“หมอธีระ” ตอกย้ำรายวัน ศึกนี้ยังอีกยาว จะจบศึกให้เร็วต้องขยายศักยภาพตรวจคัดกรองโรคให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ ตรวจได้มากและต่อเนื่อง หลังพบเชื้อระบาดต่อเนื่องทั้งตลาด-ห้างร้าน-โรงงาน-ชุมชนแออัด-ที่พักอาศัย-ขนส่งสาธารณะ เผยทั่วโลกติดเชื้อทะลุ 165 ล้านคนแล้ว เพื่อนบ้านเรา “มาเลย์” ระบาดหนักเช่นกัน
เมื่อวันที่ 20 พ.ค.64 รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ (หมอธีระ) คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า สถานการณ์ทั่วโลก 20 พฤษภาคม 2564…ทะลุ 165 ล้านคนไปแล้ว ในขณะที่มาเลเซียระบาดหนักขึ้น ติดเชื้อใหม่ต่อวันมากกว่าหกพันคน เมื่อวานทั่วโลกติดเพิ่มถึง 656,526 คน รวมแล้วตอนนี้ 165,526,241 คน ตายเพิ่มอีก 13,193 คน ยอดตายรวม 3,430,811 คน
5 อันดับแรกที่มีจำนวนติดเชื้อต่อวันสูงสุดคือ อินเดีย บราซิล อาร์เจนตินา อเมริกา และฝรั่งเศส, อเมริกา เมื่อวานติดเชิ้อเพิ่ม 27,193 คน รวม 33,799,353 คน ตายเพิ่ม 614 คน ยอดเสียชีวิตรวม 601,927 คน อัตราตาย 1.8%, อินเดีย ติดเพิ่มมากถึง 276,261 คน รวม 25,771,405 คน ตายเพิ่ม 3,880 คน ยอดเสียชีวิตรวม 287,156 คน อัตราตาย 1.1%, บราซิล ติดเพิ่ม 79,706 คน รวม 15,815,191 คน ตายเพิ่มถึง 2,485 คน ยอดเสียชีวิตรวม 441,864 คน อัตราตาย 2.8%, ฝรั่งเศส ติดเพิ่ม 19,050 คน ยอดรวม 5,917,397 คน ตายเพิ่ม 141 คน ยอดเสียชีวิตรวม 108,181 คน อัตราตาย 1.8%, ตุรกี ติดเพิ่ม 11,553 คน รวม 5,151,038 คน ตายเพิ่ม 233 คน ยอดเสียชีวิตรวม 45,419 คน อัตราตาย 0.9%
อันดับ 6-10 เป็น รัสเซีย สหราชอาณาจักร อิตาลี สเปน และเยอรมัน ส่วนใหญ่ติดกันหลักพันถึงหลักหมื่น, แถบอเมริกาใต้ ยุโรป เอเชีย อย่างอาร์เจนติน่า โคลอมเบีย เนเธอร์แลนด์ โปแลนด์ แคนาดา รวมถึงบังคลาเทศ ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย เนปาล ญี่ปุ่น และมาเลเซีย ยังติดกันเพิ่มหลักพันถึงหลักหมื่น, มาเลเซียนั้นติดเชื้อระลอกที่ 3 นี้ยังสูงขึ้นต่อเนื่อง ล่าสุดเพิ่มถึง 6,075 คน ตายเพิ่มอีกถึง 46 คน จำนวนการตายสูงสุดต่อวันในระลอกนี้สูงกว่าเดิมถึงเกือบ 2 เท่า หากลองดูระลอกที่ 2 จะพบว่าใช้เวลาในการสู้ยาวนานเกือบ 6 เดือนตั้งแต่ต้นตุลาคม 2563 จนถึงกลางเดือนมีนาคม 2564
