‘สถิตย์’ ยันไม่ได้รับแจ้งจาก ‘คลัง-ธปท.’ เปลี่ยนรายชื่อบุคคลที่จะเสนอเข้ารับคัดเลือกตำแหน่งประธานบอร์ดธปท. แต่หากมีการเปลี่ยนจริงต้องเสนอรายชื่อใหม่ในวันที่ 8 พ.ย.นี้ ส่วนการพิจารณาคัดเลือกต้องเลื่อนออกไปเพื่อตรวจสอบคุณสมบัติ
นายสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ อดีตปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานคณะกรรมการสรรหาบุคคลเข้ารับตำแหน่งประธานและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า คณะกรรมการสรรหาบุคคลเข้ารับตำแหน่ง ธปท. ยังไม่ได้รับแจ้งจากกระทรวงกาาคลังและธปท.ว่าจะทบทวนรายชื่อบุคคลที่จะเสนอเข้ารับคัดเลือกตำแหน่งประธานบอร์ดธปท. แต่หากจะมีการทบทวนต้องส่งรายชื่อให้ฝ่ายเลขาบอร์ดสรรหาภายในวันที่ 8 พ.ย.นี้
ทั้งนี้เห็นว่าหากไม่มีการเสนอทบทวนรายชื่อ ทางบอร์ดสรรหาจะได้จัดให้มีการประชุมเพื่อคัดเลือกตามกำหนดระยะเวลาเดิม คือ วันที่ 11 พ.ย. แต่หากกระทรวงการคลังและธปท.เสนอทบทวนรายชื่อ กระบวนการสรรหาประธานบอร์ดธปท.และกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิก็จะล่าช้าออกไปอีก เพราะทางฝ่ายเลขาบอร์ดสรรหาจะต้องมีการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ถูกเสนอรายชื่อเข้ารับการคัดเลือก
โดยบอร์ดสรรหาไม่ได้มีอำนาจสั่งการให้เปลี่ยนตัวบุคคลที่จะเข้ารับคัดเลือกเป็นประธานหรือกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิธปท. แต่มีหน้าที่คัดเลือกบุคคลที่ฝั่งของกระทรวงการคลังและธปท.เสนอรายชื่อมาเท่านั้น ฉะนั้น อำนาจในการเปลี่ยนตัวผู้เข้ารับการคัดเลือก คือ กระทรวงการคลังและธปท.โดยกระทรวงการคลังมีอำนาจเสนอรายชื่อได้ 1 เท่า ส่วนธปท.ได้ 2 เท่า
สำหรับรายชื่อที่เสนอเข้ามาก็เป็นไปตามข่าวที่เสนอก่อนหน้านี้ เมื่อบอร์ดสรรหาคัดเลือกบุคคลเข้ารับตำแหน่งประธานบอร์ดและกรรมการผูัทรงคุณวุฒิธปท.ได้แล้ว ทางบอร์ดจะส่งรายชื่อให้รมว.คลังอนุมัติ จากนั้น จะเสนรายชื่อประธานบอร์ดธปท.เข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อโปรดเกล้าฯส่วนคณะกรรมการนั้น ไม่ต้องเสนอครม.
รายงานข่าวแจ้งว่า รายชื่อที่มีการเสนอให้เป็นประธานคณะกรรมการ ธปท.คนใหม่ก่อนหน้านี้มี จำนวน 3 รายชื่อ ประกอบด้วย กระทรวงการคลังเสนอชื่อนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีตรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังส่วนอีก 2 ชื่อที่เสนอจาก ธปท.มี 2 คน ได้แก่ นายกุลิศ สมบัติศิริ อดีตปลัดกระทรวงพลังงาน และนายสุรพล นิติไกรพจน์ นายกสภามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และกรรมการอิสระ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)
ต่อมากลุ่มเศรษฐศาสตร์เพื่อสังคม ซึ่งประกอบด้วยนักวิชาการ 227 คน ได้ร่วมกันออกแถลงการณ์ “คัดค้านการครอบงำธนาคารแห่งประเทศไทยโดยกลุ่มการเมือง” ในขณะที่อดีตพนักงาน ธปท. จำนวน 416 คน พร้อมด้วยอดีตผู้ว่าการธปท. ได้ร่วมลงชื่อในจดหมายเปิดผนึก เรื่อง “จรรยาบรรณที่พึงมีสำหรับตำแหน่งประธานและกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย” ทำให้นายนายสถิตย์ เลื่อนการประชุมสรรหาประธานบอร์ดใหม่ จากเดิมวันที่ 4 พ.ย. ออกไปเป็นวันที่ 11 พ.ย.67 เนื่องจากเห็นว่า มีกระแสต่อต้านอย่างรุนแรง และความเป็นห่วงกรณีที่ฝ่ายการเมืองเข้ามาแทรกแซง ธปท. โดยเฉพาะการต่อต้านนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีต รมว.คลัง ตัวเต็งที่จะได้รับคัดเลือกในครั้งนี้ ทำให้นายสถิตย์ ได้ปรึกษากรรมการว่า ควรเลื่อนการประชุมออกไปก่อน และยังมีกระแสข่าวด้วยว่า คณะกรรมการคัดเลือกจะขอให้กระทรวงการคลังเปลี่ยนชื่อผู้ที่จะเสนอให้เป็นประธานบอร์ด ธปท.แทนนายกิตติรัตน์
