วันพฤหัสบดี, พฤศจิกายน 14, 2024
spot_img
หน้าแรกCOLUMNISTSประชาคมข่าวกรองทางทหารอาเซียน พร้อมรับมือภัยคุกคาม
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

ประชาคมข่าวกรองทางทหารอาเซียน พร้อมรับมือภัยคุกคาม

“…..กองทัพบกเวียดนาม จัดการประชุม AMICLC-1 นับเป็นการเคลื่อนไหวที่สำคัญยิ่งในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อเสริมสร้างความร่วมมือ ความไว้เนื้อเชื่อใจ ความสามัคคี และการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารการข่าวกรองด้านความมั่นคง และการทหารในกลุ่มประเทศสมาชิก…”

@@@…….สวัสดีท่านผู้อ่านทุกท่าน พบกันทุกวันเสาร์กับคอลัมน์ “Military Key” ทางเว็บไซต์ https:// thekey.news ซึ่งตรงกับวันเสาร์ที่ 9 พ.ย.67 สัปดาห์ที่ผ่านมา พล.ท.Tran Cong Chinh ที่ปรึกษาฝ่ายการเมือง กรมข่าวทหารเวียดนาม เป็นประธานในการประชุมผู้นำประชาคมข่าวกรองทางทหารอาเซียน ครั้งที่1 The 1st ASEAN Military Intelligence Community Leaders Conference: AMICLC-1 ร่วมกับ หัวหน้าคณะผู้แทนอาเซียนจาก 10 ประเทศ ภายใต้หัวข้อ “Ensuring ASEAN’s Centrality Amid Rising Conflicts and Solution” ณ กรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม 

@@@…….โดยที่ประชุมได้มีการเน้นย้ำถึงสภาพแวดล้อมด้านความมั่นคงของโลก และในภูมิภาคที่กำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว รุนแรง และไม่สามารถคาดเดาได้ อาทิ โรคระบาด การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ภัยธรรมชาติ และความมั่นคงด้านน้ำ อีกทั้งแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงอำนาจเชิงโครงสร้างบนภูมิรัฐศาสตร์ที่เปลี่ยนไป และสถานการณ์ความขัดแย้งที่มีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น รวมถึงปัญหาด้านความมั่นคงแบบดั้งเดิมที่มีความซับซ้อนมากขึ้น

@@@…….ที่ประชุมมีมติเอกฉันท์เห็นชอบขั้นตอนปฏิบัติงานมาตรฐาน Standard Operating Procedure: SOP และขอบเขตการทำงาน Term of reference : TOR สำหรับ การดำเนินงานข่าวกรองของประชาคมข่าวกรองทางทหารอาเซียน ASEAN Military Intelligence Community : AMIC ทั้งนี้ การประชุมครั้งนี้ ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการดำเนินงานอย่างเป็นทางการของประชาคมข่าวกรองทางทหารอาเซียน AMIC เพื่อเสริมสร้างความสามัคคี ความไว้วางใจซึ่งกันและกัน และฉันทามติระหว่างกองกำลังทหารของประเทศสมาชิกอาเซียนทั้ง 10 ชาติอย่างมีเอกภาพ 

@@@…….อย่างไรก็ตาม ฝ่ายความมั่นคง มองว่า จากกรณีที่ กองทัพบกเวียดนาม จัดการประชุม AMICLC-1 นั้น นับเป็นการเคลื่อนไหวที่สำคัญยิ่งในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อเสริมสร้างความร่วมมือ ความไว้เนื้อเชื่อใจ ความสามัคคี และการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารการข่าวกรองด้านความมั่นคง และการทหารในกลุ่มประเทศสมาชิก โดยการจัดตั้งประชาคมข่าวกรองดังกล่าว มีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับการเฝ้าระวัง และการรับมือกับภัยคุกคามที่เพิ่มขึ้นร่วมกันในภูมิภาค ไม่ว่าจะเป็นการก่อการร้าย การลักลอบข้ามพรมแดน และภัยคุกคามทางไซเบอร์ ซึ่งการประชุมในครั้งนี้ จึงเป็นโอกาสที่ประเทศสมาชิกจะร่วมมือในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการข่าวกรอง ด้วยการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารการข่าวกรองที่มีประโยชน์ต่อการป้องกัน และตอบโต้ต่อภัยคุกคามต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นในภูมิภาคได้อย่างรวดเร็ว และทันท่วงที 

