“โรม” แฉเห็นข้อมูลใหม่ “ทักษิณ” มีหลากหลายโรค ขัดตอนลงจากเครื่อง “รมว.ยุติธรรม” ยันอดีตนายกฯจ่ายค่ารักษาเอง “กมธ.มั่นคง” พร้อมบุกชั้น 14 ค้นหาความจริงต่อ
วันที่ 22 พ.ย.2567 เวลา 13.00 น.ที่รัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ(กมธ.)ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูป สภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมกมธ.ความมั่นคงฯซึ่งมีพ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ร่วมชี้แจง เป็นที่พึ่งพอใจของกมธ.แล้วหรือไม่ว่า ต้องยอมรับว่าวันนี้เรามีเวลาในการพูดคุยกับรมว.ยุติธรรมน้อยมาก น่าจะอยู่ที่ประมาณ 1 ชั่วโมง ซึ่งตนขอย้ำว่ากมธ.ชุดนี้มีอำนาจในการพิจารณาแม้ว่าหน่วยงานจะโต้แย้ง และไม่เห็นด้วย แต่หน่วยงานก็ไม่มีอำนาจในการชี้ในการส่วนของกฎหมายที่ให้อำนาจเรา ซึ่งเรามีอำนาจในการที่จะพิจารณาว่าอยู่ในกรอบคณะของเรา บทพิสูจน์ของการพิจารณามาแล้ว 54 ครั้ง โดยครั้งนี้เป็นครั้งที่ 55 ก็พิสูจน์ว่าเราใช้แนวปฏิบัติเดิมมาโดยตลอด เราไม่ได้ใช้วิธีพิสดาร หรือรูปแบบที่แตกต่างจากเดิมในการพิจารณาแต่อย่างใด อย่างไรก็ตามแม้จะมีความไม่สบายใจอยู่บ้างก็สุดท้ายมีการประชุมลับในส่วนของกมธ. ซึ่งเป็นเรื่องของแนวทางว่าเราจะเดินหน้ากันอย่างไร และข้อสรุปว่าเดินหน้า ก็สามารถที่จะสอบถามกันต่อไป
นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ในเรื่องเนื้อหาสาระที่มีการพูดคุยกันในส่วนของขาออกจากเรือนจำไปที่โรงพยาบาลตำรวจ การรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจ และการได้พักโทษ ซึ่งทั้ง 3 เรื่องนี้ต้องยอมรับว่าด้วยข้อจำกัดเวลาเราไม่สามารถสอบถามได้ครอบคลุมทุกรายละเอียด แต่มีข้อมูลเพิ่มเติม ที่อาจจะแตกต่างจากรอบที่แล้วอยู่บ้าง เช่นจากเดิมที่เราได้รับข้อมูลว่าการที่นายทักษิณถูกส่งตัวไปที่โรงพยาบาลตำรวจก่อนหน้านี้เราได้รับข้อมูลว่าเป็นแค่เพียงพยาบาล 2 ท่านที่เป็นผู้ลงนาม ซึ่งก็ยืนยันว่าเป็นความจริง แต่ก่อนหน้านี้เราไม่ได้รับข้อมูลว่ามีแพทย์ ที่เกี่ยวข้องกับการรักษาหรือการวินิจฉัยในเรื่องนี้ ฟังดูเหมือนรอบที่แล้วมีเฉพาะพยาบาลเป็นผู้วินิจฉัย และโทรหาคุณหมอก็จบ แต่วันนี้เราได้รับข้อมูลใหม่ว่าในช่วงเวลา 11 โมงของวันดังกล่าวมีคุณหมอ จากโรงพยาบาลราชทัณฑ์ในการพิจารณาสุขภาพร่างกาย ของนายทักษิณก่อน และหลังจากนั้นฟังดูเหมือนช่วงการคืนอาการของนายทักษิณก็ออกมา จึงมีการสั่งการให้ส่งตัวนายทักษิณไปที่โรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งวันนี้เราได้รับข้อมูลเพียงเท่านี้ และเรายังไม่ทราบว่าชื่อของคุณหมอเป็นใคร
