“อนุทิน”ปัดตีกอล์ฟ ‘ทักษิณ’ เคลียร์ปมขัดแย้ง ยัน “การกระทำ สำคัญกว่าคำพูด” ย้ำ ‘อีแอบ’ ไม่ได้หมายถึงตัวเอง-ภูมิใจไทยชัดเจน เพราะข้อเท็จจริงเข้าประชุมครม. ไม่ติดใจแคมเปญ “ 180 วัน พท.หนุนแก้ รธน.“ ชี้ เห็นต่างปมประชามติเป็นเรื่องธรรมดา แต่ต้องเกิดประโยชน์ต่อประเทศและประชาชน
วันที่ 23 ธ.ค.67 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณีการออกรอบตีกอล์ฟกับ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่สนามกอล์ฟชื่อดังใน จ.ปทุมธานีเมื่อวันที่ 22 ธ.ค. มีการเคลียร์ใจกันหรือไม่ หลังมีกระแสข่าวว่าพรรคภูมิใจไทยและพรรคเพื่อไทยมีความระหองระแหงกันว่า “เปล่าครับ ไม่มีอะไรครับ ปีนึงก๊วนก็นัดกันครั้งสองครั้ง และไม่มีการพูดคุยสถานการณ์การเมืองกับนายทักษิณ ดูแต่วง ช่วยกันจับ และคุยกันเรื่องในอดีต และสิ่งที่ต้องการจะเห็น“
เมื่อถามว่าเรื่องที่ต้องการจะเห็นหมายถึงเรื่องอะไร นายอนุทิน กล่าวว่า เรื่องเศรษฐกิจ ปากท้องประชาชน ความร่วมมือจะทำให้เป็นรูปธรรม สำเร็จด้วยความรวดเร็ว ซึ่งเราปฏิบัติต่อกันมาด้วยดีมาด้วยตลอด
เมื่อถามว่าได้สอบถามนายทักษิณ ประเด็น ‘อีแอบ’ หมายถึงใครหรือไม่ อนุทิน กล่าวว่า ทำไมต้องไปถาม คนเราต้อง Actions speak louder than words (การกระทำสำคัญกว่าคำพูด)
ขณะเดียวกันนายอนุทินยังปฏิเสธว่า ไม่ได้มีการพูดคุยกับนายทักษิณ ถึงเดินทางไปยังเกาะลังกาวี เพื่อพบกับนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ตามที่สื่อของทางมาเลเซียรายงานหรือไม่
เมื่อถามว่าได้สอบถามประเด็นที่นายทักษิณ ระบุว่าหล่อเร็วไปหน่อยหรือไม่หลังออกมาคัดค้าน ร่างพ.ร.บ.กลาโหม นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่ได้คุย และไม่คุยเรื่องเก่า
“ท่านไม่ได้หมายถึงผมชัดเจนอยู่แล้ว ท่านบอกว่าพรรคที่ไม่มา แต่ผมในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย วิ่งตาลีตาเหลือก ตอนเลขาธิการนายกฯ โทรไปตามให้มาประชุม ครม. เพื่อสนับสนุนร่างพรก. เกี่ยวกับภาษี ในวันที่ 11 ธ.ค. เพราะวันนั้นนัดหมอ ไม่ได้ไปทำหล่อ หรือ ยิงเลเซอร์ แต่ไปตรวจติดตามหัวใจพริ้ว เพราะเต้นเร็วกว่าปกติ ซึ่งประเด็นที่นายทักษิณพูด ไม่ได้หมายถึงผมและพรรคภูมิใจไทยแน่นอน เมื่อดูข้อเท็จจริงไม่ใช่แน่นอน” นายอนุทิน กล่าว
เมื่อถามว่า ติดใจว่าพรรคเพื่อไทยออกแคมเปญ “ 180 วัน รอได้เพื่อรัฐธรรมนูญประชาชน อย่าเชื่ออีแอบ ล็อกสองชั้น รัฐบาลต้องลงเรือลำเดียวกัน” หรือไม่ หลังพรรคภูมิใจไทย ลงมติเห็นด้วยกับเสียงข้างมากสองชั้นว่า นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่ได้ติดใจ เป็นไปตามกระบวนการของรัฐสภา และระบอบประชาธิปไตย ต่อให้พรรคไม่เห็นด้วยก็เป็นแนวทางของพรรคภูมิใจไทย ไม่ใช่พอเสียงข้างมากบอกเห็นด้วย พรรคภูมิใจไทยไม่เห็นด้วย แล้วไปตั้งเวทีข้างสภาฯ หรือที่ไหนไปนั่งโจมตีต่อไป เราก็ทำตามกติกา ไม่ได้แสดงให้เห็นถึงความขัดแย้ง ขอย้ำว่าเห็นต่างกันได้ ยกตัวอย่างอดีตปลัดกระทรวงมหาดไทยคนก่อน ก็เห็นต่างกับตน ถือเป็นเรื่องธรรมดา ขอแค่ทำงานให้ได้พอ และความเห็นต่างต้องไม่กระทบกับประเทศและประชาชน มาทำงานตรงนี้ไม่ใช่เรื่องส่วนตัว