วันอาทิตย์, พฤศจิกายน 24, 2024
spot_img
หน้าแรกHighlight‘ทักษิณ’ยันตัวเองตกเป็นเหยื่อมาตรา112 เคยเตือน‘ธนาธร’อย่ารื้อโครงสร้างมากไป
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

‘ทักษิณ’ยันตัวเองตกเป็นเหยื่อมาตรา112 เคยเตือน‘ธนาธร’อย่ารื้อโครงสร้างมากไป

‘ทักษิณ’ ยัน ตัวเองเป็นเหยื่อ 112 บอก เตือน ‘ธนาธร’ แล้ว อย่าพยายามรื้อโครงสร้างมากเกินไป ไม่ได้บอก ‘ธนาธร’ หรือ ‘ก้าวไกล’ ไม่จงรักภักดี แต่ต้องมีวิธีการยึดหลักให้ถูก อย่าไปมุ่งหาเสียง บางที จุดโฆษณามันอันตรายกว่าความตั้งใจจะทำ

วันที่ 14 พ.ย.67 เวลา 12.30 น. ที่จังหวัดอุดรธานี นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีพูดถึงเรื่องความเท่าเทียมและโอกาส บนเวทีปราศรัย จะสามารถคืนความยุติธรรมให้กับนักโทษคดีการเมืองได้หรือไม่ ว่า เรื่องนี้มันมีความซับซ้อนหลายอย่าง ความจริงเรื่องการเมืองตั้งแต่ตนเองโดนปฏิวัติ ก็ไล่ห้ำหั่นกันทางการเมือง เมื่อนายกฯยิ่งลักษณ์โดนปฏิวัติเหมือนกันอีก หลังจากนั้นก็ผสมโรงด้วยบุคคลต่างๆ ซึ่งวันนี้ตนจะพูดบนเวทีปราศรัยมากขึ้น เพื่อจะได้เห็นความชัดเจนขึ้น

ส่วนกรณีการนิรโทษกรรม ที่พรรคร่วมรัฐบาลไม่เห็นด้วยในการนิรโทษความผิดอาญามาตรา 110 และ มาตรา 112 นายทักษิณ กล่าวว่า คดี 112 เป็นเรื่องที่พรรคร่วมรัฐบาลให้สัตยาบันกันไว้ว่า เราจะเทิดทูนสถาบันฯ จะไม่แตะเรื่อง 112 แต่ความจริงแล้ว ม.112 ปัญหาอยู่ที่การบังคับใช้กฎหมาย ตนก็เป็นเหยื่อการบังคับใช้กฎหมาย คนที่รับคดีครั้งแรกบอกว่าเดี๋ยวจะหาว่าไม่จงรักภักดี ก็ฟ้องไปก่อน ทั้งๆ ที่หลักฐานไม่มี คนที่สองถ้าไม่ฟ้อง เดี๋ยวโดนอีก ก็ฟ้องๆ มา โดยที่ไม่ได้ดูความถูกต้องของพยานหลักฐาน ทำให้การจงรักภักดีลักษณะนี้ไม่ถูกต้อง การจงรักภักดีที่ถูกต้อง คือการรักษากฎหมายที่เกิดความเป็นธรรม ดังนั้นนี่คือสิ่งที่ต้องแก้ไข แต่ก็ไม่ง่าย ต้องใช้เวลา แต่ต้องแก้แน่

เมื่อถามย้ำว่า พ.ร.บ.นิรโทษกรรม มีโอกาสจะเกิดขึ้นหรือไม่ โดยที่พรรคประชาชนและพรรคเพื่อไทยจับมือกัน นายทักษิณ กล่าวว่า ตนไม่อยากไปให้ความเห็นในเรื่องนี้ ไม่อยากมีบทบาท เดี๋ยวจะหาว่าเพราะคนนั้นเพราะคนนี้ ถ้าเราอยู่บนหลักการ ทุกอย่างมีทฤษฏีของมันเอง มันจะไม่เป็นอย่างนี้ แต่เมื่อเป็นเรื่องของพวกใครพวกมันมากเกินไป มันถึงได้เป็นปัญหา ถ้าเมื่อไหร่จิตใจนิ่ง สงบ คิดถึงหลักการเป็นหลัก ไม่คิดถึงพวกใครพวกมัน มันจะดีขึ้นเยอะ

ส่วนอะไรที่ทำให้ข้อหาไม่จงรักภักดีใช้ได้ผลเสมอในทางการเมือง นายทักษิณ กล่าวว่า การเมือง ตนโดนหนักที่สุด ทั้งที่ถวายงานที่สุด แต่ด้วยความหมั่นไส้

ส่วนบริบทต่างกันอย่างไร ระหว่างรัฐประหารปี 49 ปี 57 จนถึงการที่พรรคการเมืองโดนยุบพรรค เพราะมีนโยบายแก้ไขมาตรา 112 นั้น นายทักษิณกล่าวว่า ตนเคยคุยกับนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ตนบอกว่าตนก็โดน 3 พรรค และไปอยู่เมืองนอกตั้ง 17 ปี ฉะนั้นขอให้เราช่วยกันทำงานให้บ้านเมืองเป็นหลัก อย่าไปพยายามรื้อโครงสร้างมากเกินไป ถ้าเราแก้ปัญหาด้วยหลักการ และเอาบ้านเมืองให้อยู่ได้ มันจะดีที่สุด ไปคิดถึงสิ่งที่มีอยู่ สิ่งที่ประชาชนคนไทยเคารพนับถือ ซึ่งเป็นโครงสร้างสำคัญของสถาบันฯ เราต้องจรรโลงอย่างเดียว ตนไม่ได้บอกว่านายธนาธรหรือพรรคก้าวไกลจะไม่จงรักภักดี แต่ต้องมีวิธีการที่ยึดหลักให้ถูกต้อง อย่าไปมุ่งหาเสียง บางทีจุดโฆษณามันอันตรายกว่าความตั้งใจจะทำ

ส่วนวิธีการแก้ไขปัญหาเรื่องนี้ นายทักษิณ กล่าวว่า ต้องทำตามหลักการของกฎหมาย กฎหมายไม่ดีก็ต้องแก้กฎหมายไปทีละสเต็ป ไม่ใช่อยู่ๆ กฎหมายไม่ดีก็จะบอกว่าต้องไม่ทำเลย ไม่ได้ กฏหมายมีอยู่ก็ต้องเคารพ

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img