ตลาดหุ้นไทยปิดลบ 5.06 จุด นักลงทุนเทขายหุ้นพลังงาน หลังราคาน้ำมันดิบปรับตัวลงจากสถานการณ์ตะวันออกกลางคลี่คลาย แนวโน้มวันพรุ่งนี้ คาดตลาดน่าจะอยู่ในโซนพักตัว ให้แนวรับที่ 1,430 จุด แนวต้านที่ 1,450 จุด
นายชาญชัย พันทาธนากิจ ผู้อำนวยการสายงานวิจัย บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) เปิดเผยถึงภาวะตลาดหุ้นไทยปิดที่ระดับ 1,438.25 จุด ลดลง 5.06 จุด หรือ (-0.35%) มูลค่าซื้อขาย 37,226.32 ล้านบาทว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้อยู่ในโซนพักตัว มีแรงกดดันจากแรงขายหุ้นกลุ่มพลังงาน ที่รับ Sentiment ลบจากราคาน้ำมันดิบปรับตัวลง จากสถานการณ์ตะวันออกกลางคลี่คลายลง หลังจากที่อิสราเอลและเลบานอนได้บรรลุข้อตกลงชั่วคราวเกี่ยวกับเงื่อนไขในการหยุดยิงระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ นอกจากนี้ก็ยังมีแรงขายทำกำไรกลุ่ม GULF คือ GULF ADVANC INTUCH
ขณะที่กลุ่มที่กลับมาโดดเด่น DELTA HANA KCE ปรับขึ้นจากก่อนหน้านี้ปรับตัวลงไปมากแล้ว และกลุ่มที่รับ Sentiment บวกจากการส่งออกไทยเดือนต.ค.ดีกว่าคาด อาทิ ถุงมือยาง STGT +5.6% และยังมีหุ้น SAPPE +1.3% MALEE +5% เป็นต้น
นอกจากนี้ตลาดกลับมากังวลสงครามการค้าที่จะกลับมาอีกครั้ง ระหว่างสหรัฐกับจีน ซึ่งนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐเตรียมจะเก็บภาษีนำเข้าเพิ่มทั้งจีน แคนนาดา และ เม็กซิโก เงินทุนต่างชาติมีแนวโน้มไหลออก ส่วนเม็ดเงินสถาบันก็แผ่วลง
สำหรับแนวโน้มวันพรุ่งนี้ คาดตลาดน่าจะอยู่ในโซนพักตัว ให้แนวรับที่ 1,430 จุด แนวต้านที่ 1,450 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 1,758.14 ล้านบาท ปิดที่ 283.00 บาท ลดลง 5.00 บาท
DELTA มูลค่าการซื้อขาย 1,519.55 ล้านบาท ปิดที่ 151.50 บาท เพิ่มขึ้น 6.00 บาท
CCET มูลค่าการซื้อขาย 1,478.30 ล้านบาท ปิดที่ 8.15 บาท ลดลง 0.80 บาท
BDMS มูลค่าการซื้อขาย 1,447.10 ล้านบาท ปิดที่ 25.75 บาท ลดลง 0.50 บาท
GULF มูลค่าการซื้อขาย 1,207.84 ล้านบาท ปิดที่ 62.75 บาท ลดลง 1.50 บาท