วันพุธ, ตุลาคม 2, 2024
spot_img
หน้าแรกHighlight'สภาฯโศก'ถกญัตติด่วนปมไฟไหม้บัสนร. 'เจเศรษฐ์'เสียงสั่นจี้ยกระดับกันเกิดภัยซ้ำ
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

‘สภาฯโศก’ถกญัตติด่วนปมไฟไหม้บัสนร. ‘เจเศรษฐ์’เสียงสั่นจี้ยกระดับกันเกิดภัยซ้ำ

“สภาฯสุดเศร้า” ถกญัตติด่วนเหตุสลดไฟไหม้รถบัสเด็กนักเรียน “เจเศรษฐ์” อภิปรายเสียงสั่น หวังรัฐบาลออกมาตรการแก้ไขเป็นรูปธรรม และยกระดับความปลอดภัยป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นซ้ำอีก “นพ.ทศพร” ย้ำต้องเข้มงวดระบบความปลอดภัยรถโดยสาร “ทนายแจม” แนะรัฐบาล กำหนดแผนป้องกันเหตุแผนการเผชิญเหตุในอนาคต

วันที่ 2 ต.ค.67 ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่หนึ่ง เป็นประธานในการประชุม ทั้งนี้ที่ประชุมได้พิจารณาญัตติด่วนด้วยวาจาของสส. 3 ญัตติ ของนายเจเศรษญฐ์ ไทยเศรษฐ์ สส. พรรคภูมิใจไทย ขอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาศึกษาแนวทางเสนอข้อคิดเห็นและการยกระดับมาตรฐานในการป้องกันการเกิดเหตุกรณีรถบัสทัศนศึกษา เกิดเหตุเพลิงไหม้และหาแนวทางช่วยเหลือเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบ

โดยนายเจเศรษฐ์ ได้กล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือถึงเหตุการณ์ดังกล่าว และในฐานะตัวแทนครอบครัวผู้สูญเสีย ผู้ที่ได้รับผลกระทบ และชาวจังหวัดอุทัยธานีในครั้งนี้กล่าวขอบคุณทุกหน่วยงานที่เข้าไปช่วยเหลือ และได้เล่าถึงเหตุการณ์ที่ได้ลงพื้นที่เกิดเหตุเมื่อวานนี้ด้วยความเศร้าเสียใจ และจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบถึงสภาพจิตใจของนักเรียน ครอบครัวผู้เสียชีวิต จึงขอรับฟังแนวทางการแก้ไขของสภาและคาดหวังให้รัฐบาลออกมาตรการแก้ไขเป็นรูปธรรม ซึ่งสิ่งนี้ไม่ใช่เรื่องการเมืองแต่เป็นเรื่องของทุกคนที่ต้องช่วยกันระดมความคิดความเห็นทำให้เกิดการแก้ไขอย่างจริงจัง พร้อมกับให้คำมั่นสัญญาว่าจะสืบทอดเจตนารมย์ของครูที่พร้อมพลีกายปกป้อง ชีวิตเด็กนักเรียน

“ขอบคุณทุกคำโอบอุ้มปลอบโยนของทุกคนที่ส่งมาให้ แต่วันนี้พวกเรา ขอความเจ็บช้ำนั้น ขอให้เป็นพวกเราให้รวบรวมความเจ็บช้ำนั้น เก็บไว้กับเราและขอให้เป็นสิ่งที่ได้รับการเรียนรู้แก้ไข ยกระดับในการป้องกันเพื่อให้ไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นกับใครอีก” นายเจเศรษฐ์กล่าว

ด้านนายทศพร เสรีรักษ์ สส. พรรคเพื่อไทย เสนอญัตติด่วนด้วยวาจาขอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาศึกษาสาเหตุการเกิดไฟไหม้รถบัสทัศนศึกษาของนักเรียนแนวทางการช่วยเหลือเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบและมาตรการการป้องกันการเกิดเหตุซ้ำ โดยเห็นว่าคนทั้งประเทศเศร้าเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและมีคนแสดงความเห็นว่าควรยกเลิกการทัศนศึกษาหรือไม่ สภาฯจึงต้องช่วยกันคิด ว่าการทัศนศึกษาเป็นความบกพร่องหรือไม่จึงทำให้ต้องยกเลิก หรือความผิดความบกพร่องอยู่ที่กระบวนการทัศนศึกษา หรืออยู่ที่รถ หรืออยู่ที่คน หรือเด็กนักเรียนในวัยใดที่จะเดินทางไปทัศนศึกษาโดยสามารถดูแลตัวเองได้ได้เมื่อมีเหตุฉุกเฉิน รวมถึงรถที่ใช้เดินทางมีความปลอดภัยเพียงพอหรือไม่ โครงสร้างการดัดแปลงทำถูกหลักวิศวกรรมหรือไม่ และอุปกรณ์ความปลอดภัยในรถเครื่องดับเพลิงประตูฉุกเฉินมีเพียงพอใช้การได้หรือไม่ และรถโดยสารควรมีอายุการใช้งานเท่าไหร่ ศักยภาพ สุขภาพการควบคุมของ ของคนขับรถ หรือการแก้ไขปัญหาเมื่อเกิดเหตุมีหรือไม่

“ถ้าเราไม่อยากเห็นเหตุการณ์ความเศร้าโศกเสียใจแบบนี้เกิดขึ้นอีกเราจะต้องช่วยกันคิดช่วยกันระดมความคิด ส่งมาตรการนี้ให้รัฐบาลนำไปดำเนินการและต้องช่วยกันตรวจสอบติดตามอย่างเข้มข้นว่ามาตรการที่ส่งไปแล้วจะได้รับการปฏิบัติหรือไม่ ขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกคนกู้ภัยอาสาสมัครครูที่ปกป้องนักเรียนจนต้องเสียสละชีวิตตนเองขอแสดงความเสียใจกับนักเรียนทุกคนต่อพ่อแม่ญาติพี่น้องผู้สูญเสียขอสดุดีครู3 คน ที่ปกป้องลูกศิษย์จนเสียชีวิต” นพ.ทศพรกล่าว

