นายกฯสั่งเตรียมพร้อมช่วยเหลือประชาชนประสบภัยน้ำท่วม ทั้งเรื่องปัญหาน้ำและไฟคาดไม่เกิน20 ธ.ค.น้ำน่าจะแห้งหมด
เวลา13.20 น. วันที่ 17 ธ.ค.น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายปิฎก สุขสวัสดิ์ คู่สมรสนายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ เดินทางถึงท่าอากาศยานนานาชาตินครศรีธรรมราช ต.ปากพูน อ.เมืองนครศรีธรรมราช จ.นครศรีธรรมราช ก่อนนายกฯออกเดินทางด้วยรถยนต์โตโยต้าอัลพาร์ด สีดำ ทะเบียน กอ 5817 นครศรีธรรมราช ไปยังศาลากลางจังหวัดนครศรีธรรมราช อ.เมืองนครศรีธรรมราช จ.นครศรีธรรมราช
ต่อมาเวลา 14.00 น. ที่ศาลากลางจังหวัดนครศรีธรรมราช อ.เมืองนครศรีธรรมราช จ.นครศรีธรรมราช นายกฯ เป็นประธานการประชุมติดตามสถานการณ์อุทกภัยและสั่งการช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่ภาคใต้ ร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี จังหวัดชุมพร จังหวัดพัทลุง และจังหวัดนราธิวาส เข้าร่วมประชุมผ่านระบบออนไลน์ เนื่องจากต้องอยู่ดูแลพื้นที่
โดยนายกฯกล่าวว่า วันนี้ดีใจมากที่มีโอกาสได้มาที่จังหวัดนครศรีธรรมราช และทราบว่าผู้ว่าทุกจังหวัดจะต้องอยู่ในพื้นที่ของตัวเอง ซึ่งถือเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องดูแลพื้นที่ให้ดีที่ผ่านมารัฐบาลได้ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมอย่างใกล้ชิดและได้รับรายงานโดยตรงจากหน่วยงานที่รับผิดชอบทุกหน่วย เพราะฉะนั้นถือว่าเหตุการณ์น้ำท่วมภาคใต้ทุกคนสามารถจัดการได้อย่างรวดเร็วมากๆรัฐบาลได้ลงพื้นที่ทันทีตอนที่เกิดน้ำท่วมในช่วงแรกถือว่าเป็นความช่วยเหลือที่เข้าถึงประชาชนได้อย่าง รวดเร็ว และได้รับรายงานอีกประมาณไม่เกินวันที่ 20 ธ.ค. น้ำน่าจะแห้งทั้งหมด เพราะวันนี้มีฝนตกแค่ในช่วงเช้า
ทั้งนี้ รัฐบาลให้ความสำคัญกับชีวิตของประชาชนเป็นสิ่งแรก ที่เราจะต้องรักษาและดูแลเรื่องนี้ให้ดี รวมถึงปัจจัย 4 อาหาร ยารักษา รองนายกฯจัดการทั้งหมด ต้องขอขอบคุณทุกภาคส่วนและทุกหน่วยงานที่ลงดูแลประชาชนอย่างเต็มที่ ขอให้กำลังใจทุกคนเหตุการณ์ใกล้จะผ่านไปแล้วและการเยียวยาถึงมือพี่น้องประชาชนแล้ว 80 กว่าเปอร์เซ็นต์ ถือว่าเร็วและดีมากๆกว่าตอนที่เราอนุมัติงบเยียวยาในภาคเหนือ ที่ขณะนี้เยียวยาไปได้แล้ว 99 เปอร์เซ็นต์ เหลืออีก 1 เปอร์เซ็นต์ที่ยังต้องยืนยันตัวตน
จากนั้นนายอนุทิน กล่าวว่า ตั้งแต่มีสถานการณ์น้ำท่วม ที่ภาคเหนือ จนถึงภาคใต้ ได้รับการสนับสนุนอย่างดีจากนายกฯโดยเฉพาะการช่วยเหลือประชาชนในการคลายทุกข์บรรเทาทุกข์ โดยนายกฯ ได้อนุมัติงบประมาณฉุกเฉินในการช่วยเหลือประชาชนด้วยความรวดเร็ว และลงไปในพื้นที่ ถือเป็นขวัญและกำลังใจให้กับผู้ปฏิบัติงาน และการที่ได้ลงพื้นที่ประชาชนอดทนและเข้าใจ รวมถึงซาบซึ้งที่รัฐบาลได้เร่งจัดการแก้ไข นายกฯได้เทคแอ็คชั่น ไม่ได้ชะลอเรื่องการช่วยเหลือประชาชน โดยได้ติดตามสถานการณ์ระหว่างเยือนมาเลเซีย ตนในฐานะผู้บัญชาการสถานการณ์ขอขอบคุณนายกฯ
จากนั้นนายกฯ กล่าวสั่งการว่า เข้าใจประชาชนเวลาที่ต้องรอมันยาวนาน รัฐบาลจึงเร่ง และนี่เป็นสิ่งที่อย่างน้อยรัฐบาลได้ช่วยสนับสนุน เพราะเมื่อเกิดสถานการณ์แล้วได้มีการอนุมัติงบลงไปก็เกิดความอุ่นใจและไม่ต้องไปรอลุ้นว่าเมื่อได้รับผลกระทบแล้วจะได้รับเงินเยียวยาเท่าไหร่ แต่ทั้งนี้ก็ต้องผ่านความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่งก็ต้องขอขอบคุณ ครม. ด้วย และขอบคุณทุกภาคส่วนไม่ว่าจะเป็นข้าราชการ ทหาร ตำรวจ มูลนิธิ จิตอาสา ต่างๆ เพราะเวลาเกิดสถานการณ์น้ำท่วมไม่ว่าที่ไหนก็ตาม เมื่อเราระดมความช่วยเหลือจะสามารถลดทอนสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็ว และได้เห็นน้ำใจของคนไทยยามยาก
ขอเน้นย้ำว่าชีวิตของประชาชนเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุดไม่ว่าจะเป็นเรื่องของอาหารยา สถานที่พักพิง หรือศูนย์พักพิงขอให้ดูแลประชาชนอย่างเต็มที่ ให้รู้สึกสบายกายและสบายใจ เพราะการที่เขาย้ายออกมาจากบ้านตัวเอง ก็มีความลำบากอยู่แล้ว จึงขอให้ทุกหน่วยงานช่วยกันดูแลเรื่องนี้อย่างดีที่สุดทเมื่อเหตุการณ์บรรเทาลงแล้วก็จะได้กลับบ้าน และมีแรงในการซ่อมแซมบ้าน หากติดขัดรองนายกฯอยู่หน้างานสามารถประสานงานกับทุกภาคส่วนในพื้นที่ได้หากขาดเหลืออะไร ก็ขอให้บอกมา
นายกฯ กล่าวต่อว่า ส่วนพื้นที่เสี่ยงภัย การแจ้งเตือนภัยขอให้ชัดเจน และทั่วถึง โดยเฉพาะสถานที่ท่องเที่ยวทั้งจังหวัดสุราษฎร์ธานี สงขลา ตรัง สตูล และยะลาเรื่องการแจ้งเตือนขอให้ทั่วถึงชัดเจน และอย่างที่คาดการณ์กันไว้ว่าในวันที่ 20 ธ.ค.นี้ สถานการณ์จะดีขึ้น ก็ขอให้ระดมความช่วยเหลือทั้งน้ำและไฟ ขอให้กลับมาโดยเร็วที่สุด อะไรที่สามารถทำล่วงหน้าได้ก็ให้ทำเผื่อไว้ เมื่อน้ำไปแล้วทุกอย่างจะได้กลับมาเป็นปกติโดยเร็ว ขอให้วิกฤตนี้ผ่านไปโดยเร็วที่สุด.