วันอาทิตย์, ธันวาคม 22, 2024
หน้าแรกCOLUMNISTS“กลาโหม”ปรับลดกำลังพลเล็กกะทัดรัด ตอบสนองต่อภัยคุกคาม
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

“กลาโหม”ปรับลดกำลังพลเล็กกะทัดรัด ตอบสนองต่อภัยคุกคาม


“……การปรับลดกำลังพลของทหารประจำการ ไม่กระทบกับประสิทธิภาพของกระทรวงกลาโหม สำหรับการปรับปรุงโครงสร้างการจัดกองทัพ อัตรากาลังพล ยุทโธปกรณ์ให้มีขนาดกะทัดรัด และสมบูรณ์ในตัวเอง สามารถตอบสนองต่อภัยคุกคามได้อย่างมีประสิทธิภาพ…”

@@@…….สวัสดีท่านผู้อ่านทุกท่าน พบกันทุกวันเสาร์กับคอลัมน์ “Military Key” ทางเว็บไซต์ https:// thekey.news ซึ่งตรงกับวันเสาร์ที่ 21 ธ.ค..67 นับจากนี้ไปสถานการณ์การเมืองคงจะร้อนระอุขึ้นเรื่อย ๆ แต่กองทัพยังปฏิบัติภารกิจต่อไป ขนาดยอมทุกอย่างยังจะถูกควบคุม ป้องกันไม่ให้เกิด “รัฐประหาร” เพราะ “รัฐประหาร” กลายเป็นอดีตที่ตามมาหลอกหลอนอยู่จนถึงทุกวันนี้ 

@@@…….ให้การต้อนรับ….นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม พร้อมด้วย พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม พล.อ.สนิธชนก สังขจันทร์ ปลัดกระทรวงกลาโหม ให้การต้อนรับนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการทหาร สภาผู้แทนราษฎร และคณะฯ ในโอกาสเข้าเยี่ยมคารวะ หารือข้อราชการ เกี่ยวกับการดำเนินการของกระทรวงกลาโหมกับคณะกรรมาธิการการทหาร สภาผู้แทนราษฎร รวมถึงการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับนโยบายที่สำคัญของกระทรวงกลาโหม  ณ ห้องยุทธนาธิการ ศาลาว่าการกลาโหม กระทรวงกลาโหม

@@@……โดยสำนักนโยบายและแผนกลาโหม ได้แนะนำภารกิจของหน่วยและบรรยายสรุปเกี่ยวกับการดำเนินงานที่สำคัญ ประกอบด้วย ความคืบหน้าการปฏิรูปโครงสร้างกองทัพและกำลังพล ของส่วนราชการกระทรวงกลาโหม โดยเฉพาะการปรับลดกำลังพลของทหารประจำการ และการปรับลดทหารกองประจำการ โดยไม่กระทบกับประสิทธิภาพของกระทรวงกลาโหม สำหรับการปรับปรุงโครงสร้างการจัดกองทัพ อัตรากำลังพล ยุทโธปกรณ์ให้มีขนาดกะทัดรัด และสมบูรณ์ในตัวเอง สามารถตอบสนองต่อภัยคุกคามได้อย่างมีประสิทธิภาพ ประกอบด้วย การปิดอัตรา การควบรวมหน่วยที่มีภารกิจซ้ำซ้อน รวมถึงการยุบหน่วยที่หมดความจำเป็น ควบคู่กับมีการจัดทำโครงสร้างการจัดและอัตราข้าราชการพลเรือนกลาโหม เพื่อบรรจุในหน่วยงานประเภทธุรการ หรือในตำแหน่งที่ไม่จำเป็นต้องใช้ทหารในการปฏิบัติงาน เช่น ด้านการแพทย์ กฎหมาย ครู หรือบัญชี และจะขยายผลไปยังหน่วยขึ้นตรงกระทรวงกลาโหมและเหล่าทัพต่อไป 

