วันอังคาร, พฤศจิกายน 19, 2024
spot_img
หน้าแรกHighlightทนายวิฑูรย์แจ้งจับ‘เจ๊พัช-ฟิล์ม’ตบทรัพย์ จ่อเอาผิดเพิ่มอีก89คนอ้างเป็นผู้เสียหาย
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

ทนายวิฑูรย์แจ้งจับ‘เจ๊พัช-ฟิล์ม’ตบทรัพย์ จ่อเอาผิดเพิ่มอีก89คนอ้างเป็นผู้เสียหาย

วิฑูรย์’ ทนายบอสพอล แจ้งความเอาผิด ‘กฤษอนงค์-ฟิล์ม’ ร่วมกันกรรโชกทรัพย์ จ่อเอาผิดเพิ่มอีก 89 คน ‘เจ๊พัช’ พามาอ้างตัวเป็นผู้เสียหาย ยันไม่เอาผิด ‘นาย ส.เสือ’


วันที่ 19 พ.ย.67 ที่อาคารประชาอารักษ์ กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) นายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความของนายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือ ‘บอสพอล’ เข้าแจ้งความเอาผิด น.ส.กฤษอนงค์ สุวรรณวงศ์ เจ้าของเพจกฤษอนงค์ต้านโกง และนายรัฐภูมิ โตคงทรัพย์ หรือ ‘ฟิล์ม รัฐภูมิ’ ในกรณีปรากฏคลิปเสียงที่มีการแอบอ้างนายภูดิท กำเนิดพลอย หรือหนุ่ม กรรชัย เรียกรับเงิน 20 ล้านบาท


นายวิฑูรย์ กล่าวว่า วันนี้หลังจากที่ตนได้เดินทางเข้าไปพบกับ ‘บอสพอล’ ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ และ ‘บอสปัน’ ที่ทัณฑสถานหญิงกลาง เพื่อรับมอบอำนาจจากบอสพอลในนามนิติบุคคล บริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป ก็ได้เดินทางมาแจ้งความเอาผิดกับน.ส.กฤษอนงค์ และฟิล์มรัฐภูมิ ในข้อหาร่วมกันกรรโชกทรัพย์ ซึ่งออร์เดอร์นี้เป็นออเดอร์พิเศษ นอกเหนือจากการดำเนินคดีหลักที่ตนเคยได้ออกมาชี้แจงกับสื่อ ซึ่งตนเองไม่ทราบว่าคลิปเสียงดังกล่าวในคดีนี้หลุดไปที่หนุ่มกรรชัยได้อย่างไร คาดว่าจะเกิดจากลมเพลมพัด เพราะช่วงนั้นมรสุมมันแรง ยืนยันว่า คลิปเสียงไม่ได้หลุดมาจากฝั่งตน และทั้งตนและบรรดาบอสดิไอคอนกรุ๊ป ก็รู้สึกตกใจ เพราะตนก็เพิ่งกู้คลิปเสียงจากระบบคลาวด์ในโทรศัพท์ของบอสปันได้
นายวิฑูรย์ กล่าวว่า คดีนี้มีพยานทั้งหมด 3 คน คือ หนุ่มกรรชัย และ บอสอีก 2 คนที่อยู่ในเรือนจำ แต่ทั้ง 2 คนก็ยังไม่เคยให้ปากคำในฐานะพยาน ซึ่งคดีนี้มีคลิปเสียงทั้งหมด 3 คลิป ตอนนี้มีการปล่อยไปแล้ว 2 คลิป เหลืออีก 1 คลิป ซึ่งคลิปดังกล่าวมีความเชื่อมโยงและเป็นหลักฐานผูกมัดผู้กระทำความผิด และเป็นบุคคลเดิมที่ก่อเหตุ


ในส่วนของเรื่อง 89 คนที่อ้างว่าเป็นผู้เสียหายจากคดีดิไอคอน ที่ น.ส.กฤษอนงค์พามาเรียกร้องขอรับเงินชดเชยจากดิไอคอน จากกรณีที่ขายของไม่ได้ไปแล้ว 8.9 ล้านบาท โดยทั้ง 89 คน ได้นำไปแบ่งให้ น.ส.กฤษอนงค์คนละ 20% ตอนนี้อยู่ในระหว่างการตรวจสอบว่า ได้เข้ามาลงทะเบียนทับซ้อนกับ บก.ปคบ. หรือไม่ หากตรวจพบว่ามีการกระทำความผิด ก็จะแจ้งข้อหา ‘ร่วมกันกรรโชกทรัพย์’ เนื่องจากตนมองว่า มีการทำงานร่วมกันเป็นขบวนการ อย่างไรก็ตามจะต้องปรึกษากับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อพิจารณาข้อหากันอีกครั้ง


เมื่อถามว่า กลุ่มตัวแทนจำหน่ายที่ถูกอายัดบัญชี ได้มีการปรึกษาอะไรกับทางฝั่งดิไอคอนหรือไม่ นายวิฑูรย์ กล่าวว่า ตนก็แนะนำไปว่าใครอายัดก็ให้ไปบอกคนนั้นให้จัดการแก้ไขปลดล็อกบัญชี นอกจากนี้กลุ่มตัวแทนจำหน่ายดังกล่าว สมัครใจมาเป็นพยานในคดีนี้ เพื่อยืนยันว่าดิไอคอนไม่ได้ทำธุรกิจแชร์ลูกโซ่ตามที่ถูกกล่าวหา ยืนยันว่า ฝั่งบอสไม่ได้มีการไปร้องขอแต่อย่างใด


นายวิฑูรย์ ยังยืนยันว่า บริษัทดิไอคอน ไม่ประสงค์ดำเนินคดีกับ ‘นายส.เสือ’ แต่ส่วนที่บก.ปปป. ขยายผลจะดำเนินคดี ‘นายส.เสือ’ ในส่วนที่เป็นเจ้าหน้าที่รัฐ ก็เป็นสิทธิ์ของบก.ปปป. แต่ข้อมูลตนได้มีการแจ้งไปตั้งแต่แรกแล้วว่า ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องในการเรียกตบทรัพย์ โดยเงินที่ปรากฏตามสื่อที่ออกมาแฉนั้นก็เป็นเงินที่ทำบุญ ไม่ได้มีการโอนกันทุกเดือน
ส่วนเส้นทางทางการเงินที่พบจำนวน 10 ล้านบาท ตนมองว่าเป็นการโอนกันระหว่างแม่-ลูก ไม่ได้เป็นเส้นเงินที่บอสพอลจ่าย โดยส่วนตัวมองว่าเป็นเรื่องปกติ

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img