วันอาทิตย์, มกราคม 19, 2025
หน้าแรกCOLUMNISTS‘รัฐบาลอิ๊งค์’เร่งรีบ..ผลักดันเปิดกาสิโน ‘ผ่าไส้ใน’ร่างพ.ร.บ.ฯพบจุดอ่อนเพียบ!
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

‘รัฐบาลอิ๊งค์’เร่งรีบ..ผลักดันเปิดกาสิโน ‘ผ่าไส้ใน’ร่างพ.ร.บ.ฯพบจุดอ่อนเพียบ!

หลังโดน ฝ่ายคัดค้านไม่เห็นด้วย กับนโยบาย “เปิดกาสิโน” ที่ รัฐบาลเพื่อไทย เร่งผลักดันผ่านร่างพ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร ซึ่งที่ประชุมครม.เห็นชอบมาเมื่อ 13 ม.ค. ไล่ถล่มอย่างหนักจากทั่วทุกสารทิศ

ยิ่งการที่ให้ “จิรายุ ห่วงทรัพย์” โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ออกมาอ้างว่า มีความพยายามของ “กลุ่มทุนสีเทา” กำลังเคลื่อนไหวเพื่อ ล้มนโยบายการเปิดเอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ ซึ่งจะมี “กาสิโน” รวมอยู่ด้วย

จับอาการได้ว่า ฝ่ายรัฐบาลก็คงรู้ดีว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ และเป็นเรื่องละเอียดอ่อนของสังคม แรงต้านจากประชาชนที่ไม่เห็นด้วย มีเยอะแน่ จึงทำให้นอกจากพยายามแจงเหตุผลด้านเศรษฐกิจ หากมีการเปิดกาสิโนในประเทศไทย จะมีผลดี-ผลบวก ทั้งเรื่องการจ้างงาน-รายได้จากการให้ใบอนุญาตและการเก็บภาษี-การอ้างว่าจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาไทยมากขึ้น

แต่รัฐบาลก็ถูกฝ่ายคัดค้าน เอาตัวเลข-ข้อมูลทางเศรษฐกิจมาแย้งได้ทุกประเด็น เช่น การเป็นอ้างตัวเลขสมมติฐานที่เลื่อนลอย เพราะประเทศไทยไม่เคยมีกาสิโน-สถานบันเทิงครบวงจร แล้วไปเอาตัวเลขต่างๆ ทั้งการเก็บภาษี-ตัวเลขนักท่องเที่ยว-จีดีพี-รายได้เข้าประเทศ มาจากไหน???

ฝ่ายคัดค้าน จึงตีประเด็นว่าเป็น “ตัวเลขยกเมฆ-โคมลอย” ไปเอาตัวเลขประเทศอื่น เช่น สิงคโปร์มาเทียบไม่ได้ ซึ่งข้อโต้แย้งบางประเด็น รัฐบาลและกระทรวงการคลัง ก็ไม่สามารถหักล้างข้อมูลที่ฝ่ายคัดค้านการเปิดกาสิโนนำมาอ้างอิงได้เช่นกัน

อีกวิธีการหนึ่งที่รัฐบาลใช้ ที่เห็นมาแล้วกับการออกมาของโฆษกรัฐบาลที่อ้างว่ามี “ทุนสีเทา” กำลัง จ้องล้มกฎหมายเปิดกาสิโน ที่ก็คือพยายามสื่อสารว่า “กลุ่มดังกล่าว” เกรงว่าหากรัฐบาลเปิดกาสิโน-ทำสถานบันเทิงครบวงจรได้สำเร็จ “พวกทุนสีเทา” จะขาดรายได้ เสียผลประโยชน์มหาศาล จึงต้องการล้มร่างกฎหมายกาสิโน เพื่อไม่ให้ประเทศไทยมีกาสิโน

อันเป็นวิธีการที่เรียกกันว่า “การดิสเครดิต-ทำลายน้ำหนักความเชื่อถือ” ของฝ่ายที่คัดค้านการเปิดกาสิโน เข้าทำนอง “รับงานมาจากทุนสีเทา” นั่นเอง

ซึ่งวิธีการแบบนี้ ว่าไปแล้ว “รัฐบาล-พรรคเพื่อไทย” เคยใช้มาแล้วหลายครั้งคือ การตอบโต้กลับ แล้วดิสเครดิตฝ่ายตรงข้าม ซึ่งก็ใช้มาตั้งแต่ยุครัฐบาลทักษิณ ชินวัตรแล้ว

