“เทพไท” เหน็บ “นายกฯอุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร” ไม่มีความรู้ด้านเศรษฐศาสตร์เลย เจอสื่อถามอะไร ไม่กล้าพูด ไม่กล้าแสดงความเห็น พยายามตีกรรเชียง เบี่ยงประเด็น โยนแต่ละกระทรวงเป็นอิสระ ทำงานกันไป ปล่อยขรก.ขับเคลื่อน แต่ตัวนายกฯลอยตัว เชื่อแนวคิดขึ้นภาษี VAT มาจาก “ทักษิณ” ที่พูดเวทีหาเสียง จากนั้น “ขุนคลัง” โดดรับนโยบายทันที
เมื่อวันที่ 6 ธ.ค.67 นายเทพไท เสนพงศ์ อดีตสส.นครศรีธรรมราช แสดงความเห็นเรื่อง “ขึ้นภาษี VAT แนวคิดทักษิณ???” มีเนื้อหาว่า…“จากกรณีที่นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่กระทรวงการคลัง มีแนวคิดจะขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่มจาก 7% เป็น 10-15% ว่า เดี๋ยวนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง จะเป็นคนให้รายละเอียด และเมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ประชาชนส่วนใหญ่กังวลว่า หากขึ้นภาษีดังกล่าวจะทำให้ประชาชนเดือดร้อน นายกรัฐมนตรี กล่าวเพียงสั้นๆ ว่า “เข้าใจๆ”
ถ้าฟังการให้สัมภาษณ์ของนางสาวแพทองธารแล้ว จะเห็นได้ว่า ไม่มีความรู้พื้นฐานทางด้านเศรษฐศาสตร์เลย จึงไม่กล้าแสดงความเห็น กลัวพูดอะไรไปจะเกิดความผิดพลาด กลัวจะเป็นประเด็นให้ถูกวิจารณ์ได้ จึงพยายามที่จะโยนภาระความรับผิดชอบ และการอธิบายรายละเอียดให้กับกระทรวงต่างๆ ทั้งหมด แต่ในฐานะนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบการบริหารภาพรวมของรัฐบาลทั้งหมด กลับไม่แสดงความเห็นอะไรเลย ทั้งที่น่าจะพูดในหลักการของเรื่องนั้นๆ ได้
ข้ออ้างการขึ้นภาษีแว็กซ์จาก 7% เป็น 15% ของกระทรวงการคลัง เพื่อลดปัญหาความเหลื่อมล้ำ ก็ขอให้นางสาวแพทองธาร นำปากกามาวงได้เลยว่า ลดความเหลื่อมล้ำตรงไหนบ้าง การขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่ม ประชาชนทุกคนต้องรับภาระ ไม่ว่าคนจนหรือคนรวยที่จับจ่ายใช้สอย ก็ต้องรับภาระภาษีมูลค่าเพิ่มเท่ากัน ถ้าจะลดความเหลื่อมล้ำ ต้องยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มให้กับคนจน หรือคนมีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ผลักภาระให้คนชั้นกลางและคนรวยแบกรับภาระภาษีมูลค่าเพิ่มไป
แนวความคิดการขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่มในครั้งนี้ นายพิชัยคงไม่ได้พูดคุยกับนางสาวแพทองธารมาก่อน เพราะถ้าหากมีการคุยเรื่องนี้กัน นางสาวแพทองธารคงตอบคำถามได้บ้าง ในประเด็นหลักๆ และคงจะไม่ตอบผู้สื่อข่าวแค่คำว่า เข้าใจๆ จึงมีความเป็นไปได้ว่า แนวความคิดขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่มเป็น 15% น่าจะมาจากความคิดของนายทักษิณ ชินวัตร ซึ่งเคยพูดเรื่องการแจกเงินให้กับผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป บนเวทีหาเสียงนายกอบจ. อุดรธานีมาแล้ว หลังจากนั้นเพียง 1 วัน นายพิชัยในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ก็ขานรับทันที ดังนั้นนโยบายขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่มเป็น 15% ก็น่าจะเป็นเรื่องในทำนองเดียวกัน
ส่วนคำถามที่ผู้สื่อข่าวถามนางสาวแพทองธารว่า รัฐบาลชุดนี้จะนำนโยบายคนละครึ่ง มาปรับใช้อีกหรือไม่ นางสาวแพทองธารไม่ตอบ บ่ายเบี่ยงโยนให้เป็นความเห็นของคณะกรรมการกระตุ้นเศรษฐกิจ และในทุกประเด็นคำถามนางสาวแพทองธาร ก็อ้ำอึ้งตอบไม่ได้ พยายามตีกรรเชียง เบี่ยงเบนประเด็น ไม่ตอบคำถามเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงวุฒิภาวะและความสามารถของนางสาวแพทองธาร
ถ้าหากยังบริหารประเทศในลักษณะเช่นนี้ ให้กระทรวงต่างๆ เป็นอิสระ นายกรัฐมนตรีไม่สามารถตอบคำถามในภาพรวมของแต่ละนโยบายได้ การบริหารประเทศคงเป็นไปในลักษณะให้แต่ละกระทรวงทำงานกันไป ให้ข้าราชการประจำขับเคลื่อนนโยบาย โดยนางสาวแพทองธารลอยตัว ไม่ต้องตอบคำถามอะไร เพราะตอบอะไรไม่ได้เลย”