“หมอธีระ” แนะถอดบทเรียนจากต่างประเทศ แล้วนำมาเฝ้าระวังในไทย เพื่อกันไว้ดีกว่าแก้ 3 เรื่อง “ปัญหาสุขภาพจิตใจ-การติดเชื้อในสถานพยาบาล-ปิดกิจการ” หนุนล็อคดาวน์ระยะสั้น 2-4 สัปดาห์ในกลุ่มจังหวัดที่ระบาดหนัก และเร่งหาวัคซีน mRNA เพื่อมาเป็นอาวุธต่อสู้โรคระบาด
เมื่อวันที่ 23 พ.ค.64 รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ (หมอธีระ) คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า สถานการณ์ทั่วโลก 23 พฤษภาคม 2564…ทะลุ 167 ล้านไปแล้ว ส่วนบราซิลก็มียอดติดเชื้อรวมเกิน 16 ล้าน เมื่อวานทั่วโลกติดเพิ่มถึง 557,947 คน รวมแล้วตอนนี้ 167,023,586 คน ตายเพิ่มอีก 10,379 คน ยอดตายรวม 3,467,879 คน 5 อันดับแรกที่มีจำนวนติดเชื้อต่อวันสูงสุดคือ อินเดีย บราซิล อาร์เจนตินา โคลอมเบีย และอเมริกา ประเทศแถบอเมริกาใต้ครองถึงสามอันดับ, อเมริกา เมื่อวานติดเชิ้อเพิ่ม 17,849 คน รวม 33,880,543 คน ตายเพิ่ม 453 คน ยอดเสียชีวิตรวม 603,861 คน อัตราตาย 1.8%, อินเดีย ติดเพิ่มมากถึง 243,777 คน รวม 26,528,846 คน ตายเพิ่ม 3,788 คน ยอดเสียชีวิตรวม 299,296 คน อัตราตาย 1.1%, บราซิล ติดเพิ่ม 71,283 คน รวม 16,047,439 คน ตายเพิ่มถึง 1,764 คน ยอดเสียชีวิตรวม 448,291 คน อัตราตาย 2.8%, ฝรั่งเศส ติดเพิ่ม 12,611 คน ยอดรวม 5,593,962 คน ตายเพิ่ม 89 คน ยอดเสียชีวิตรวม 108,526 คน อัตราตาย 1.9%, ตุรกี ติดเพิ่ม 8,697 คน รวม 5,178,648 คน ตายเพิ่ม 231 คน ยอดเสียชีวิตรวม 46,071 คน อัตราตาย 0.9%
อันดับ 6-10 เป็น รัสเซีย สหราชอาณาจักร อิตาลี เยอรมัน และสเปน ส่วนใหญ่ติดกันหลักพัน, แถบอเมริกาใต้ ยุโรป เอเชีย อย่างอาร์เจนติน่า โคลอมเบีย เนเธอร์แลนด์ โปแลนด์ แคนาดา รวมถึงบังคลาเทศ ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย เนปาล ญี่ปุ่น และมาเลเซีย ยังติดกันเพิ่มหลักพันถึงหลักหมื่น คาดว่าอาร์เจนติน่าจะแซงสเปนขึ้นเป็นอันดับ 10 ของโลกในไม่ช้า หวังใจว่าการประกาศล็อคดาวน์ถึงปลายเดือนนี้จะช่วยกดการระบาดของเค้าได้โดยเร็ว, แถบสแกนดิเนเวีย บอลติก และยูเรเชีย ก็มีการติดเชื้อเพิ่มอย่างต่อเนื่อง อยู่ระดับหลักร้อยถึงพันกว่า หลายประเทศกดลงมาอยู่หลักร้อย ยกเว้นคาซักสถาน ยูเครน เบลารุส จอร์เจีย ที่ยังหลักพัน, แถบตะวันออกกลาง ประเทศส่วนใหญ่ยังติดเพิ่มหลักร้อยถึงหลักพัน, เกาหลีใต้ ไต้หวัน เวียดนาม และกัมพูชา ติดเพิ่มหลักร้อย ส่วนจีน และสิงคโปร์ติดเพิ่มหลักสิบ ในขณะที่ฮ่องกง และออสเตรเลีย ติดเพิ่มต่ำกว่าสิบ