@@@…….ทั้งนี้ การที่เวียดนามเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมครั้งนี้ จึงสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของทุกประเทศในภูมิภาคอาเซียนในการเสริมสร้างความมั่นคง และความร่วมมือกันในด้านข่าวกรองทางทหารอย่างยั่งยืน ซึ่งนับว่าเป็นแนวโน้มที่สำคัญต่อภูมิภาคในอนาคต รวมทั้งผลผลิตที่ได้จากการประเมินข้อมูลข่าวสารการข่าวกรอง จะเกิดประโยชน์อย่างสูงต่อการแสดงท่าทีในภาพรวมของอาเซียน ASEAN เป็นหนึ่งเดียว ซึ่งจะส่งผลให้เกิดกำลังขับเคลื่อนร่วมกันอย่างมีเอกภาพในเวทีการเมืองระหว่างประเทศที่ยอดเยี่ยมสำหรับอนาคตจากนี้ไป 

@@@…….วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร….นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิดการศึกษาหลักสูตรการป้องกันราชอาณาจักร รุ่นที่ 67 กล่าวเปิดการศึกษา ภายใต้แนวคิด “บทบาทของภาครัฐ เอกชน และการเมืองในการรักษาความมั่นคงแห่งชาติ” โดยนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวในพิธีเปิดการศึกษาหลักสูตรการป้องกันราชอาณาจักร รุ่นที่ 67 ได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการปรับตัวในสภาวะโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) เทคโนโลยีที่สามารถประมวลผลข้อมูลอย่างรวดเร็ว (AI) และค่านิยมที่เปลี่ยนไป ซึ่งมีผลกระทบต่อประชาชนทุกกลุ่ม ตลอดจนการแก้ไขปัญหาในภาวะวิกฤต ที่ต้องปรับแก้ปัญหาหน้างานและปรับตัวตามสถานการณ์ โดยทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และบุคคลในองค์กร ร่วมสนับสนุนการพัฒนาของประเทศทั้งในปัจจุบัน และอนาคต กระบวนการคิดวิเคราะห์ของหลักสูตรการป้องกันราชอาณาจักร รุ่นที่ 67 จะเป็นแรงสนับสนุนสำคัญในการเสริมสร้างความคิดและการวิเคราะห์ของประเทศในอนาคตต่อไป

@@@……. สำหรับหลักสูตรการป้องกันราชอาณาจักร รุ่นที่ 67 มีผู้เข้ารับการศึกษา จำนวนทั้งสิ้น 294 คน ประกอบด้วย ข้าราชการทหาร 89 นาย ข้าราชการตำรวจ 19 นาย ข้าราชการพลเรือน 88 คน พนักงานรัฐวิสาหกิจและองค์กรอิสระ 30 คน ภาคเอกชน 16 คน นักธุรกิจและบุคคลทั่วไป 64 คน นักศึกษาต่างประเทศ 7 คน จาก 7 ประเทศ ได้แก่ สาธารณรัฐมาเลเซีย สาธารณรัฐอินเดีย สหราชอาณาจักร สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม สาธารณรัฐเกาหลี ราชอาณาจักรกัมพูชา และสาธารณรัฐอินโดนีเซีย

@@@…….ทั้งนี้ วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร สถาบันวิชาการป้องกันประเทศ เป็นสถาบันหลัก ที่มุ่งเน้นให้ความรู้ครอบคลุมศาสตร์ทุกแขนง โดยนำความแข็งแกร่งของเครือข่ายนักศึกษามาบูรณาการร่วมในการพัฒนาประเทศ และยุทธศาสตร์ชาติด้านความมั่นคง อย่างเป็นรูปธรรม ครอบคลุมทุกมิติ ทั้งด้านการเมือง เศรษฐกิจ สังคมจิตวิทยา การทหาร วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และสิ่งแวดล้อม โดยคำนึงถึงประชาชนเป็นสำคัญในการพัฒนาด้านต่าง ๆ โดยมุ่งเน้นการพัฒนาเพื่อแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำทางสังคม และการนำข้อมูลอันเป็นประโยชน์ไปเผยแพร่ เพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้องให้กับสาธารณชนทั่วไป 

@@@…….กองบัญชาการกองทัพบก พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก ได้ให้การต้อนรับ นายวสันต์ ภัยหลีกลี้ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติและคณะ พร้อมพูดคุยถึงแนวทางการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน ตลอดจนการดำเนินการตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565 ซึ่งประเด็นดังกล่าว กองทัพบกได้ให้ความสำคัญและได้มีการประสานความร่วมมือกับคณะสิทธิมนุษยชนแห่งชาติมาอย่างต่อเนื่อง โดยที่ผ่านมาหลังจากที่พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานฯ มีผลบังคับใช้เมื่อ 22 ก.พ.66 กองทัพบกได้มีการรวบรวมข้อมูลการปฏิบัติงานในด้านต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับพระราชบัญญัติฯ เพื่อเตรียมจัดทำคู่มือแนวทางการปฏิบัติงานของกองทัพบก, จัดอบรมความรู้ให้แก่กำลังพลกองกำลังป้องกันชายแดนกองทัพบก และเจ้าหน้าที่ในหน่วยฝึกทหารใหม่ทั่วประเทศ พร้อมเตรียมกำหนดระเบียบการปฏิบัติของกองทัพบกเพื่อให้สอดคล้องกับแนวทางมาตรการควบคุมและป้องกันการลงทัณฑ์หรือลงโทษที่ไม่เป็นไปตามกฎหมายและแบบธรรมเนียมทหารตามนโยบายของกระทรวงกลาโหม 