@@@……สำหรับการปรับลดกำลังพลทหารประจำการ และการปรับลดทหารกองประจำการ โดยไม่กระทบกับประสิทธิภาพของกระทรวงกลาโหม ด้วยการตรึงยอดกำลังพลไม่เพิ่มขึ้นจากยอดบรรจุ อาทิ การปรับลดนายทหารชั้นนายพล และนายทหารปฏิบัติการ ร้อยละ 50 ระหว่างปีงบประมาณ พ.ศ.2552 – 2571 ตลอดจนการปรับลดกำลังพล (นายทหารสัญญาบัตร, นายทหารประทวน และพลอาสาสมัคร) ร้อยละ 5 ให้เสร็จสิ้นภายในเดือน ก.ย. 2570 พร้อมทั้งมีแนวทางในการบรรจุทหารอาสาปฏิบัติหน้าที่ทดแทนข้าราชการทหารประจำการ รวมถึงการควบคุมยอดการผลิตกำลังพลจากสถานศึกษาในสังกัดกระทรวงกลาโหม และการขับเคลื่อนโครงการเกษียณอายุราชการก่อนกำหนด 

@@@……ส่วนการปฏิรูปยุทโธปกรณ์ของกองทัพเพื่อพัฒนาศักยภาพ ขีดความสามารถ และเสริมสร้างหน่วยให้มีความสมบูรณ์และพร้อมรบ สอดรับตามแผนพัฒนาขีดความสามารถกระทรวงกลาโหมระยะที่ 2 (พ.ศ. 2566-2570) โดยมีการกำหนดความต้องการออกเป็น 3 กลุ่ม คือ กลุ่มดำรงสภาพความพร้อมรบ เพื่อให้กองทัพมีความพร้อมรบ กลุ่มขยายขีดความสามารถ เพื่อพัฒนาสิ่งอุปกรณ์ที่มีอยู่ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น กลุ่มเสริมสร้างความทันสมัย เพื่อให้มีสิ่งอุปกรณ์ที่ทันสมัยสอดคล้องกับความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี  โดยกระทรวงกลาโหม ได้มีแผนการพัฒนา อาทิ การพัฒนาด้านอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ ยกระดับสู่กองทัพอิเล็กทรอนิกส์ การปรับปรุงโครงสร้างให้มีความกะทัดรัด พัฒนาขีดความสามารถทั้งผิวน้ำ ใต้น้ำ และอากาศ ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีป้องกันประเทศ การเพิ่มศักยภาพในการพัฒนาประเทศ และการสนับสนุนการบรรเทาสาธารณภัย เป็นต้น เพื่อรองรับภัยความมั่นคงและให้การช่วยเหลือประชาชนเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ อาทิ โครงการจัดทำระบบดาวเทียมถ่ายภาพเพื่อความมั่นคง การพัฒนาปรับปรุงปืนใหญ่ฯ การจัดหายุทโธปกรณ์บรรเทาสาธารณภัย เป็นต้น

@@@……การถือครองที่ดินของกองทัพให้แก่รัฐบาลเพื่อจัดสรรเป็นที่ดินทำกินให้กับประชาชนหรือทำประโยชน์ต่อสาธารณะ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษา 6 รอบ 72 พรรษา กระทรวงกลาโหมได้จัดโครงการเฉลิมพระเกียรติฯ โดยมีเป้าหมาย มอบที่ดิน 72,000 ไร่ ซึ่งเป็นการต่อยอดนโยบายในการนำที่ดินที่ยังไม่ได้ใช้ประโยชน์ไปใช้ในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนด้านที่อยู่อาศัย การประกอบอาชีพ ปัจจุบันกองบัญชาการกองทัพไทย และเหล่าทัพ ได้ร่วมกับกรมธนารักษ์มอบที่ดินในระยะที่ 1 ให้ประชาชนเข้าใช้ประโยชน์ไปแล้ว 4 พื้นที่ ได้แก่ 1) พื้นที่อำเภอหนองวัวซอ จังหวัดอุดรธานี 2) พื้นที่อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี 3) พื้นที่ป้อมพระจุลจอมเกล้า อำเภอพระสมุทรเจดีย์ จังหวัดสมุทรปราการ และ 4) พื้นที่สนามบินนครพนม จังหวัดนครพนม สำหรับการมอบที่ดินในระยะที่ 2 เหล่าทัพจะทยอยมอบให้กับประชาชนใช้ประโยชน์ในโอกาสต่อไป 