…ลองเปรียบเทียบสถานการณ์การระบาดของไทยเรากับประเทศอื่นๆ ในโลก จาก Worldometer ยอดติดเชื้อรวม เป็นอันดับที่ 90 ของโลก หากรวมยอดใหม่วันนี้ น่าจะแซงอัลจีเรียขึ้นเป็นอันดับที่ 89 ได้ แต่หากยอดใหม่ใกล้สามพัน จะแซงเอสโตเนียขึ้นเป็นอันดับที่ 88 ได้ด้วย เมื่อวานติดเชื้อเพิ่ม เป็นอันดับที่ 24 ของโลก จำนวนการเสียชีวิตเพิ่ม เป็นอันดับที่ 36 ของโลก จำนวนผู้ติดเชื้อที่ยังอยู่ในช่วงการดูแลรักษาหรือติดตาม เป็นอันดับที่ 40 ของโลก จำนวนผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงหรือวิกฤติ เป็นอันดับที่ 21 ของโลก
…หากดูบทเรียนจากต่างประเทศ ที่มีจำนวนการติดเชื้อมากต่อวัน และต่อเนื่องยาวนานหลายเดือน แล้วน่าจะต้องนำมาเฝ้าระวังในประเทศไทย กันไว้ดีกว่าแก้ คือ
หนึ่ง ภาวะ burnout และปัญหาสุขภาพทางจิตใจ ทั้งในบุคลากรทางการแพทย์ ครอบครัว รวมถึงประชาชนในสังคม
สอง การติดเชื้อในสถานพยาบาล และสถานที่อื่นๆ ที่ปรับมาใช้เพื่อให้บริการทางการแพทย์ จนทำให้ต้องปิดสถานพยาบาล
สาม ผลกระทบทางเศรษฐกิจที่ส่งผลให้เกิดการตัดสินใจปิดกิจการเล็กกลางใหญ่
สิ่งที่ควรทำเพื่อป้องกันภาวะต่างๆ ดังกล่าว หากสถานการณ์การระบาดรุนแรงต่อเนื่อง คือ…การล็อคดาวน์ระยะสั้น 2-4 สัปดาห์ สำหรับกลุ่มจังหวัดที่ระบาดหนัก โดยแจ้งข้อมูลรายละเอียดพร้อมกำหนดเวลาที่ชัดเจน และแจ้งสิ่งที่ทุกคนในพื้นที่ควรปฏิบัติเพื่อปกป้องชุมชนของตนเอง…เร่งจัดหาวัคซีน mRNA เพื่อมาเป็นอาวุธต่อสู้โรคระบาด
สำหรับประชาชน จำเป็นต้องป้องกันตัวอย่างเคร่งครัด ใส่หน้ากากสองชั้น ชั้นในเป็นหน้ากากอนามัย ชั้นนอกเป็นหน้ากากผ้า พกเจลหรือสเปรย์แอลกอฮอล์ติดตัว พบคนน้อยลง สั้นลง อยู่ห่างกันมากๆ ระวังสุขาสาธารณะ เลี่ยงการกินดื่มในร้านอาหาร โรงอาหาร ศูนย์อาหาร ซื้อกลับจะปลอดภัยกว่า กลับถึงบ้าน ไปอาบน้ำอาบท่า ก่อนจะไปคลุกคลีกับคนในบ้าน คอยสังเกตอาการตนเองและครอบครัว หากไม่สบาย ให้แยกจากสมาชิกในบ้าน แล้วรีบไปตรวจรักษา ช่วยเหลือแบ่งปันคนตกทุกข์ได้ยาก ตามกำลัง ด้วยรักและห่วงใย