แถบสแกนดิเนเวีย บอลติก และยูเรเชีย ก็มีการติดเชื้อเพิ่มอย่างต่อเนื่อง อยู่ระดับหลักร้อยถึงพันกว่า หลายประเทศกดลงมาอยู่หลักร้อย ยกเว้นคาซักสถาน ยูเครน เบลารุส จอร์เจีย ที่ยังหลักพัน, แถบตะวันออกกลาง ประเทศส่วนใหญ่ยังติดเพิ่มหลักร้อยถึงหลักพัน แต่อิหร่านตอนนี้ยังเกินหมื่น, เกาหลีใต้ ไต้หวัน และกัมพูชา ติดเพิ่มหลักร้อย ส่วนจีน เวียดนาม และสิงคโปร์ติดเพิ่มหลักสิบ ในขณะที่ฮ่องกง ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ ติดเพิ่มต่ำกว่าสิบ …ไต้หวันติดเชื้อเพิ่มอีก 275 คน ถือว่ามากกว่าร้อยคนต่อวัน ติดกัน 5 วันแล้ว
…ล่าสุดในอเมริกา รายงานว่ามีการฉีดวัคซีนไปแล้ว 277 ล้านโดส โดยมี 159 ล้านคนที่ได้ไปแล้วหนึ่งโดส และ 125 ล้านคนที่ได้ไปครบสองโดสแล้ว ทั้งนี้วัคซีนหลักที่เค้าใช้มี 3 ชนิดคือ Pfizer/Biontech, Moderna และ J&J และมีการรายงานเพิ่มเติมว่า ได้มีการฉีดวัคซีน Pfizer/Biontech ให้แก่เด็กวัยรุ่น 12-15 ปี ไปแล้วกว่า 660,000 คนในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากที่ FDA ได้อนุมัติให้ใช้ได้
…สถานการณ์ของไทยเรานั้น ยังระบาดกระจายไปอย่างต่อเนื่อง และชัดเจนว่ารายงานมาจากการใช้ชีวิตประจำวันนอกบ้าน และมีการนำเชื้อเข้ามาแพร่ในที่พักอาศัยที่ต่อเนื่องเรื้อรัง หนีไม่พ้นตลาด กิจการห้างร้าน โรงงาน ชุมชนแออัด ที่พักอาศัยรูปแบบต่างๆ รวมถึงขนส่งสาธารณะต่างๆ ดังที่ได้วิเคราะห์ให้ทราบกันไปก่อนหน้านี้ ย้ำอีกครั้งว่า ศึกนี้ยาวครับ หัวใจสำคัญที่จะจบศึกได้เร็วขึ้นคือ การขยายศักยภาพระบบตรวจคัดกรองโรคให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ ตรวจได้มากและต่อเนื่อง ไม่เสียค่าใช้จ่าย และการเร่งจัดหาอาวุธป้องกันที่มีประสิทธิภาพ ปลอดภัย หลากหลาย มากเพียงพอ
ในขณะที่ประชาชน จำเป็นต้องเคร่งครัดป้องกันตัวเองและสมาชิกในครอบครัว ใส่หน้ากากสองชั้น ชั้นในเป็นหน้ากากอนามัย ชั้นนอกเป็นหน้ากากผ้า พกเจลหรือสเปรย์แอลกอฮอล์ติดตัว ล้างมือบ่อยๆ หลังจับต้องสิ่งของสาธารณะ เจอคนน้อยๆ สั้นๆ อยู่ห่างมากๆ ระวังสุขาสาธารณะ ปิดฝาก่อนกดชักโครก ล้างมือทุกครั้ง และใส่หน้ากากเสมอ เลี่ยงการกินดื่มในร้านอาหาร ศูนย์อาหาร โรงอาหาร ซื้อกลับจะปลอดภัยกว่า งดตะลอนท่องเที่ยว คอยสังเกตอาการตนเองและครอบครัว หากไม่สบาย ให้แยกจากสมาชิกในบ้าน และรีบไปตรวจ ช่วยเหลือแบ่งปันตามกำลัง ด้วยรักและห่วงใย