ด้านน.ส.ศศินันท์ ธรรมนิฐินันท์ สส.พรรคประชาชน เสนอญัตติด่วนด้วยวาจา ขอให้สภาผู้แทนราษฎรศึกษาแนวทางป้องกันเหตุและแผนเผชิญเหตุที่เป็นรูปธรรมในอนาคต กรณีการเกิดเหตุไฟไหม้รถบัสทัศนศึกษาเพื่อเสนอเรื่องไปยังรัฐบาลดำเนินการต่อไป แสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและชื่นชมการบริหารจัดการสถานการณ์ฉุกเฉินที่ทันท่วงทีของรัฐบาล วันนี้ไม่ได้หาคนผิดหรือติติงแต่จะหาทางออกร่วมกันว่าไม่ให้เผชิญเหตุการณ์หรือถอดบทเรียนซ้ำๆ ในเรื่องสะเทือนใจแบบนี้ในอนาคต ขออ้างอิงข้อมูลเฝ้าระวัง ศูนย์วิชาการ ความปลอดภัยทางท้องถนนและเครือข่าย องค์กรผู้บริโภค ระบุปี 2565 มีอุบัติเหตุบนท้องถนนและความไม่ปลอดภัยกับรถรับส่งนักเรียน 1 ปี 30 ครั้ง โดยช่วงเดือนมกราคมถึงเดือนมีนาคม 2567 เกิดอุบัติเหตุรถรับส่งนักเรียน 15 ครั้ง มีนักเรียนเสียชีวิตหนึ่งคนและบาดเจ็บกว่า 150 คน สาเหตุมาจากความประมาทเลอรเลอร์ของผู้ขับรถ สภาพรถที่ไม่ปลอดภัย การขาดการจัดการที่เป็นระบบมีประสิทธิภาพ ทำให้จะต้องจัดการปัญหาโครงสร้างอย่างเร่งด่วน

น.ส.ศศินันท์ กล่าวต่อว่า ตนมีข้อเสนอต่อเหตุการณ์เมื่อวานถึงแผนป้องกันเหตุแผนการเผชิญเหตุในอนาคต 4 ประเด็น 1. มาตรฐานรถโดยสารสาธารณะเพื่อความปลอดภัย ไทยมีกฎเกณฑ์กฎหมายควบคุมคุณภาพรถซึ่งกำหนดให้มีอุปกรณ์จำเป็นให้ครบถ้วน “ประตูฉุกเฉิน-เครื่องดับเพลิงที่สามารถใช้การได้-อุปกรณ์ทุบกระจก” วัสดุในรถต้องอยู่ภายใต้ข้อกำหนดคุมการลุกไหม้ตามมาตรฐาน และต้องมีการตรวจสอบสภาพรถอย่างจริงจังเพื่อลดเกิดอุบัติเหตุ 2. การนำเสนอข่าวในสถานการณ์เช่นนี้มีความสำคัญเนื่องจากมีความเปราะบางและละเอียดอ่อน และเคารพสิทธิ์ผู้ประสบเหตุไม่ให้เป็นการตอกย้ำความสูญเสีย 3.การเยียวยาผู้ประสบภัยเหตุครอบครัวอย่างรวดเร็วและทั่วถึง และฟื้นฟูสภาพจิตใจ ให้จิตแพทย์ดูแลจิตใจอย่างต่อเนื่อง ชื่นชมรัฐบาลได้ประสานงานเรื่องนี้ได้อย่างดีและรวดเร็วแต่จะเป็นการดีหากมีการกำหนดเรื่องนี้ในแผนเผชิญเหตุอย่างเป็นรูปธรรม และ4. เรื่องที่สังคมตกเถียงการทัศนศึกษา หยิบยกความเห็นของหมอท่านหนึ่งเกี่ยวกับทัศนศึกษาว่าเป็นเวลาแห่งความสุขเป็นเวลาที่เด็กจะได้อยู่กับเพื่อน เห็นโลกนอกตำรา ฝึกดูแลตัวเอง และการทัศนศึกษาเป็นโอกาสเดียวที่จะได้เห็นโลกกว้าง ปัญหาจริงๆของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องของคุณภาพความปลอดภัยทุกอย่างที่เกี่ยวข้องและอุบัติเหตุที่คาดการณ์ไม่ได้ และการสอนให้เด็กเอาตัวรอดจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งจะควรบรรจุในหลักสูตรการศึกษาอย่างเป็นระบบ

“เหตุการณ์เมื่อวานนี้ไม่ได้มีอะไรชดเชยความสูญเสียที่เกิดขึ้นกับหลายครอบครัว จึงอยากชวนเพื่อนสมาชิกทุกคนเอาความเจ็บปวดร่วมกันในวันนี้ทำให้ทุกคนเอาจริงเอาจังมากขึ้นกับความปลอดภัยบนรถถนนที่ไม่ใช่เพียงรถโรงเรียน รถโดยสารสาธารณะในประเทศประเทศไทยก็เกิดอุบัติเหตุไม่เว้นแต่ละวันต้องเอาจริงเอาจังสร้างระบบมาตรฐานความปลอดภัยของรถโดยสารและสร้างสังคมที่ปลอดภัยให้กับทุกคนในอนาคตร่วมกัน” นางสาวศศินันท์กล่าว

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img