ถึงตั้งหลักได้ ส่งเด็กในคาถาแก้ข่าวพัลวัน และผู้บังคับบัญชาครม.กำชับทุกวาระช่วยเหลือชาวบ้านประสบอุทกภัย ชงผ่านศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทัยภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศปช.) ก่อน
ทั้งกระทรวงแรงงาน กระทรวงมหาดไทย ภายใต้กำกับดูแลโดยคนของพรรคภูมิใจไทย ผลงานที่สังคมสัมผัสทำให้พรรคภูมิใจไทยติดปีกบิน แต่พรรคเพื่อไทยถูกถอนขนตีปีกบินไม่ขึ้น
รัฐบาลเพิ่งบริหารประเทศได้ปีกว่า แต่ถูกพรรคภูมิใจไทยขี่หลังตลอด สะท้อนให้เห็นว่าคนกำกับบทระหว่าง “นายใหญ่” และ “ครูใหญ่” ใครเขียนบทเฉียบคมกว่ากัน
“นายใหญ่” ชอบเปิดหน้าเล่น แม้พักหลังๆ ฝึกจำศีลเก็บตัว ต่างกับ “ครูใหญ่” เก็บตัวเงียบตลอด โดยมีมือที่วางใจ และไว้ใจได้ คอยวางงานแทนทุกซ็อตได้ดั่งใจหมาย
เหลือเวลาอีก 2 ปีกว่า ที่ “นายใหญ่” ยังมีเวลาพิสูจน์ฝีมือว่าเหนือกว่า “ครูใหญ่” หรือเป็นลูกไล่เหมือน 1 ปีกว่าที่ผ่านมา
บนสถานการณ์วุฒิสภาสายสีน้ำเงิน เช็ตอำนาจลงตัว คุมเบ็ดเสร็จทุกขุมกำลังรบ โดยเฉพาะ “ตรวจสอบฝ่ายบริหาร-แต่งตั้งองค์กรอิสระ”
…………………….
คอลัมน์ : ไขกุญแจ/ไขแหลก
โดย….#ราษฎรเต็มขั้น
