“หมอวรงค์”พร้อมแนวร่วมคนคลั่งชาติ นำ104,697รายชื่อ จี้นายกฯยกเลิก MOU44 อ้างเสียดินแดน-ประณามรัฐบาลขายชาติ
เมื่อวันที่ 22 พ.ย. ที่เชิงสะพานชมัยมรุเชฐ ถ.พิษณุโลก บริเวณใกล้ทำเนียบรัฐบาล นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานที่ปรึกษาพรรคไทยภักดี พร้อมแนวร่วมคนคลั่งชาติ นำรายชื่อประชาชน 104,697 รายชื่อ ที่ร่วมเรียกร้องให้ยกเลิกบันทึกความเข้าใจไทย-กัมพูชา ว่าด้วยพื้นที่อ้างสิทธิทับซ้อนทางทะเลในไหล่ทวีป (เอ็มโอยู 2544) ไปยื่นหนังสือถึง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี
นพ.วรงค์ กล่าวก่อนการยื่นหนังสือว่า เราในฐานะประชาชนคนคลั่งชาติ มีเจตนาที่จะมาเตือนและยืนถึงนายก ฯ และการที่นำธงรูปช้างที่เป็นสัญลักษณ์ของสยามประเทศมานั้น เพราะต้องการจะเตือนนายก ฯ และคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ธงของสยามคือความเจ็บปวดของชนชาติไทย ในช่วง ร.ศ. 125 ซึ่งวิกฤตการณ์กับฝรั่งเศสนั้นมีหลายครั้ง ทั้ง ร.ศ.112 และ ร.ศ.125 ซึ่งเป็นช่วงที่เราเสียแผ่นดิน พระตะบอง เสียมราฐ ศรีโสภณ เพื่อแลกเปลี่ยนกับด่านซ้ายของประเทศ และหัวใจสำคัญ คือ จ.ตราด รวมถึงเกาะอื่น ๆ แม้กระทั่งเกาะกูด ต้องเป็นของประเทศไทย ตนเชื่อว่านายก ฯ จะทราบดี เพราะนายก ฯ พูดอยู่เสมอว่าเกาะกูดของประเทศไทย สิ่งที่คนคลั่งชาติจะตั้งคำถามถึงนายก ฯ ว่า “ในเมื่อเกาะกูดเป็นของประเทศไทย ตั้งแต่ปี พ.ศ. 1907 หรือร้อยกว่าปีมาแล้ว ทำไมถึงยอมให้เขมร ขีดเส้นเขตแดนทางทะเลมายังเกาะกูด
“ เพราะเส้นเจ้าปัญหาเส้นนี้ นำไปสู่ปัญหาทุกอย่างแม้กระทั่งปัญหาของกองทัพเรือ และเส้นแบ่งแดนเส้นนี้นำไปสู่ปัญหาเขตแดนทางทะเลที่ทับซ้อน 26,000 ตารางกิโลเมตร ภายหลังการที่ตนได้อ่านบทสัมภาษณ์ของกองทัพเรือพบว่า เขาลาดตระเวนทางทะเลตามเส้นแดนที่ประเทศไทยประกาสเมื่อปี พ.ศ. 2516 ดังนั้น ในหลักคิดของกองทัพเรือ ไม่ทีพื้นที่ทับซ้อน แต่รัฐบาลชุดนี้ เป็นคนที่ทำให้เกิดพื้นที่ทับซ้อนเพราะต้องการจะขายชาติ ตนขอประณามรัฐบาลดัง ๆ ว่า ”ท่านต้องการแสวงหาผลประโยชน์ทางพลังงานเท่านั้น โดยไม่สนใจการเสียดินแดนทางทะเล เพราะท่านขายชาติ“นพ.วรงค์ กล่าว
นพ.วรงค์ กล่าวต่อว่า และอีกจุดที่ต้องย้ำคือ นายก ฯ ชอบย้ำว่า เอ็มโอยู 2544 ยกเลิกไม่ได้ ขณะที่บางคนบอกว่ายกเลิกได้ สรุปแล้วจะให้เชื่อใคร เพราะว่าคนนี้โกหกที่ อีกคนก็โกหกที ตนมองว่าหากนี้คือเอ็มโอยูทั่วไป โดยหลักการแล้วแม้แต่เรือดำน้ำก็เซ็นต์เอ็มโอยู ขายข้าวก็เซ็นเอ็มโอยู ดังนั้น ตนจึงมองว่าไม่น่าเป็นปัญหาสามารถยกเลิกได้ แต่ล่าสุดกลับบอกว่าเอ็มโอยูคือสนธิสัญญา การทำแบขนี้เท่ากับว่าเป็นสนธิสัญญาเถื่อน เพราะไม่ผ่านรัฐสภา ตนขอเตือนว่า 104,687 รายชื่อ เพื่อมาย้ำเตือนและเรียกร้องรัฐบาล 3 ข้อ
นพ.วรงค์ กล่าวต่อว่า 1.ในเมื่อเอ็มโออยู่นี้ทำให้เราเสียเปรียบ สร้างปัญหาแก่ชาติบ้านเมือง และยิ่งเดินหน้ายิ่งนำไปสู่การเสียดินแดน จึงขอให้ยกเลิก เอ็มโอยู 2544 ฉบับนี้ 2.ประชาชนคนคลั่งชาติไม่ปฏิเสธการเจรจา แต่ต้องเจรจาบนหลักการของกฎหมายระหว่างประเทศที่เหมือนกัน ไม่ใช่ว่าประเทศไทยลากเส้นที่เป็นไปตามกฎหมายระหว่างประเทศ แต่กัมพูชาลากเส้นตามใจชอบ แบบนี้เจรจาไม่ได้ หากจะเจรจาก็เรียกร้องให้กัมพูชาเข้าร่วมสนธิสัญา อนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยกฎหมายทะเลแล้วมาเจรจา (ยูเอ็นซีแอลโอเอส) กันแบบแมนๆ 3.อย่าให้มีการนำไปสู่การขุดผลประโยชน์ทางพลังงานแบ่งกันเด็ดขาด หากเกิดขึ้นเมื่อไหร่จะเข้าประเด็นกฎหมายปิดปาก เราจะเสียดินแดนทางทะเลแน่นอน จึงขอเตือนข้อนี้เป็นกรณีพิเศษต่อนายก ฯ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายหลังจากการชุมนุมนั้น นายสมพาศ นิลพันธ์ ที่ปรึกษาสำนักปลัดสำนักนายก ฯ เป็นตัวแทนมารับยื่นหนังสือในครั้งนี้
