“เรืองไกร” ไม่ CARE เพื่อไทย เดินหน้าร้อง “ป.ป.ช.” ตรวจสอบ 20 ส.ส.หญิงพรรคเพื่อไทย ใช้สถานะ ส.ส. ก้าวก่ายแทรกแซง “อธิบดีศาลอาญา” หรือไม่ ยกเคส “เทพเทือก” เคยถูกชี้มูลมาแล้วในทำนองเดียวกัน
เมื่อวันที่ 17 พ.ค. 64 นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตสมาชิกวุฒิสภา และอดีตสมาชิกพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 30 เม.ย. 64 เว็บไซต์พรรคเพื่อไทย เผยแพร่ข่าวและจดหมายเปิดผนึกถึงอธิบดีศาลอาญา มีเนื้อหาในลักษณะที่อาจฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ มาตรา 185(1) เพราะลงท้ายด้วยการใช้สถานะ ส.ส. รายละเอียดปรากฏตามข่าวในเว็บไซต์ของพรรคเพื่อไทย แต่ข้อเท็จจริงของจดหมายดังกล่าว ถ้าย้อนไปดูกรณีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เคยชี้มูลนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ที่ทำหนังสือในลักษณะแทรกแซงกระทรวงวัฒนธรรม จะเห็นว่า อาจมีลักษณะการฝ่าฝืนบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญที่คล้ายคลึงกัน
นายเรืองไกร กล่าวต่อว่า การทำจดหมายเปิดผนึกถึงอธิบดีศาลอาญา ซึ่งเป็นข้าราชการฝ่ายตุลาการ อาจเข้าข่ายการใช้สถานะ ส.ส. ก้าวก่ายแทรกแซงข้าราชการอันเป็นการฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ มาตรา 185(1) และเป็นอำนาจของ ป.ป.ช ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 234(1) ด้วย ตามแนวทางที่ ป.ป.ช. เคยชี้มูลกับนายสุเทพ มาก่อนแล้ว
“การทำจดหมายเปิดผนึกถึงอธิบดีศาลอาญา ของส.ส.หญิงพรรคเพื่อไทย 20 คน ระบุไว้ชัดว่า ใช้สถานะ ส.ส. ในการทำจดหมายเปิดผนึกโดยเผยแพร่ในเว็บไซต์พรรคเพื่อไทยด้วย จึงอาจเข้าลักษณะตามแนวทางที่ ป.ป.ช. เคยมีมติชี้มูลกับนายสุเทพฯมาแล้ว แต่ที่แตกต่างคือ กรณีนายสุเทพนั้น รัฐธรรมนูญเดิมให้ส่งวุฒิสภาถอดถอน แต่ตามรัฐธรรมนูญ 2560 ให้ส่งศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เป็นผู้พิจารณาพิพากษา”นายเรืองไกร กล่าวและว่า กรณีดังกล่าวเกิดขึ้นตามแนวที่ ป.ป.ช. เคยชี้มูลมาแล้ว เพื่อให้ ป.ป.ช. ได้ปฎิบัติตามหน้าที่และอำนาจตามมาตรฐานที่เคยทำ เช้าวันนี้ ตนจึงได้ส่งคำร้องถึง ป.ป.ช. ทางไปรษณีย์ EMS ให้ทำการตรวจสอบต่อไป
สำหรับนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ เคยเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย แต่ได้ทำจดหมายเปิดผนึกถึงนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย เมื่อวันที่ 15 ก.ค. 63 ขอให้ชี้แจง “เบื้องหลังการสลับชื่อคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญตึงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2564” โดยในจดหมาย ระบุว่าเรื่องนี้มีเงื่อนงำหลังจากที่ นายเรืองไกรได้รับแจ้งเมื่อเวลา 15.00 น. ของวันที่ 3 ก.ค. 63 ว่า ได้เป็น กมธ.งบประมาณปี 2564 แต่หลังจากนั้นได้มีโทรศัพท์จาก “นาย ภ.” มาร้องขอให้ไม่รับตำแหน่ง กมธ.ชุดนี้ ซึ่งนายเรืองไกรระบุในจดหมายว่า มีหลักฐานเป็นรายชื่ออยู่ในมือด้วย โดยที่ผ่านมา ส.ส.หลายคนถามสาเหตุที่ไม่ได้เป็น กมธ.ในชุดนี้ ในตอนท้ายของจดหมายดังกล่าว ระบุด้วยว่า “ไม่ CARE อีกแล้ว” พร้อมทิ้งท้ายว่า “ขอบคุณและลาก่อน”