นายกฯลุยโคลนรับฟังปัญหาชาวบ้านหลังน้ำท่วมหนัก ยืนยันได้เงินเยียวยาแน่นอน และเจ้าหน้าที่จะอยู่ช่วยเหลือจนเสร็จ ขณะที่คุณยายวัย 80 ปีนร้องไห้โฮไม่คิดว่าจะได้พบนายกฯ
เมื่อเวลา 09.50 น.วันที่ 28 ก.ย.ที่ จ.เชียงราย ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์อำเภอแม่สาย ณ ที่ว่าการอำเภอแม่สาย จ.เชียงราย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี ร่วมรับฟังรายงานสรุปจากหน่วยงานของกรมทหารช่าง และนายอำเภอแม่สาย เพื่อลงพื้นที่ประเมินสถานการณ์ และติดตามการฟื้นฟูพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์อุทกภัย ณ บ้านเกาะทราย และบ้านผาจม ต.แม่สาย อ.แม่สาย จ.เชียงราย พร้อมมอบสิ่งของ ที่ใช้เงินส่วนตัวซื้อมา มอบให้กับผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ ก่อนสวมรองเท้าบูท และขึ้นรถบรรทุกทหารเพื่อลงพื้นที่
โดยนายกฯ กล่าวว่า ภายในวันที่ 1 ตุลาคมนี้ จะมีการเคลียร์ดินโคลนบริเวณถนนที่เป็นถนนสายหลักทั้งหมด 24 สาย ตลาดสายลมจอย และกู้คืนสภาพโรงเรียนบ้านไม้ลุงขนได้สำเร็จ แต่อย่างไรก็ตาม ก็จะต้องเข้ามาเคลียร์พื้นที่อีกครั้ง ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 45 วัน และคาดว่าประมาณต้นเดือนพฤศจิกายนนี้ ก็จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ แต่ปัญหาของประชาชนในพื้นที่ คือน้ำโคลน เพราะมีบางบ้านถูกน้ำ และโคลนทับถมจนบางหลังเหลือแต่โครงสร้าง จึงจำเป็นต้องเร่งเยียวยา อีกทั้ง ยังมีบ้านเรือนอีก 64 หลังที่เสียหายทั้งหลัง ถือว่าเสียหายอย่างหนักมาก และหากดูตามกฏหมายแล้วก็ จะได้รับค่าชดเชยมากพอสมควร ฉะนั้นเป็นเรื่องที่รัฐบาลจะต้องรีบไปดูแลให้กับประชาชน
อย่างไรก็ตามสิ่งที่น่าเป็นห่วง คือใน อ.เมือง จ.เชียงราย ซึ่งแม้จะโดนช้ากว่า อ.แม่สาย แต่ก็ได้รับผลกระทบหนักเช่นกัน ดังนั้นถ้าเครื่องจักรหนัก เครื่องจักรเบา และอุปกรณ์ต่างๆ ในพื้นที่ อ.แม่สาย เพียงพอแล้ว ก็จะขอให้ขนไปช่วยที่ อ.เมือง ด้วย แต่ก่อนจะขนย้ายจะต้องมีการพิจารณาว่าที่ อ.แม่สายเพียงพอแล้วหรือไม่ เพราะไม่ต้องการ ให้เกิดเหตุการณ์ว่าถ้าย้ายไปแล้วที่ อ.แม่สายจะทำให้ขาดแคลนอุปกรณ์จึงอยากให้พื้นที่ อ.แม่สาย เคลียร์จนจบเช่นกัน และขอบคุณเจ้าหน้าที่ รวมทั้งให้กำลังใจชาวบ้านอดทนอีกระยะเจ้าหน้าที่กำลังช่วยเหลืออย่างเต็มที่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้นนายกรัฐมนตรี เดินทางถึงบ้านเกาะทราย พร้อมลงเดินลุยโคลนเข้ามาในซอยบ้านเกาะทราย 9 โดยได้ให้กำลังใจทหารกองบัญชาการทหารพัฒนา ที่กำลังช่วยกวาดดินโคลนออกจากบ้านเรือนประชาชน จากนั้นรับฟังบรรยายสรุปสถานการณ์และแนวทางการฟื้นฟูในพื้นที่ จากนั้นนายกฯได้เข้าไปเยี่ยมบ้านประชาชนที่ได้รับผลกระทบและพูดคุยสอบถามถึงขั้นตอนการขูดโคลนและใช้เครื่องดันน้ำแรงดันสูงฉีดโคลนออกจากบ้านเรือน
ซึ่งชาวบ้านร้องให้สวมกอดนายกฯ พร้อมกับบอกเล่าถึงความเดือดร้อน ทำให้นายกฯน้ำตาคลอ และได้ทักทายผู้สูงอายุที่เข้ามาตรวจสุขภาพที่หน่วยแพทย์ โดยนายกฯกล่าวให้กำลังใจคุณยาย ขอให้มีกำลังใจนะ วันนี้มากันหมดเลยทั้งนายกฯ รองนายกฯ และรัฐมนตรี ช่วยแน่นอน และมีสาธารณสุขคอยดูแลเรื่องยา
และนายกฯยังได้เข้าไปเยี่ยมคุณยายตาล หงศ์คำ อายุ 80 ปี ซึ่งคุณยายร้องไห้โฮและยกมือท่วมหัวหลังจากได้เจอนายกฯ พร้อมกล่าวว่า ไม่คิดว่าชีวิตยายจะได้เจอกับนายกฯ ซึ่งนายกฯได้สอบถามถึงอาการป่วยและแพทย์ที่เข้ามาดูแลและจ่ายยาให้กับคุณยายถึงบ้านเนื่องจากไม่ยอมออกจากบ้านตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ นายกฯระบุว่าให้กำลังใจยายนะ ไม่เป็นไรทุกคนเข้ามาช่วยทั้งหมด และขอยืนยันว่าเท่าที่พูดคุยกับทหารจะไม่มีใครออกจากพื้นที่เลย จะดูให้ทุกอย่างเรียบร้อยก่อนและเร่งทำงาน อีกทั้งรัฐบาลดูแลเรื่องของการจ่ายเงินเยียวยา ซึ่งเงินมาถึงมืออย่างแน่นอน
จากนั้นนายกฯพร้อมคณะเดินทางไปยังวัดพรหมวิหาร อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย พบปะให้กําลังใจ และมอบเงินเยียวยาให้กับพี่น้องประชาชนผู้ประสบอุทกภัย โดยมอบเงินช่วยเหลือครอบครัวผู้เสียชีวิต จำนวน 4 ราย ๆ ละ 29,700 บาท และหัวหน้าครอบครัว จำนวน 1 ราย จำนวนเงิน 59,400บาท มอบเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยอำเภอแม่สาย บ้านเสียหายจำนวน 50 ครอบครัว เป็นเงิน 2,475,000 บาท มอบเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยตามมติคณะคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 17 ก.ย. อำเภอแม่สายจำนวน 222 ครัวเรือนเป็นเงิน 1,110,000 บาทถ้วน มอบชุดอุปกรณ์ทำความสะอาดบ้านเรือนให้กับผู้ประสบภัย และมอบผ้าอ้อมสำหรับผู้ใหญ่และเด็ก จำนวน 102 ห่อใหญ่ จากเงินส่วนตัวของนายกรัฐมนตรี