@@@……กองทัพบก….พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก ร่วมกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และจังหวัดสมุทรปราการ เปิดโครงการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เนื่องในวันดินโลก ซึ่งตรงกับวันที่ 5 ธันวาคม ของทุกปี และเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ณ ศูนย์ศึกษาธรรมชาติกองทัพบก (บางปู) เฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา มหาราชินี จังหวัดสมุทรปราการ โดยเมื่อวันที่ 6 ธ.ค. 2567 ที่ผ่านมา คณะกรรมการอาเซียนว่าด้วยความหลากหลายทางชีวภาพ ได้มีการประกาศรับรองให้ศูนย์ศึกษาธรรมชาติกองทัพบก (บางปู) เฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษามหาราชินี จังหวัดสมุทรปราการ ขึ้นทะเบียนเป็นอุทยานมรดกแห่งอาเซียน ในลำดับที่ 63 ของอาเซียนและ เป็นลำดับที่ 10 ของประเทศไทย อีกทั้งพื้นที่แห่งนี้ยังจะได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นพื้นที่ชุ่มน้ำที่มีความสำคัญระหว่างประเทศภายใต้อนุสัญญาว่าด้วยพื้นที่ชุ่มน้ำ และเป็นเครือข่ายพื้นที่สำหรับนกน้ำอพยพในเส้นทางการบินสายเอเชียตะวันออก – ออสเตรเลีย

@@@……การจัดกิจกรรมในครั้งนี้เป็นการระดมกำลังจากทุกภาคส่วนภายใต้การนำของกองทัพบกและกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อแสดงถึงเจตนารมณ์ที่จะร่วมใจกันอนุรักษ์และตระหนักถึงคุณค่าความสำคัญของพื้นที่ชุ่มน้ำทั่วประเทศ ตลอดจนยกระดับความสำคัญของศูนย์ศึกษาธรรมชาติกองทัพบก (บางปู) เฉลิมพระ เกียรติ 72 พรรษา มหาราชินี ซึ่งจะมีการผลักดันพื้นที่แห่งนี้ให้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำที่มีความสำคัญในระดับนานาชาติ เพื่อเป็นพื้นที่ตัวอย่างด้านการอนุรักษ์ระบบนิเวศของพื้นที่ชุ่มน้ำแบบบูรณาการ ส่งเสริมการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน

@@@……พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และคณะ เดินทางไปราชการ ณ สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม เพื่อเข้าร่วมงานนิทรรศการแสดงยุทโธปกรณ์ Vietnam International Defence Expo 2024 ณ กรุงฮานอย ตามคำเชิญของ พล.อ. Nguyen Tan Cuong ประธานเสนาธิการทหาร กองทัพประชาชนเวียดนาม ซึ่งผู้บัญชาการทหารสูงสุดได้เข้าร่วมพิธีเปิดงานนิทรรศการฯ และเยี่ยมชมบูธต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบูธที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีทางไซเบอร์ อากาศยานไร้นักบิน (Unmanned Aerial Vehicle) ระบบต่อต้านอากาศยานไร้นักบิน (Anti UAV) และระบบขีปนาวุธต่างๆ เพื่อนำมาใช้ประโยชน์ในการพัฒนาขีดความสามารถกองทัพและการพัฒนาอุตสาหกรรมป้องกันประเทศของไทย การเดินทางเข้าร่วมนิทรรศการแสดงยุทโธปกรณ์ ณ สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามในครั้งนี้ นับเป็นโอกาสอันดีในการเสริมสร้างความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างกองทัพไทยกับกองทัพเวียดนาม รวมถึงกองทัพมิตรประเทศ ตลอดจนเป็นประโยชน์ในด้านการเสริมสร้างขีดความสามารถของกองทัพ และสนับสนุนงานด้านอุตสาหกรรมป้องกันประเทศตามนโยบายของรัฐบาล

…………………..

คอลัมน์  : “Military Key”

โดย.. “รหัสมอร์ส”

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img