เห็นได้จากตัวอย่าง เช่น สมัย “ทักษิณ” เป็นนายกฯ ประกาศนโยบายทำสงครามกับยาเสพติด แล้วตอนนั้นเริ่มมีคนออกมาเคลื่อนไหวต่อต้านจะล้ม “รัฐบาลทักษิณ” ตัวทักษิณและคนในไทยรักไทยเวลานั้น ก็อ้างว่า มีกลุ่มที่เสียผลประโยชน์หลังรัฐบาลไทยรักไทยทำสงครามยาเสพติด จนทำให้ยาเสพติดลดน้อยลง จึงมีการลงขันลงเงินไปให้ฝ่ายตรงข้ามรัฐบาล เพื่อล้มรัฐบาลทักษิณ ทำนองกลุ่มล้มรัฐบาลเวลานั้นที่เริ่มเคลื่อนไหวล้มทักษิณ รับงานมาจากกลุ่มเครือข่ายยาเสพติดนั่นเอง

และวิธีการแบบนั้น ก็กำลังถูกนำมาใช้อีกครั้งในเวลานี้ ด้วยการส่ง “จิรายุ” ออกมาดิสเครดิตกลุ่มคัดค้านกาสิโน ว่าเป็นการเคลื่อนไหวของกลุ่มทุนสีเทา ที่ไม่ต้องการให้มีการเปิดกาสิโนถูกกฎหมายในไทย เพราะเกรงจะเสียผลประโยชน์จากการเอาธุรกิจใต้ดินมาไว้บนดิน อย่างบ่อนกาสิโน นั่นเอง

กระนั้นพบว่า การออกมาดิสเครดิตการขวางนโยบายเปิดกาสิโนของคนในรัฐบาล โดยพยายามเชื่อมโยงไปถึงทุนสีเทา นอกจากไม่ได้ผลแล้ว ยังกลายเป็นบูมเมอแรงทางลบทางการเมืองที่ย้อนกลับไปถึงรัฐบาล ที่ส่งโฆษกรัฐบาลออกมาดิสเครดิตแบบเลื่อนลอย ที่นอกจากไม่ได้ผลแล้ว ยิ่งนานวัน…แรงคัดค้าน การเร่งรัดจะออกกฎหมายรองรับการเปิดกาสิโน ก็ยิ่งมีมากขึ้น

เพราะต้องยอมรับว่า “ร่างพ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรฯ พ.ศ…” ที่ยกร่างโดยฝ่ายกระทรวงการคลัง ที่ฝ่ายการเมืองในกระทรวงการคลัง ส่ง “สุรชาติ เทียนทอง” ผู้ช่วยเลขานุการรมว.คลัง (จุลพันธุ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง) เป็นประธานคณะทำงานยกร่างกฎหมายฉบับดังกล่าว ซึ่งจริงๆ มีการทำร่างไว้นานแล้ว โดยฝ่ายกฎหมายในสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ตั้งแต่ตอนที่สภาฯชุดปัจจุบัน มีการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาผลกระทบกับการเปิดสถานบันเทิงครบวงจร สภาฯ ที่มี “จุลพันธุ์” รมช.คลังเป็นประธานกมธ.

มันแสดงให้เห็นว่า “รัฐบาล-เพื่อไทย-กระทรวงการคลัง” มีการวางแผน-เตรียมการจะออกกฎหมายให้เปิดกาสิโนมานานเป็นปีแล้ว

จนได้จังหวะเหมาะ ผ่านการรับฟังความเห็นประชาชนเสร็จ กระทรวงการคลังก็ส่งร่างฯ ให้ที่ประชุมครม.เห็นชอบไปเมื่อ 13 ม.ค.ที่ผ่านมา แม้จะมีบางหน่วยงานมีความเห็นเชิงทักท้วง-ไม่คัดค้าน แต่ก็มีข้อเป็นห่วง ข้อทักท้วง เช่น คณะกรรมการกฤษฎีกา-สำนักงานสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์ฯ) ที่ครม.ก็แค่รับทราบข้อห่วงใย-ทักท้วง แต่ก็มีความเห็นชอบร่วมกันให้ผ่านครม.ไปก่อน และส่งให้กฤษฎีการไปตรวจดูเนื้อหา-ถ้อยคำในร่างกฎหมายอีกครั้ง แล้วส่งกลับมาครม.อีกรอบ

ถึงตอนนี้ หากสรุปภาพใหญ่ของร่างพ.ร.บ.ประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรฯ ก็จะพบว่า มี “จุดอ่อน-ช่องโหว่” ที่หลายฝ่ายออกมาทักท้วงตั้งข้อสังเกตกันหลายประเด็น แต่ประเด็นหลักๆ ก็มีอาทิเช่น

