เริ่มต้น Q4 ของปี 67 SAMTEL คว้างานใหญ่จาก “ธอส.” รวมกว่า 2 พันล้านบาท เพื่ออัพเกรด ปรับปรุง บำรุงรักษาและซ่อมแซมระบบ GHB System (Hardware และ Software) เพื่อให้ระบบปฏิบัติงานหลักของธนาคารมีประสิทธิภาพสูงสุด ส่งผลให้ Backlog ปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 6,300 ล้านบาท
นายวัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.สามารถเทลคอม และ รองประธานกรรมการบริหาร ฝ่ายกลยุทธ์องค์กรและพัฒนาธุรกิจใหม่ บมจ.สามารถคอร์ปอเรชั่น เปิดเผยว่า “สามารถเทลคอม หรือ SAMTEL ผู้ให้บริการโซลูชันด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัลครบวงจร ได้รับความไว้วางใจจากธนาคารอาคารสงคราะห์ หรือ ธอส. ให้ดำเนินงาน ”โครงการจัดซื้อจัดจ้าง Upgrade พร้อมว่าจ้างบริการบำรุงรักษาและซ่อมแซมระบบ GHB System” จากธนาคารอาคารสงเคราะห์ ในนาม เอสเอสเอส คอนซอร์เตียม ซึ่งเป็นการจับมือทำงานร่วมกับบริษัท ซิลเวอร์เลค สตรัคเจอร์ด เซอร์วิสเซส จำกัด ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบซอฟต์แวร์ รวมมูลค่าโครงการอยู่ที่ 1,956 ล้านบาท (เป็นสัดส่วนของสามารถเทลคอมกว่า 1,500 ล้านบาท) โดยขอบเขตของงานโครงการดังกล่าว ประกอบด้วย การ Upgrade ปรับปรุง บำรุงรักษาและซ่อมแซมระบบ GHB System (Hardware และ Software) เพื่อให้ระบบปฏิบัติงานหลักของธนาคารมีประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งที่ผ่านมา SAMTEL ได้รับความไว้วางใจจาก ธอส. ให้ดำเนินงานติดตั้งและพัฒนาระบบซึ่งประกอบไปด้วยระบบ Core Banking และระบบงาน Loan Origination พร้อมบำรุงรักษา ตั้งแต่ปี 2560 จนถึงปัจจุบัน
ทั้งนี้ตั้งแต่เริ่มต้น Q4 SAMTEL ได้คว้างานโครงการใหม่สะสมในมือรวมแล้วกว่า 2,200 ล้านบาท อาทิ โครงการของ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ กรมที่ดิน เป็นต้น ส่งผลให้ Backlog ปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 6,300 ล้านบาท และในไตรมาส 4 ที่เหลือจะมาแรงต่อเนื่อง คาดว่าจะมีการเซ็นต์สัญญาโครงการใหม่มากที่สุด รวมทั้งปีเซ็นต์งานประมาณ 6,100 ล้านบาท
นายวัฒน์ชัย กล่าวทิ้งท้ายว่า “กลุ่มบริษัทสามารถ มุ่งมั่นพัฒนาธุรกิจให้เข้ากับยุคสมัยมาโดยตลอด มีความพร้อมและแผนการดำเนินธุรกิจที่ชัดเจน ล่าสุดบมจ.สามารถคอร์ปอเรชั่น จึงได้ประกาศขายหุ้นกู้ครั้ง 2 ปี 2024 อายุ 2 ปี อัตราดอกเบี้ย 5.20% ต่อปี จ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน เสนอขายให้แก่ผู้ลงทุนสถาบัน และ/หรือ ผู้ลงทุนรายใหญ่ เปิดให้จองซื้อในระหว่างวันที่ 5-7 พ.ย.67 มีผู้จัดการการจัดจำหน่าย ได้แก่ บล.ดาโอ (ประเทศไทย) บล.บลูเบลล์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) บล.โกลเบล็ก บล.บียอนด์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส บล.สยามเวลธ์ บล.คิงส์ฟอร์ด บล. ทรีนีตี้ บล.พาย โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อใช้คืนหุ้นกู้ที่จะหมดในต้นปีหน้าเดือนมกราคม จำนวน 1,675 ล้านบาท และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในทุกสายธุรกิจต่อไป”