“พาณิชย์” เปิดตัวเลข 11 เดือน ต่างชาติลงทุนในไทย 213,964 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 118% ญี่ปุ่นครองแชมป์ 239 ราย ลงทุน 119,057 ล้านบาท ตามติดด้วยสิงคโปร์ และจีน
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า ในช่วง 11 เดือนที่ผ่านมา(มกราคม-พฤศจิกายน) มีการอนุญาตให้คนต่างชาติเข้ามาลงทุนประกอบธุรกิจในประเทศไทย โดยเป็นการลงทุนผ่านช่องทางการขอรับใบอนุญาตประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว จำนวน 202 ราย และการขอหนังสือรับรองการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว (ผ่านช่องทางการลงทุนตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมการลงทุน หรือได้รับอนุญาตตามกฎหมายว่าด้วยการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และการใช้สิทธิตามสนธิสัญญาหรือความตกลงระหว่างประเทศ) จำนวน 682 ราย เงินลงทุนรวม 213,964 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 118% หากเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนเงินลงทุน 98,288 ล้านบาท โดยชาวต่างชาติที่เข้ามาลงทุน 5 อันดับแรก ได้แก่
1.ญี่ปุ่น 239 ราย คิดเป็นร้อยละ 27 ของจำนวนธุรกิจต่างชาติในไทย เงินลงทุน 119,057 ล้านบาท ในธุรกิจ อาทิ
-ธุรกิจบริการทางวิศวกรรมและเทคนิค เช่น การให้บริการทดสอบทางเทคนิคเกี่ยวกับการทำงานของเครื่องยนต์และการใช้พลังงานของยานยนต์ไฟฟ้าของลูกค้า เป็นต้น
-ธุรกิจการจัดหาจัดซื้อวัตถุดิบ ส่วนประกอบและชิ้นส่วนสำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ เพื่อค้าส่งในประเทศ
-ธุรกิจการขายอาหารและเครื่องดื่ม
-ธุรกิจบริการพัฒนาดิจิทัลคอนเทนต์
-ธุรกิจบริการรับจ้างผลิตสินค้า อาทิ ชิ้นส่วนสำหรับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ชิ้นส่วนยานพาหนะ ชิ้นส่วนพลาสติกสำหรับอุตสาหกรรมต่างๆ
2.สิงคโปร์ 120 ราย คิดเป็นร้อยละ 14 ของจำนวนธุรกิจต่างชาติในไทย เงินลงทุน 16,332 ล้านบาท ในธุรกิจ อาทิ
-บริการทางวิศวกรรมและเทคนิคด้านต่างๆ เช่น การออกแบบทางวิศวกรรม และการวางระบบโครงสร้างการผลิต เป็นต้น
-ธุรกิจการจัดซื้อสินค้า วัตถุดิบ และชิ้นส่วนสำหรับอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น อุตสาหกรรมการแพทย์ เป็นต้น เพื่อค้าส่งในประเทศ
-ธุรกิจบริการขุดเจาะปิโตรเลียม ภายในบริเวณพื้นที่แปลงสำรวจซึ่งเป็นพื้นที่สัมปทานในอ่าวไทย
-ธุรกิจบริการสนับสนุนโครงสร้างพื้นฐานและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการ Cloud Service
-ธุรกิจบริการรับจ้างผลิตสินค้า อาทิ เครื่องใช้ไฟฟ้าที่อยู่ในระดับเทคโนโลยีขั้นสูง เครื่องจักรที่มีความแม่นยำสูง ไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์
3.จีน 117 ราย คิดเป็นร้อยละ 13 ของจำนวนธุรกิจต่างชาติ เงินลงทุน 16,674 ล้านบาท ในธุรกิจ อาทิ