-การให้ใช้ระบบใบอนุญาต ไม่ใช่การประมูล ซึ่งรัฐบาลและกระทรวงการคลังก็ยังไม่ได้ชี้แจงเหตุผลใดๆ ในเรื่องนี้ ซึ่งระบบใบอนุญาต แน่นอนว่า “ข้อเสีย” มีมากกว่า “ระบบประมูล” อยู่แล้ว เพราะเปิดช่องให้ “วิ่งเต้น-จ่ายเงินใต้โต๊ะ” หรือ “ล็อบบี้” กับกรรมการและตัวบุคคลที่มีอำนาจในการให้ใบอนุญาตได้ง่ายกว่าระบบประมูลหลายเท่า

-บริษัทที่จะได้รับใบอนุญาตทำสถานบันเทิงครบวงจร ต้องมีทุนชำระแล้ว การให้ใช้ทุนจดทะเบียนชำระแล้วไม่น้อยกว่าหนึ่งหมื่นล้านบาท ที่ทำให้กลุ่มทุนหรือบริษัทที่จะเข้ามาในธุรกิจนี้ มีแค่ไม่กี่บริษัท ทำให้มีแนวโน้มบริษัทที่จะทำธุรกิจกาสิโน ก็จะเป็นการร่วมทุนกันระหว่าง “ทุนไทย” กับ “ทุนกาสิโนต่างประเทศ” ที่มีประสบการณ์การทำกาสิโนในต่างประเทศมาก่อน บนข้อเป็นห่วงจากหลายฝ่ายว่า อาจเกิดการ “ฟอกเงิน” ของเครือข่ายธุรกิจผิดกฎหมายในต่างประเทศในการเข้ามาลงทุนทำกาสิโนในประเทศไทย 

-มีการตัดเรื่องการให้ตั้งกองทุนทางสังคม เพื่อไว้เยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากนโยบายเปิดสถานบันเทิงครบวงจรออก ในร่างพ.ร.บ.ดังกล่าว จากเดิมที่เคยมีการเสนอไว้ในรายงานของคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาการทำสถานบันเทิงครบวงจร ของสภาฯ ก่อนหน้านี้ ซึ่งการตัดออกดังกล่าว ยิ่งทำให้ขาดแนวร่วมจากประชาสังคม เพราะการมีกองทุนช่วยเหลือทางสังคม หากมี…อย่างน้อยก็ทำให้นำไปแย้งกับฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยกับการเปิดกาสิโนได้ว่า กองทุนดังกล่าวจะนำรายได้และภาษีที่เก็บจากกาสิโนคืนสังคม เช่น นำไปช่วยเหลือกลุ่มเปราะบาง อาทิ คนพิการ ผู้สูงอายุ แต่พอไม่ให้มีการตั้งกองทุนฯ เลยยิ่งทำให้ฝ่ายคัดค้าน นำไปโจมตีการเปิดกาสิโนได้ง่ายขึ้นไปอีก

-การตัดเรื่องกระบวนการรับฟังความคิดเห็นประชาชนในพื้นที่ซึ่งจะให้เปิดกาสิโน ที่เคยเป็นข้อเสนอของกรรมาธิการศึกษาการเปิดเอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ ของสภาฯ ที่เสนอว่า หากจะเปิดที่ไหน ต้องรับฟังความคิดเห็นประชาชนก่อน ว่าเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมในพื้นที่ ก็พบว่ามีการตัดออกไป

เมื่อเป็นแบบนี้ ก็เลยทำให้ ร่างพ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรฯ ของกระทรวงการคลัง เลยมี “จุดอ่อน” ให้คัดค้าน-ต่อต้านได้หลายประเด็น ยิ่งเมื่อท่าทีของฝ่ายรัฐบาลพบว่า มีการเร่งรัด-เร่งรีบ ที่ต้องการผลักดันให้เสร็จโดยเร็ว ก็ยิ่งทำให้หลายภาคส่วนคลางแคลงใจ ว่ามีอะไรอยู่เบื้องหลัง

แต่นโยบายการเปิดกาสิโน ของรัฐบาลที่ดูแล้ว น่าจะเกิดจาก “ทักษิณคิด เพื่อไทยทำ” แน่ๆ

………………

คอลัมน์ : ส่องป้อมค่ายการเมือง

 โดย…“พระจันทร์เสี้ยว”

- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img
spot_imgspot_img
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
spot_img
spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img