วันจันทร์, พฤศจิกายน 25, 2024
spot_img
หน้าแรกNEWS‘ซูเปอร์โพล’สำรวจปากท้องหลังโควิด พบคนส่วนใหญ่ยังมีความหวัง
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

‘ซูเปอร์โพล’สำรวจปากท้องหลังโควิด พบคนส่วนใหญ่ยังมีความหวัง

“ซูเปอร์โพล” สำรวจ “ปากท้องวันนี้ ปากท้องหลังโควิด” พบคนส่วนใหญ่ยังมีความหวังก้าวไปข้างหน้า ร้อยละ 80 ขอรัฐบาลส่งเสริมสินค้าเกษตร รองลงมาออกมาตรการผ่อนผันหนี้ในระบบ 

เมื่อวันที่ 16 พ.ค. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) เสนอผลสำรวจภาคสนาม เรื่อง ปากท้องวันนี้ ปากท้องหลังโควิด พบว่า ปากท้องวันนี้ในมุมของประ ชาชน ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 80.6 ขอรัฐบาลบูม ส่งเสริมสินค้าเกษตร รองลงมาคือร้อยละ 78.0 ต้องการให้รัฐบาลออกมาตรการผ่อนผันการชำระหนี้ในระบบ เช่น ธนาคารและสถาบันการเงินต่าง ๆ ร้อยละ  74.4  ต้องการมาตรการเยียวยา เช่น ลดค่าไฟฟ้า ค่าโทรศัพท์ ค่าอินเทอร์เน็ต และอื่น ๆ ร้อยละ 73.0 ต้องการให้เจ้าสัว ผู้ประกอบการ ลดราคารอาหารและสินค้าจำเป็น

ที่น่าสนใจคือ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 68.6 ต้องการรัฐบาลช่วยแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ หามือปราบหนี้นอกระบบมาสร้างผลงานช่วงวิกฤตชาติลดความเดือดร้อนปลอดจากอำนาจมืด และร้อยละ 64.0 ต้องการให้รัฐบาลกระจายที่ทำกิน ลดความเหลื่อมล้ำ เป็นธรรมทั่วถึง ตามลำดับ

อย่างไรก็ตาม ผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนต่อเศรษฐกิจปากท้องของประชาชนหลังโควิด พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 77.5 หวังให้ประเทศไทยกลายเป็นศูนย์กลางและฐานผลิตอาหารปลอดสารพิษ รองลงมาคือร้อยละ74.4 ต้องการให้ประเทศไทยกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวพลิกฟื้นเศรษฐกิจปากท้องนำชีวิตชีวาของประ ชาชนกลับมา ร้อยละ 66.1 คาดหวังว่าเศรษฐกิจไทยจะฟื้นตัวรวดเร็ว และร้อยละ 63.1 ระบุประเทศไทยจะกลายเป็นศูนย์กลางและฐานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในภูมิภาค

นอกจากนี้ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 79.5 ระบุมีความหวังจะลุยไปข้างหน้าค่อนข้างมาก ถึง มากที่สุด ในขณะที่ร้อยละ 16.4 ระบุปานกลาง และร้อยละ 4.1 ระบุค่อนข้างน้อยถึงไม่มีความหวังเลย

ผอ.ซูเปอร์โพล กล่าวว่า ผลสำรวจนี้ชี้ให้เห็นชัดเจนว่า ประเทศชาติและประชาชนยังมีทางออกที่ดีหลายทางโดยข้อมูลที่ค้นพบสามารถจำแนกออกให้เห็นได้ว่าคนส่วนใหญ่ยังมีความหวัง หลังโควิดที่จะลุยกันต่อไปข้างหน้า ด้วยความหวังในมาตรการต่างๆ ของรัฐ ใน 3 กลุ่ม

กลุ่มที่ 1 คือ การเยียวยาเร่งด่วน แก้ปัญหาบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน ให้ครอบคลุมและทั่วถึงในกลุ่มต่างๆ เพื่อพยุงให้ยืนได้ก่อนกลับมาเดินหน้ากันต่อ ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องผ่านแรงเสียดทานของอารมณ์ความรู้สึกและความพึงพอใจที่หลากหลาย ที่ต้องการความร่วมมือจากภาคเอกชนอย่างมาก

กลุ่มที่ 2 คือ การช่วยเหลือแก้ปัญหายาดำเดิมในสังคม ที่บั่นทอนความรู้สึกเหลื่อมล้ำเป็นธรรมในสังคม เช่น ปัญหาหนี้นอกระบบ  ที่ดินทำกิน ราคาพืชผลการเกษตร และสิ่งค้างคาใจอื่น ๆ ที่ประชาชนอยากปฏิรูปในเรื่องใกล้ตัวมากกว่า และ

กลุ่มที่ 3 คือ เป้าหมายที่ชัดเจนของประเทศและความตั้งใจจริงของรัฐบาลในการขับเคลื่อน เช่น การเป็นศูนย์กลางและฐานผลิตรถยนต์ไฟฟ้า  การเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยว การเป็นประตูอาเซียน และการเป็นศูนย์กลางการเกษตรปลอดสารพิษ เป็นต้น ซึ่งหากมีสนับสนุนและมีความชัดเจนจากรัฐ มันคือหัวรถจรวดกำลังแรงที่จะฉุดประเทศให้เปลี่ยนแปลงอย่างโดดเด่น 

ผอ.ซูเปอร์โพล กล่าวต่อว่า การสะท้อนของประชาชนผ่านผลโพลถึงความหวังทั้ง 3 กลุ่ม จะเห็นว่าในวิกฤตยังมีโอกาส และในโอกาสนี้ยังเป็นความหวังของทุกคนที่อยากเห็นการเปลี่ยนแปลงประเทศ และพัฒนาการของคุณภาพชีวิตโดยรวมที่ดีขึ้น ในขณะที่เรากำลังปัดป้องตั้งรับจากโรคระบาดด้วยความกลัวและขัดแย้งกันอยู่ ในเวลาเดียวกัน เราต่างไม่หยุดคิดและจินตนาการตัวเราและสังคมไทยในอนาคตอย่างมีความหวังร่วมกัน ต้องช่วยกันจบโรคระบาดให้เร็วที่สุดและพร้อมจะรวมพลังขับเคลื่อนประเทศไปข้างหน้าอย่างถูกทิศทางและเป็นประโยชน์ร่วมกัน  ขอเพียงความจริงใจและความมุ่งมั่นที่ชัดเจนจากรัฐบาล เชื่อว่าเราทุกคนทุกภาคส่วนพร้อมใช้ยุทธศาสตร์ “ล้มและลุกทันที” เมื่อเราล้มแล้วพยุงกันลุกพร้อมจับมือเดินหน้าลุยไปด้วยกัน

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img