ผลงาน 90 วัน “รัฐบาลอิ๊งค์” แพทองธาร ชินวัตร ในสายตาโหวตเตอร์หนึ่งของประเทศไทย เชื่อมั่นว่า จับต้องไม่ได้-ผิดหวังอย่างแรง เพราะรัฐบาลชุดนี้มี พรรคเพื่อไทย เป็นแกนนำ ถือธงอำนาจต่อเนื่อง ตั้งแต่ “รัฐบาลนิด” เศรษฐา ทวีสิน ลากยาว 1 ปี 3 เดือน เปลี่ยนตัวนายกฯ แต่ “ไส้ในนโยบาย” ทั้งหมด “ขดเดิม”
“นโยบายเรือธง” แป้กหมด ทั้ง “แจกเงินหมื่นดิจิทัล วอลเล็ต-แก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่” จับต้องไม่ได้
“7 นโยบายเร่งด่วน” มาเร่งเครื่องเทกระจาดตาม มติครม. 11 ธ.ค.67 ก่อนดีเดย์แถลงใหญ่ผลงานรัฐบาล แค่งานรูทีนและเปิดพิมพ์เขียว “2568 โอกาสไทย ทำได้จริง”
ของจริงอีก 2 นโยบายเร่งด่วนที่พลิกโฉมหน้าประเทศไทยได้จริงคือ “นโยบายดิจิทัล วอลเล็ต” โดย นายกฯอิ๊งค์ ย้ำหนักแน่นกลางที่ประชุมรัฐสภาในวันแถลงนโยบาย ผลักดันโปรเจกต์นี้ เพื่อวางรากฐานเศรษฐกิจดิจิทัล-พัฒนาศูนย์ข้อมูลภาครัฐตอบสนองประชาชน แต่หน่วยงานที่รับผิดชอบยังวนอยู่ในอ่าง หาทางขึ้นไม่เจอ
อีกหนึ่งนโยบายเร่งด่วนคือ รัฐบาลเน้นสร้างรายได้ใหม่เข้ารัฐ โดยนำเศรษฐกิจนอกระบบภาษี-เศรษฐกิจใต้ดินเข้าสู่ระบบภาษี คาดมีมูลค่าสูงกว่าร้อยละ 50 เมื่อเทียบกับจีดีพีทั้งประเทศ เศรษฐกิจนอกระบบไทยใหญ่ติดเบอร์ต้นๆ ของโลก ติดอันดับ 4 ของเอเชีย
หน่วยจัดเก็บภาษี “กรมศุลกากร-กรมสรรพสามิต-กรมสรรพากร” และ “หน่วยงานอื่น” จัดเก็บรายได้แค่ 2.38 กว่าล้านล้านบาท ซึ่งกรมสรรพากรเก็บได้สูงสุดกว่า 1.6 ล้านล้านบาท จากภาษีบุคคลธรรมดา-ภาษีนิติบุคคล-ภาษีเงินได้ปิโตรเลียม-ภาษีมูลค่าเพิ่ม–ภาษีธุรกิจเฉพาะ-ภาษีแสตมป์ แต่ปรากฏว่า ปีงบประมาณ 2566 และ2567 เก็บภาษีมรดกไม่ได้สักสตางค์
หากแยกภาษีสัดส่วนที่กรมสรรพากรเก็บได้ตามลำดับ “ภาษีมูลค่าเพิ่ม-ภาษีนิติบุคคล-ภาษีบุคคลธรรมดา” ซึ่ง “มนุษย์เงินเดือน” มีแค่ 4 ล้านคนรายได้เกินเกณฑ์จ่ายภาษีในส่วนนี้
โครงสร้างภาษีของประเทศไทยบิดเบี้ยวมานาน หน่วยงานจัดเก็บทำได้เพียงตั้งเป้า แต่ละปีต้องเก็บภาษีให้ได้ตามธง ยามเศรษฐกิจแย่ เก็บพลาดเป้าตลอด รัฐบาลจำเป็นตั้งประมาณรายจ่ายประจำปีขาดดุลติดต่อมาหลายปี โดยไม่มีท่าทีเห็นฝั่งทะเลตั้งงบสมดุลได้
รัฐบาลเร่งผลักดันนโยบายเร่งด่วนอีกหลายด้าน ล้วนใช้งบประมาณสำหรับลด-แลก-แจก-แถม ใกล้ถังแตกเต็มที
เป็นที่มาของ “ขุนคลัง” พิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯ และรมว.คลัง เล่นใหญ่ ศึกษาปรับโครงสร้างภาษีเพื่อสนับสนุนจัดเก็บรายได้ของรัฐบาลตามสูตร 15-15-15 เก็บภาษีนิติบุคคล-บุคคลธรรมดา-ภาษีมูลค่าเพิ่ม
ระดับ “ขุนคลัง” ไม่กล้าแตะ “ภาษีมรดก-ภาษีที่ดิน-ภาษีนอกระบบ-ภาษีใต้ดิน” โดนหยิบขึ้นมาศึกษาหามาตรการจัดเก็บเข้ารัฐ
โดยเฉพาะ “ภาษีนอกระบบ-ภาษีใต้ดิน” ซึ่งเชื่อมโยงไปถึงรัฐจัดเก็บภาษีเข้าคลังได้น้อย รัฐบาลรู้ดี “นายกฯอิ๊งค์” ถึงมั่นใจประกาศนำเศรษฐกิจนอกระบบภาษี-เศรษฐกิจใต้ดินเข้าสู่ระบบภาษี
วันนี้ “รัฐบาลเพื่อไทย” ถ้าขึ้นชื่อเชี่ยวชาญด้านฟื้นฟูเศรษฐกิจจริง ทำแค่ปรับโครงสร้างภาษีทั้งหมด ลดความเหลื่อมล้ำ ดูดเม็ดเงินเข้าคลัง ดึงภาษีนอกระบบ ภาษีใต้ดินเข้าคลัง
พร้อมเข็นนโยบายดิจิทัล วอลเล็ต เพื่อวางรากฐานเศรษฐกิจดิจิทัล โดยใช้ Decentalized Infrastructure เป็นหัวใจของโลกเศรษฐกิจดิจิทัลสำเร็จ (โปรเจกต์นี้ยังลูกผีลูกคน “ประเสริฐ จันทรรวงทอง” รองนายกฯ รมว.ดีอี ยังกล้าหาญเปิดตัวเลขดิจิทัล จีดีพีหรือเศรษฐกิจดิจิทัลปี 67)
รับรองปั้มจีดีพีของประเทศกระฉูด กระแสความนิยมพุ่ง แต่หากทำไม่สำเร็จ เลือกตั้งครั้งต่อไปสะบักสะบอม
………………………
คอลัมน์ : ไขกุญแจ-ไขแหลก
โดย #ราษฎรเต็มขั้น