-ธุรกิจบริการติดตั้ง ทดสอบ ซ่อมแซม บำรุงรักษา และฝึกอบรมเกี่ยวกับเครื่องจักร เครื่องมือ อุปกรณ์ และระบบการทำงานต่างๆ เพื่อติดตั้งระบบสายพานที่ใช้สำหรับโครงการก่อสร้างโรงงานผลิตและประกอบรถยนต์ไฟฟ้า
-ธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ โดยเป็นการจัดซื้อสินค้า วัตถุดิบ และชิ้นส่วน สำหรับอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น เพื่อค้าส่งในประเทศ
-ธุรกิจบริการบริการพัฒนา Enterprise Software
-ธุรกิจบริการสถานที่สำหรับเล่นเกมแก้ไขปริศนา (Escape Room)
-ธุรกิจบริการรับจ้างผลิตสินค้า ชิ้นส่วนสำหรับเครื่องจักรอุตสาหกรรม เครื่องใช้ไฟฟ้า ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์สำหรับระบบการสื่อสารแบบใยแก้วนำแสง
4.สหรัฐอเมริกา 115 ราย คิดเป็นร้อยละ 13 ของจำนวนธุรกิจต่างชาติ เงินลงทุน 23,555 ล้านบาท ในธุรกิจ อาทิ
-ธุรกิจบริการทางวิศวกรรมและเทคนิค เช่น การติดตั้ง บำรุงรักษา แก้ไข และปรับแต่งเว็ปไซต์ เป็นต้น
-ธุรกิจค้าปลีกสินค้า อาทิ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อสุขภาพ ผลิตภัณฑ์ดูแลและบำรุงผิวหน้าและผิวกาย เครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์
-ธุรกิจโฆษณา
-ธุรกิจบริการซ่อมแซมและบำรุงรักษากล้องส่องตรวจ ท่อส่องตรวจ และเครื่องมือที่เกี่ยวข้อง
-ธุรกิจบริการรับจ้างผลิตสินค้า อาทิ ลูกอม ขนมขบเคี้ยว หมากฝรั่ง อาหารสำเร็จรูป Electro Magnetic Product, แบตเตอรี่ลิเทียมไอออน
5.ฮ่องกง 62 ราย คิดเป็นร้อยละ 7 ของจำนวนธุรกิจต่างชาติในไทย เงินลงทุน 14,508 ล้านบาท ในธุรกิจ อาทิ
-ธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ โดยเป็นการจัดซื้อสินค้า วัตถุดิบ และชิ้นส่วนสำหรับอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น อุตสาหกรรมเครื่องสำอาง เป็นต้น เพื่อค้าส่งในประเทศ
-ธุรกิจบริการฝึกอบรม ติดตั้ง บำรุงรักษา ซ่อมแซม และการปรับ (Calibration) เกี่ยวกับเครื่องจักร เครื่องกล เครื่องมือ และอุปกรณ์
-ธุรกิจบริการศูนย์กระจายสินค้าด้วยระบบที่ทันสมัย
-ธุรกิจบริการพัฒนาซอฟต์แวร์เพื่อจำหน่าย และ/หรือ ให้บริการ เช่น การตอบคำถามโดยใช้เสียง (Voice to Voice) และการเสนอโฆษณาตามลักษณะของลูกค้า เป็นต้น
-ธุรกิจบริการรับจ้างผลิตสินค้า อาทิ ด้ายหรือผ้าที่มีคุณสมบัติพิเศษ ผลิตภัณฑ์โลหะและชิ้นส่วนโลหะขึ้นรูป ชุดแบตเตอรี่ความจุสูง (High Density Battery) ถือได้ว่าการเข้ามาประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวในไทยในช่วงที่ผ่านมาโดยเฉพาะในอุตสาหกรรมข้างต้น มีส่วนช่วยในการถ่ายทอดเทคโนโลยีอันเป็นองค์ความรู้เฉพาะด้านจากประเทศผู้เข้ามาลงทุนให้แก่คนไทย เช่น องค์ความรู้เกี่ยวกับการควบคุมเครนในทะเล องค์ความรู้เกี่ยวกับการตรวจรหัสพันธุกรรมมะเร็ง องค์ความรู้เกี่ยวกับการเจียระไนชิ้นงานเซรามิก องค์ความรู้เกี่ยวกับการตรวจสอบและซ่อมแซมเกี่ยวสินค้าประเภทเครื่องฉีดน้ำแรงดันสูง เครื่องกำเนิดไฟฟ้า เป็นต้น