“ไพศาล” เผยทีเด็ด “ชาญชัย” จ่อยื่นคำร้องครั้งที่ 3 ให้ไต่สวนอีกครั้งกรณี “นักโทษทิพย์” ชั้น 14 รพ.ตร. งัดคำพิพากษาศาลฎีกาที่เคยตัดสินเป็นบรรทัดฐานชัดเจนว่า เมื่อศาลออกหมายขัง ตามคำพิพากษาจำคุกแล้ว การจะนำตัวนักโทษ ออกจากเรือนจำนั้น จะต้องขออนุญาตจากศาลก่อน พร้อมปูดมีกลิ่น “ถุงขนม” ว่อนอีกแล้ว
เมื่อวันที่ 12 ธ.ค.67 นายไพศาล พืชมงคล นักกฎหมาย แสดงความเห็นหัวข้อ “พบแล้ว!!!” มีเนื้อหาว่า…“ชาญชัย อิสระเสนารักษ์ อดีตสส.พรรคประชาธิปัตย์หลายสมัย เตรียมยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เป็นครั้งที่ 3 ขอให้ทำการไต่สวน ว่าการนำตัว “นักโทษทิพย์” ออกจากเรือนจำไปยังโรงพยาบาลตำรวจ เป็นการกระทำผิดกฎหมาย เพราะไม่ได้ขออนุญาตจากศาล ขอให้ศาลทำการไต่สวนและออกหมายจับ กลับเข้าคุก เพื่อลงโทษตามคำพิพากษาที่เหลือ และตามพระบรมราชโองการอภัยโทษ อีก 1 ปี
ทั้งนี้หลังจากได้พบบรรทัดฐานคำตัดสินของศาลฎีกา ซึ่งได้ตัดสินไว้เป็นบรรทัดฐานแล้วว่า เมื่อศาลออกหมายขัง ตามคำพิพากษาจำคุกแล้ว การจะนำตัวนักโทษ ออกจากเรือนจำนั้น จะต้องขออนุญาตจากศาลก่อน ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 246
เมื่อไม่ขออนุญาต ศาลมีอำนาจทำการไต่สวน แล้วออกหมายจับนักโทษมาขังไว้ ตามคำพิพากษาที่เหลือได้ ซึ่งคาดว่าจะยื่นคำร้องขอให้ศาลไต่สวนได้ในเร็วๆ นี้ แต่ในขณะเดียวกัน นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ ก็ได้กล่าวว่า ขณะนี้มีกลิ่นถุงขนมว่อนอยู่อีกแล้ว แต่ตัวเองมั่นใจว่า ศาลทรงไว้ซึ่งความศักดิ์สิทธิ์และความยุติธรรม และเป็นที่พึ่งแหล่งสุดท้ายได้อย่างแท้จริง”
สำหรับ คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1092/2482 ตอนหนึ่งระบุไว้ชัดเจนว่า “อำนาจการให้ทุเลาบังคับคดีตามประมวลวิธีพิจารณาอาญามาตรา 246 นั้น ศาลมีอำนาจสั่งให้ทุเลาการบังคับได้ ไม่ว่าก่อนหรือหลัง จากที่ได้สั่งให้บังคับคดีไปแล้ว อำนาจศาลสั่งให้ทุเลาการบังคับคดีได้ตามประมาวลวิธีพิจารณาอาญา ม.246 หาได้ก้าวก่ายลบล้างกันกับอำนาจของอธิบดีราชทัณฑ์ 2479 นั้นไม่ โดยเป็นคนละส่วนต่างหากจากกัน”