“เรื่องของอาการป่วยผมได้เห็นใบแสดงความเห็นของแพทย์ก็มีอาการป่วยของนายทักษิณหลายอย่าง และท่านรัฐมนตรียืนยันอย่างหนักแน่นว่าไม่อยากให้เปิดเผยในรายละเอียด แต่เอาว่าการป่วยมีเยอะมาก หลากหลายอย่าง ซึ่งแน่นอนว่าอาจจะขัดกับความรู้ที่เราเห็นนายทักษิณลงจากสนามบิน แต่ไม่เป็นไร อันนี้ต้องไปดูในเวชระเบียน ว่าสุดท้ายแล้วเวชระเบียนจะเป็นอย่างไร ซึ่งวันนี้ท่านรัฐมนตรีรับปากและเราฟังตรงกันว่ารัฐมนตรีไม่ปฏิเสธเลยว่าจะไม่ส่งเอกสารให้กับเรา ดังนั้นเอกสารที่เราขอไปกว่า 10 รายการที่มีเวชระเบียนด้วยเราก็หวังว่าเราจะได้จากทางท่านรัฐมนตรี ซึ่งเราต้องจัดให้อยู่ในความเหมาะสม”นายรังสิมันต์ กล่าว
ประธานกมธ.ความมั่นคงฯ กล่าวอีกว่า ส่วนที่เป็นข้อมูลในเรื่องของชั้น 14 ว่าตกลงแล้วเป็นห้องควบคุมพิเศษตามกฎหมายหรือตามระเบียบข้อบังคับราชการหรือไม่ คือข้อมูลที่เราได้รับว่าท่านรัฐมนตรีก็ไม่เคยไปตรวจสอบ ว่าชั้น 14 อยู่ภายใต้กฎหมายหรือระเบียบหรือไม่ ท่านก็เพียงแต่เชื่อจากข้าราชการผู้ใต้บังคับบัญชา เชื่อจากผู้ตรวจการแผ่นดิน ในเมื่อท่านไม่เคยไปดู ถ้าท่านยืนยันก็ตามนั้น ในส่วนถัดมาคือเรื่องให้คะแนน ว่าอดีตนายกฯเป็นผู้สูงอายุที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ซึ่งในส่วนนี้เมื่อผลคะแนนออกมาท่านได้แจ้งกับกมธ.ว่าตอนนี้ได้มีการให้รองปลัดกระทรวงฯไปตรวจสอบ แต่เรายังไม่ได้รับรายการงานผลการตรวจสอบเป็นอย่างไร แต่ตนก็อนุมานว่าผลการตรวจสอบคงจะไม่เป็นลบอะไร เพราะไม่ได้มีการชี้แจงจากทางกระทรวงยุติธรรมในทำนองว่าการให้คะแนนกับกรณีของนายทักษิณอาจจะเป็นการให้คะแนนที่ผิด ไม่ถูกต้องตามกฎเกณฑ์ หรือมีการช่วยเหลือกัน ไม่ได้มีข้อเท็จจริงแบบนั้นออกมา ซึ่งก็เดาว่าท่านคงเชื่อว่าการดำเนินงานทั้งหมดถูกต้องแล้ว และต้องยืนยันว่ามีอีกหลายท่านที่เกี่ยวข้องแต่ไม่ได้มา ไม่ว่าจะเป็นนายแพทย์ใหญ่ หรือผู้ช่วยผบ.ตร.ท่านหนึ่ง อย่างไรก็ตามได้มีการหารือกันในกมธ.มีข้อสรุปว่าจะมีการเดินทางกันไปยังโรงพยาบาลตำรวจ ส่วนวันเวลานั้นจะต้องหารือกันอีกครั้ง ซึ่งตั้งใจจะไปประชุมกันที่นั้นด้วย และจะเชิญคุณหมอที่เกี่ยวข้องมาร่วมด้วย และตั้งใจจะไปดูชั้น 14 ว่าสุดท้ายแล้วบรรดาข้อครหานั้นเป็นอย่างไร จะได้สิ้นสงสัยกันไป
นายรังสิมันต์ กล่าวต่อว่า ทางพ.ต.อ.ทวีได้ให้ข้อมูลกับกมธ.ว่าในส่วนของค่าใช้จ่ายที่คราวที่แล้วเราได้รับข้อมูลว่าล้านกว่าบาท ซึ่งวันนี้เราได้รับข้อมูลใหม่ว่าอดีตนายกฯเป็นคนจ่ายเองทั้งหมด อย่างไรก็ตามวันนี้เราไม่ได้เชิญเฉพาะกระทรวงยุติธรรม ซึ่งนายทักษิณอาจจะยกยอดออกไปก่อน คงเอาส่วนราชการให้ครบถ้วนเพราะเราไม่มีอำนาจบังคับนายทักษิณ