ถกแก้ข้อบังคับการประชุมรัฐสภา “พริษฐ์” เสนอให้ประชาชนร่วมนั่งกมธ.แก้รธน. เจอ “รทสช.-สว.” รุมค้านคนนอกแก้รธน. ขณะที่กลุ่มพันธุ์ใหม่ “นันทนา” หนุน มติรับหลักการตั้งกมธ.ร่วม แต่ปิดประชุมไม่ได้ เหตุ สว.ข้างน้อยโวยถูกสกัดนั่งกมธ.พักการประชุมหารือกันอีกรอบ
วันที่ 14 ม.ค.2568 เวลา 09.30น. ที่รัฐสภา มีการประชุมรัฐสภา มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา เป็นประธานการประชุม เพื่อพิจารณาร่างข้อบังคับการประชุมรัฐสภา ตามที่นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน มีสาระสำคัญคือ การแก้ไขข้อบังคับการประชุมรัฐสภา พ.ศ.2563 เพื่อเปิดพื้นที่ให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมเป็นกรรมาธิการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญโดยรัฐสภา เพื่อให้กระบวนการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญมีความรอบคอบรอบด้านมากขึ้น ในที่ประชุม สส.พรรคร่วมรัฐบาล อาทิ พรรครวมไทยสร้างชาติ และสว.ส่วนใหญ่ต่างอภิปรายคัดค้านไม่เห็นด้วยการให้ประชาชนมีส่วนร่วมเป็นกมธ.พิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญในชั้นรัฐสภา อาทิ นายพิสิษฐ์ อภิวัฒนาพงศ์ สว. อภิปรายว่า การเปิดทางให้บุคคล ภายนอกที่ไม่ใช่สมาชิกรัฐสภามาทำหน้าที่กมธ. จำนวนไม่น้อยกว่า 1ใน3ของจำนวนกมธ. 45คน ขัดต่อเจตนารมณ์รัฐธรรมนูญ มาตรา114 ที่กำหนดให้สส. สว. หรือสมาชิกรัฐสภาเป็นตัวแทนปวงชนชาวไทย การเสนอแบบนี้เท่ากับจะตั้งใครก็ได้ใน 45คน ไม่ต้องมีสมาชิกรัฐสภาแม้แต่คนเดียวก็ได้ และการเสนอให้มีตัวแทนประชาชนเข้ามานั้น กระบวนการคัดเลือกต้องโปร่งใส ไม่ใช่เป็นเครื่องมือทางการเมือง
ขณะที่สส.พรรคประชาชน และสว.กลุ่มพันธุ์ใหม่ ต่างอภิปรายสนับสนุนให้มีตัวแทนประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมเป็นกมธ.แก้ไขรัฐธรรมนูญได้ เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนมีส่วนร่วมแก้รัฐธรรมนูญ ส่วนสส.พรรคเพื่อไทย อาทิ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว สส.น่าน พรรคเพื่อไทย อภิปรายสนับสนุนให้รับหลักการร่างแก้ไขข้อบังคับการประชุมดังกล่าว แม้จะมีข้อถกเถียงเรื่องการตั้งบุคคลที่ไม่ใช่สมาชิกรัฐสภามาเป็นกมธ.จะทำได้หรือไม่ ก็ให้ไปพิจารณาปรับปรุงแก้ไขในชั้นกมธ. เพื่อหาข้อสรุปต่อไป หลังสมาชิกรัฐสภาอภิปรายครบถ้วนแล้ว
ที่ประชุมลงมติรับหลักการร่างข้อบังคับการประชุมรัฐสภาด้วยคะแนน 415 ต่อ185 เสียง งดออกเสียง3 จากนั้นได้ตั้งกมธ.เพื่อพิจารณา 18คน แบ่งเป็นสัดส่วนสส. 13 คน สว. 5คน แต่ก็เกิดปัญหาขึ้น เมื่อโควตาสว. 5คน ไม่มีรายชื่อสว.เสียงข้างน้อยร่วมอยู่ในกมธ.ด้วย ทำให้สว.เสียงข้างน้อยไม่พอใจ จึงเสนอรายชื่อสว.เสียงข้างน้อยเพิ่มขึ้นมาอีก 4 คน ทำให้มีจำนวนสว.เป็นกมธ. 9 คน เกินโควตา 5 คนที่ได้รับ
ทำให้เกิดการโต้เถียงกันในกลุ่มสว.เสียงข้างมากกับเสียงข้างน้อย ขณะที่สส.บางส่วนเสนอให้ที่ประชุมรัฐสภาลงคะแนนโหวตตัดสินเลือกคนเป็นกมธ.
ในที่สุดนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา สั่งให้พักประชุม 15นาที เพื่อให้สว.เสียงข้างมากและเสียงข้างน้อยไปตกลงเรื่องโควตาสว.ที่จะมาเป็นกมธ.ให้ลงตัวก่อน หลังจากพักประชุมไปร่วม 40นาที สว.สามารถตกลงโควตากมธ.กันได้ โดยยอมให้มีตัวแทนสว.เสียงข้างน้อย ร่วมเป็นกมธ.ได้