ตุลาอาถรรพ์ลากยาวถึงสิ้นปี “รัฐบาลอิ๊งค์” แพทองธาร ชินวัตร ยังกุมอำนาจรัฐโดยไม่ต้องเปลี่ยนตัวนายกฯ หลังไพ่อีกใบของ “ฝ่ายตรงข้าม” ยื่นคำร้องขอศาลรัฐธรรมนูญชี้ขาด “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกฯและ “พรรคเพื่อไทย”
มีพฤติการณ์อาจนำไปสู่ล้มล้างการปกครองในหลายกรณี โดยเฉพาะ “ทักษิณ” มีพฤติการณ์เป็น “เจ้าของ-ผู้ครองครอง-ผู้ครองงำ” เป็น “ผู้สั่งการพรรคเพื่อไทย” ตั้ง “นายกฯคนใหม่” ที่บ้านจันทร์ส่องหล้า
ไม่สมราคาคุยตามที่โหมโรงเอาไว้ ตามกระบวนการอีกยาวนาน เริ่มต้นจากรับเรื่องไว้ไต่สวนหรือไม่ หากรับก็เข้าสู่กระบวนการไต่สวน เท่ากับ “ว่ายน้ำข้ามทะเลยังไม่เห็นฝั่ง”
ในจังหวะการเมืองช่วงปลายฝนต้นหนาว ไปดู ขั้วการเมืองเสรีประชาธิปไตยที่ไม่เป็นประชาธิปไตย กันดีกว่า โดยส.ส.รุ่นใหม่ภายในพรรคประชาชน (ปชน.) ตั้งคำถามดังๆ ในหัวใจของตัวเอง ว่าเกิดอะไรขึ้น หลัง “เท้ง” ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ขึ้นเป็น “แม่ทัพส้มคนใหม่” บทบาทฝ่ายค้านช็อตไปดื้อๆ
ผลงานตรวจสอบไม่ขยับ ฝ่ายค้านเชิงรุกถอยหลังลงคลอง กองเชียร์บ่นอุบ ปัญหาเกิดทันที “ผู้นำจิตวิญญาณ” นั่งไม่ติดจัดวางทัพใหม่ ส่วนใหญ่ส่งเด็กในคาถานั่งรองเลขาธิการพรรค 12 ตำแหน่ง
แบ่งเป็นสัดส่วนภูมิภาค 8 ตำแหน่ง สัดส่วนกลุ่มประเด็น 2 ตำแหน่ง สัดส่วนสำนักงาน 2 ตำแหน่ง ปักธงจัดทำนโยบายเจาะลึกระดับภูมิภาคตามกลุ่มประเด็น พร้อมเปิดตำแหน่งรองหัวหน้าพรรคอีก 7 ฝ่าย เพื่อคลอดนโยบายที่แหลมคม และเค้นศักยภาพส.ส.ปชน. ให้เป็นส.ส.แห่งความเปลี่ยนแปลง
ส.ส.อึดอัดต่อบทบาทของ “ผู้นำจิตวิญญาณ” ที่จัดวางคนของตัวเองเยอะลงในตำแหน่งเยอะเกินไป ปัญหานี้ถูกสะท้อนถึง “เจ้าของพรรค” ปฏิกิริยาแค่รับฟัง แต่นิ่งเฉย ไม่ยอมปรับเปลี่ยนตามใจลูกพรรคส่วนใหญ่
นับจากวันนั้นจนถึงวันนี้ สภาพภายในอ่อนยวบ ขั้วตรงข้ามมองทะลุ อนาคตเป็นได้แค่คู่แข่งที่ไม่มีวันชนะเหมือนศึกเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา
เพราะ “แถวสาม” ยังเป็น “ลูกเจี๊ยบ” ปีกกล้าขาสั่น ก้าวขึ้นเป็นขุนพลออกรบไม่ได้ การตรวจสอบซึ่งเป็นอาวุธหนักของฝ่ายค้าน รอวันพิสูจน์ประสิทธิภาพในเทอมนี้ ซึ่ง “ถูกปรามาส” ว่า “เสื่อมมนต์ขลัง”
ลำพังบทบาทคณะกรรมาธิการวิสามัญ (กมธ.) ชุดต่างๆ ที่ “สส.ปชน.” เป็นประธาน ก็หมดน้ำยา ไม่สมราคาทำหน้าที่ฝ่ายค้านเชิงรุก
มีหลากหลายประเด็นที่ล่อแหลมให้บี้เปิดโปงพฤติกรรม เช่น เหตุเกิดที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ภาคประชาชนที่เคลื่อนไหวยังทำหน้าที่เอกซเรย์ได้ถึงลูกถึงคนกว่า กมธ.ปิดปากเงียบกริบ จนแฟนคลับส้มจี๊ดตั้งข้อสังเกตุว่า…
“เจ้าของพรรคประชาชน” รับส่งสัญญาณจาก “เจ้าของพรรคเพื่อไทย”
ยิ่งแกะรอยตั้งแต่ “ดีลฮ่องกง” จนสลับเปลี่ยนตัวหัวหน้าพรรค จาก “ไหม-ศิริกัญญา ตันสกุล” วินาทีสุดท้ายเป็น “เท้ง-ณัฐพงษ์” ก่อนหน้านั้นมีเค้าลางส่งสัญญาณระหว่างพรรค ขอให้เปลี่ยนเป็นคนอื่น หวั่นไหว “ไหม” ปะทะ
“อิ๊งค์” แพทองธาร ชินวัตร แม่ทัพพรรคเพื่อไทย กลายเป็น “นารีขี่ม้าส้ม” ปะทะ “นารีขี่ม้าแดง” ได้ จน “ไหม” หลุดวงโควจร “เท้ง” เสียบแทน
ทางออกมีประตูเดียวคือ “ผู้นำจิตวิญญาณ” ต้องหยุดใช้อำนาจเผด็จการแทรกแซง วางคนของตัวเองเป็นตาสับปะรด ดูเพียงกรอบกว้าง ปล่อยให้กลไก “พรรคประชาชน” ขับเคลื่อนโดย “เสรีประชาธิปไตย” ตามอุดมการณ์ที่เพรียกหา
ถึงจังหวะปรับยุทธศาสตร์-กลยุทธอีกครั้ง เพื่อเพิ่มกระแสนิยม โดยเร่งสร้างศักยภาพ ปรับภาพลักษณ์ส.ส. ให้ตรงตามความต้องการของประชาชน
“ผู้นำฝ่ายค้านฯ” ที่เหมือนเป็น “กบจำศีล” ควรแสดงบทบาทในสภาฯให้โดดเด่นโดยเร็ว ทำหน้าที่ตรวจสอบการบริหารราชการแผ่นดินของ “รัฐบาลอิ๊งค์” ชี้ให้เห็นข้อบกพร่อง มีข้อเสนอแนะตามบทถนัดที่เคยโชว์ฟอร์มมา
และอำนาจลึกลับภายใน “พรรคประชาชน” ต้องปล่อยมือ “ผู้นำฝ่ายค้านฯ-แม่ทัพ ปชน.” ทำงานอิสระอย่างแท้จริง ถึงเป็นพรรคทางเลือกของประเทศ และประชาชน
……………………………..
คอลัมน์ : ไขกุญแจ-ไขแหลก
โดย #ราษฎรเต็มขั้น