@@@…….สำหรับประเด็นในการหารือร่วมกันนั้น กองทัพบกและคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ได้มุ่งเน้นในเรื่องของกลไกเชิงป้องกันมิให้เกิดการละเมิดสิทธิมนุษยชน โดยทั้งสองหน่วยงานพร้อมที่จะแลกเปลี่ยนและสนับสนุนข้อมูลการทำงานซึ่งกันและกัน โดยเฉพาะในส่วนของการเผยแพร่ความรู้และความเข้าใจที่ถูกต้องแก่เจ้าหน้าที่ทหาร เพื่อสร้างความรับรู้ในการปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้องกับสิทธิมนุษยชนอย่างถูกต้อง ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติพร้อมที่จะสนับสนุนวิทยากรในการบรรยายให้ความรู้ และในส่วนของกองทัพบกก็พร้อมที่จะอำนวยความสะดวกในเรื่องข้อมูลการตรวจสอบและให้ความช่วยเหลือเมื่อมีข้อร้องเรียนในเรื่องต่าง ๆ นอกจากนี้ยังได้มีการร่วมกันกำหนดแผนในการเยี่ยมชมหน่วยฝึกทหารใหม่ และหน่วยทหารต่าง ๆ เพื่อรับทราบถึงการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ทหารในพื้นที่อีกด้วย ซึ่งการพูดคุยกันในครั้งนี้ แสดงให้เห็นถึงความร่วมมือกันในการขับเคลื่อนงานด้านสิทธิมนุษยชนที่กองทัพบกให้ความสำคัญ และพร้อมที่จะพัฒนาแนวทางการปฏิบัติงานเพื่อป้องกันและปราบปรามมิให้เกิดการกระทำทรมานและกระทำให้บุคคลสูญหายอันเป็นการคุ้มครองศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ตามหลักสากลและสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนและสังคม

@@@…….กองทัพเรือ….พล.ร.อ.จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ เดินทางไปตรวจเยี่ยมศูนย์ฝึกทหารใหม่ และโรงเรียนชุมพลทหารเรือ กรมยุทธศึกษาทหารเรือ ในพื้นที่ตำบลบางเสร่   อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี  โดยได้ตรวจดูสภาพความเป็นอยู่ รวมถึงการดูแลสวัสดิการให้แก่กำลังพล  ตลอดจนการจัดเลี้ยงให้ถูกสุขลักษณะ และการดูแลสุขภาพกำลังพลในทุกระดับ  ทั้งนี้ ในส่วนของการดูแลทหารกองประจำการ และนักเรียนจ่า ผู้บัญชาการทหารเรือได้เน้นย้ำแก่ครูฝึก ให้เข้าใจถึง “อำนาจ หน้าที่ และ ความรับผิดชอบ” ของตนเอง อีกทั้งให้สอดส่องดูแลกำลังพลในทุกระดับไม่ให้ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด พร้อมมาตรการในการป้องกันปราบปรามอย่างเด็ดขาด 

@@@…….ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้ย้ำให้ผู้บังคับบัญชาและครูฝึกปฏิบัติตามนโยบายที่ได้มอบไว้ให้ในการปฏิบัติแก่ผู้ที่เข้ารับการฝึก ให้มีสิทธิเท่าเทียม ห้ามไม่ให้มีการลงโทษเกินกว่าเหตุ โดยสิ่งสำคัญที่สุดคือ การให้ครูฝึกฯ ทุกนายคำนึงอยู่เสมอในการดูแลเอาใจใส่ นักเรียนจ่า รวมถึง พลทหารกองประจำการ ผลัด 3/67 ว่าเป็นน้องเล็กของกองทัพเรือ ให้เป็นไปตามนโยบาย ผู้บัญชาการทหารเรือ ที่ได้กำหนดให้เป็นปีแห่งความปลอดภัยของกองทัพเรือ หรือ “NAVY-SAFETY 2025” ในทุก ๆ ด้าน  เพื่อมุ่งเน้นการพัฒนากำลังพลให้มีความพร้อมและมีมาตรฐานความปลอดภัยในการปฏิบัติงานทุกภารกิจ

คอลัมน์  : “Military Key”

โดย.. “รหัสมอร์ส”

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

OR กับอนาคตที่กำลังเปลี่ยนผ่าน

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img