“อนุกมธ.อุตสาหกรรมปัญญาประดิษฐ์” เสนอ “รัฐ-อปท.” ใช้ AI จัดการภัยพิบัติเพื่อความแม่นยำ โดยเฉพาะ “น้ำท่วม-ฝุ่น PM2.5” หวังลดความสูญเสียทั้งชีวิต-มูลค่าทางเศรษฐกิจ
วันที่ 29 พ.ย.เวลา 13.30 น.ที่รัฐสภา นายประสิทธิ์ ปัทมผดุงศักดิ์ สส.ปทุมธานี พรรคประชาชน ในฐานะประธานอนุกรรมาธิการ(กมธ.)ศึกษาแนวทางการสร้างอุตสาหกรรมปัญญาประดิษฐ์เพื่อการ พัฒนาเศรษฐกิจ ในกมธ.พัฒนาเศรษฐกิจ สภาผู้แทนราษฎร แถลงว่า ขอเสนอให้องค์กรให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น(อปท.)และรัฐบาล นำ AI มาใช้ป้องกันและแก้ปัญหาน้ำท่วม รวมทั้งใช้ AI เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในองค์กรและพัฒนาเศรษฐกิจ หลังเชิญหลายหน่วยงานภาครัฐ เอกชน2 บริษัทที่ติดตั้งระบบ AI มาชี้แจงความสำเร็จและปัญหาอุปสรรค โดยเฉพาะระบบการบริหารจัดการภัยพิบัติที่เพิ่งเกิดขึ้นที่ภาคเหนือ และภาคใต้ ด้วยคณะอนุกรรมาธิการ ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ ซึ่งต่างประเทศได้นำมาใช้พัฒนาเมือง เป็น Smart City ที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการให้บริการประชาชน การป้องกันอาชญากร การป้องกันน้ำท่วม การบริหาร จัดการจราจร การให้บริการรถโดยสารสาธารณะ เป็นต้น ทั้งนี้ ในประเทศไทยเอง มีหลายองค์กรปกครองที่นำ AI มาใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น กทม. ที่มีการใช้ AI กับระบบทราฟฟี่ฟองดูว์ (Taffy Fondue) ระบบวัดระดับน้ำ ระบบตรวจจับรถทำผิดกฎจราจรระบบการสอนภาษาให้นักเรียน ส่วนเทศบาลนครขอนแก่นก็มีการใช้ AI เพิ่มประสิทธิภาพให้เป็นเมืองอัจฉริยะ
“ประเทศไทยเจอปัญหาน้ำท่วมทั้งภาคเหนือและภาคใต้ เกิดความสูญเสียทางเศรษฐกิจหลายหมื่นล้าน ซึ่งตอนนี้เทศบาลนครยะลาได้ติดตั้งระบบ AI บริหารจัดการน้ำท่วมมา 1 ปีแล้วเพื่อเก็บข้อมูลใช้ประกอบการตัดสินใจ ทำให้เทศบาลมีข้อมูล น้ำท่วม ผู้ป่วยติดเตียง มีการติดตั้งเครื่องมือวัดระดับน้ำในเทศบาลรอบนอก เพื่อให้ทราบระดับน้ำแบบเรียลไทม์ ว่าน้ำถึงไหน จะไปที่ไหน มีระบบจำลอง Simulation ว่าหากเบี่ยงทางน้ำแบบนี้ น้ำจะไปที่ไหน และมีข้อมูลตัดสินใจว่าจะใช้เรือกี่ลำในการเข้าไปช่วยในแต่ละพื้นที่อย่างไร ประธานชุมชนรู้ว่าน้ำจะสูงแค่ไหนควรแจ้งเตือนภัยเมื่อไร ควรประกาศอพยพเมื่อไร ระบบบริหารน้ำท่วมยิ่งใช้นานยิ่งมีข้อมูลมากขึ้น และวิเคราะห์ได้แม่นยำขึ้น” นายประสิทธิ์ กล่าว
นายประสิทธิ์ กล่าวว่า นอกจากนี้การเชิญองค์การบริหารส่วนจังหวัด(อบจ.)ในเขตปริมณฑลทั้ง 3 จังหวัด มาเพื่อประชุมหารือแนวทาง ความเป็นไปได้ในการนำ AI มาช่วยในด้านอื่นๆ ด้วย เพื่อให้บริการประชาชน เพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารงาน ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ และสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจให้ประชาชน ข้อมูลการใช้จ่ายในพื้นที่เพื่อให้นักลงทุนตัดสินใจ ซึ่งพบปัญหา คือ เทคโนโลยี AI เป็นเรื่องใหม่ แต่งบลงทุนสูง ทำให้ไม่แน่ใจว่าจะสามารถนำมาใช้งานได้จริงและคุ้มค่าหรือไม่
” อนุกมธ.ฯ จึงมีข้อเสนอให้จังหวัดที่มีภัยพิบัติ เช่น น้ำท่วม ฝุ่น PM อบจ.ควรนำ AI มาใช้ในการจัดการภัยพิบัติ เพื่อลดความสูญเสีย ทั้งชีวิต และมูลค่าทางเศรษฐกิจ ทั้งนี้ก่อนจัดซื้อระบบ ควรให้เอกชนนำระบบมาให้ทดลองใช้ก่อน (Proof of Concept – Poc) ว่าใช้งานได้จริงก่อนที่จะตัดสินใจนำมาใช้งานจริง ซึ่งเป็นแนวทางที่กรุงเทพฯใช้อยู่ ขณะที่ อปท.ใดที่นำ AI มาใช้แล้วประสบความสำเร็จ ควรนำข้อมูลมาแบ่งปัน เพื่อให้องค์กรอื่นๆนำไปใช้ได้ โดยไม่ต้องลองผิดลองถูก บางระบบซื้อแล้วสามารถใช้กับหลายหน่วยงานได้ ควรร่วมกันซื้อ ไม่ซื้อแยก ส่วนภาครัฐลงทุนสร้างโครงสร้างพื้นฐานข้อมูลและดิจิทัลทุกภาคส่วน ให้บริษัท Al นำข้อมูลไปพัฒนาได้ และขอให้ทุก อปท.บูรณาการข้อมูลร่วมกันและเก็บข้อมูลเป็นส่วนกลางเพื่อประโยชน์ในการนำไปใช้”นายประสิทธิ์ กล่าว