หอการค้าภาคเหนือ-หอการค้าเชียงใหม่เตรียมเสนอมาตรการระยะสั้น-ระยะยาวกระตุ้นเศรษฐกิจภาคเหนือ หลังจากได้รับผลกระทบน้ำท่วมหนัก ในการประชุมครม.สัญจรจังหวัดเชียงใหม่ – เชียงราย วันที่ 28-30 พ.ย.นี้
นายสมบัติ ชินสุขเสริม ประธานหอการค้าภาคเหนือ เปิดเผยว่า ในการประชุมครม.สัญจรจังหวัดเชียงใหม่ – เชียงราย วันที่ 28-30 พ.ย.นี้ คณกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2 เตรียมเสนอมาตรต่าง ๆ ดังนี้
ส่งเสริมการท่องเที่ยว สนับสนุนงประมาณในการจัดงานมหกรรม งานเทศกาลอาหารดนตรี การแข่งขันทางวิชาการและกีฬา เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวให้เกิดขึ้นทุกเดือนตลอดปี สร้างรายได้ให้แก่ท้องถิ่น ตามข้อมูลที่ได้จากผู้ประกอบการในภาคการท่องเที่ยว ซึ่งพบว่า การกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่จะมีผลต่อเนื่องและกระจายรายได้ให้กับประชาชนได้อย่างกว้างขวาง
เร่งรัดการฟื้นฟูด้านการเกษตร โดยเฉพาะช้าวนาปีและนาปรัง ซึ่งเป็นพืชเศรษฐกิจหลักของกลุ่มจังหวัด ภาคเอกชนในพื้นที่เสนอให้จัดหาพันธุ์ข้าวนาปรังที่ใช้น้ำน้อย เก็บเกี่ยวเร็ว และให้ผลผลิตสูงเพื่อทดแทนความเสียหายจากภัยพิบัติ รวมถึงสนับสนุนปัจจัยการผลิตด้วยปุ๋ยอินทรีย์ที่ผ่านการรับรองโดยกรมวิชาการเกษตร เพื่อยกระดับคุณภาพและราคาของผลผลิต ซึ่งข้อมูลเหล่านี้รวบรวมจากเสียงสะท้อนของเกษตรกรในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบโดยตรง
ลดค่าสาธารณูปโภค เช่น ลดค่าไฟฟ้า ค่าน้ำประปา และน้ำมัน เพื่อช่วยลดดค่าใช้จ่ายของประชาชน ในช่วงเศรษฐกิจตกต่ำ และช่วยบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายในครัวเรือน ซึ่งเป็นข้อเรียกร้องจากภาคเอกชนและประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ
การยกเว้นภาษี เสนอให้ยกเว้นภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง รวมถึงภาษีป้ายเป็นเวลา 2 ปี เพื่อช่วยบรรเทาภาระของประชาชนในกลุ่มจังหวัด ทั้งนี้ข้อมูลจากผู้ประกอบการในพื้นที่ชี้ให้เห็นว่า ภาระภาษีมีผลกระทบอย่างมากต่อผู้ประกอบการในช่วงเศรษฐกิจได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติ
นายจุลนิตย์ วังวิวัฒน์ ประธานกรรมการหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า หอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ ได้จัดทำข้อเสนอเกี่ยวกับการขับเคลื่อนการพัฒนาจังหวัดเชียงใหม่ และกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน เพื่อเสนอให้รัฐบาลจะแยกเป็น 2 ส่วนหลัก นั่นคือ มาตรการเร่งด่วน เน้นไปที่มาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วมในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งที่ผ่านมามีแนวทางการช่วยเหลือผ่านการลดเงินสมทบกองทุนประกันสังคมไปแล้ว และภาคเอกชนจะเสนอให้รัฐบาลพิจารณาเร่งรัดมาตรการพักชำระหนี้ให้กับผู้ประกอบการ
โดยผู้ประกอบการในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ส่วนใหญ่เป็นเอสเอ็มอี และไมโครเอสเอ็มอี ค่อนข้างจะได้รับผลกระทบมากในช่วงที่เกิดน้ำท่วม ทำให้มีความสามารถในการชำระหนี้ลดลง เพื่อจะมีเงินไปฟื้นฟูกิจการ รวมทั้งผู้ประกอบการเองก็ยังไม่อยากผิดนัดชำระหนี้กับธนาคาร จึงอยากให้มีมาตรการทางการเงินมาช่วยเหลือเป็นระยะสั้น เช่น พักชำระหนี้เงินต้น หรือลดดอกเบี้ย 6 เดือนถึง 1 ปี จึงเป็นมาตรการที่จะช่วยได้ รวมถึงการช่วยเหลือหรือลดค่าใช้จ่ายด้านสาธารณูปโภค เช่น ค่าไฟฟ้า ซึ่งเป็นต้นทุนที่สูงสำหรับผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมในช่วงที่ผ่านมา
ส่วนมาตรการระยะยาวนั้น ภาคเอกชนยังเสนอให้รัฐบาลเร่งขับเคลื่อนโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญในพื้นที่ ซึ่งที่ผ่านมายังไม่ได้รับการผลักดันออกมาสำเร็จ ทั้ง โครงการรถไฟฟ้ารางเบา (Tram) การก่อสร้างสนามบินล้านนา ซึ่งเป็นสนามบินนานาชาติแห่งที่สองของเชียงใหม่ รวมทั้งการพัฒนาระบบขนส่งมวลชนในพื้นที่ด้วย