วันอังคาร, มกราคม 21, 2025
หน้าแรกHighlight“ทรัมป์”ลงนามในคำสั่งบริหารหลายฉบับ รวมทั้งถอนตัวจาก“องค์การอนามัยโลก”
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

“ทรัมป์”ลงนามในคำสั่งบริหารหลายฉบับ รวมทั้งถอนตัวจาก“องค์การอนามัยโลก”

ประธานาธิบดี ‘โดนัลด์ ทรัมป์’ ลงนามในคำสั่งบริหารหลายฉบับทันที หลังจากเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ รวมทั้งการถอนตัวจาก ‘องค์การอนามัยโลก’

เมื่อวันที่ 21 ม.ค.68 หลังเข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ อย่างเป็นทางการ “โดนัลด์ ทรัมป์” ประธานาธิบดีคนที่ 47 ของสหรัฐอเมริกาได้ลงนามในคำสั่งบริหารชุดใหญ่ชุดแรกทันที ครอบคลุมประเด็นสำคัญมากมาย ตั้งแต่สิ่งแวดล้อม ผู้อพยพ ติ๊กต๊อก (TikTok) การอภัยโทษให้กับผู้ก่อเหตุจลาจล 6 มกราคม 2564 และอีกมากมาย

“ทรัมป์” ยังลงนามคำสั่งให้เริ่มกระบวนการถอนสหรัฐฯออกจากองค์การอนามัยโลก (WHO) ด้วย โดยสาเหตุที่ทำให้ทรัมป์พยายามถอนสหรัฐฯออกจาก WHO เป็นเพราะเขามองว่าสหรัฐฯต้องให้เงินกับ WHO อย่างไม่เป็นธรรม เมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ


ทั้งนี้ “ทรัมป์” วิจารณ์ WHO ว่า ล้มเหลวในการปฏิบัติงานอย่างเป็นอิสระจาก ‘อิทธิพลทางการเมืองที่ไม่เหมาะสมของรัฐสมาชิก’ และเรียกร้องให้สหรัฐฯต้องจ่ายเงินอุดหนุนมากอย่างไม่เป็นธรรม เมื่อเทียบกับประเทศขนาดใหญ่อื่นๆ เช่น จีน

“WHO รีดไถเงินเรา ทุกคนรีดไถเงินจากสหรัฐฯ หมด จะไม่มีเรื่องเช่นนี้เกิดขึ้น” ทรัมป์ กล่าว

คำสั่งบริหารของ “ทรัมป์” มีผลทำให้สหรัฐฯจะพ้นจากการเป็นสมาชิก WHO ในอีก 12 เดือนข้างหน้า โดยวงเงินสนับสนุนภารกิจของ WHO ทั้งหมดก็จะถูกระงับลง

สหรัฐฯเป็นผู้สนับสนุนเงินทุนรายใหญ่ที่สุดของ WHO ในสัดส่วน 18% ของเงินทุนทั้งหมด ขณะที่งบประมาณของ WHO ในระยะ 2 ปีจาก 2024-2025 อยู่ที่ 6,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

นอกจากความพยายามในการถอนตัวออกจากองค์การอนามัยโลกแล้ว อีกหนึ่งคำสั่งที่หลายฝ่ายกังวลคือ การถอนตัวออกจาก ‘ข้อตกลงปารีสว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ’ (Paris climate agreement) ซึ่งเป็นข้อตกลงความร่วมมือระหว่างประชาคมโลก เพื่อกำหนดไม่ให้อุณหภูมิของโลกเพิ่มสูงเกิน 2 องศาเซลเซียสเมื่อเทียบกับก่อนการปฏิวัติอุตสาหกรรม

ประธานาธิบดีคนใหม่ยังให้คำมั่นสัญญาว่าสหรัฐฯจะก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ของการสำรวจน้ำมันและก๊าซ ทรัมป์ได้บอกกับกลุ่มผู้สนับสนุนที่มารวมตัวกันที่สนามกีฬาแคปิทอลวันอารีนา (Capital One Arena) หลังการสาบานตนว่า เขาจะทำให้ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงลดลง และเติมคลังสำรองน้ำมันให้เต็มอีกครั้ง รวมถึงจะส่งออกพลังงานของสหรัฐฯ ไปทั่วโลก สหรัฐฯ จะกลับมาเป็นประเทศที่ร่ำรวยอีกครั้งจากการขายน้ำมัน

อย่างไรก็ดี นี่ไม่ใช้ครั้งแรกที่ทรัมป์พยายามพาสหรัฐฯ ออกจากการเป็นสมาชิกของข้อตกลงนี้ เพราะก่อนหน้านี้ ในตอนดำรงตำแหน่งสมัยแรกเมื่อปี 2560 เขาเคยพยายามมาแล้วแต่ถูกยกเลิกไป หลังโจ ไบเดนเข้ามารับตำแหน่งในปี 2564

มีรายงานว่า คำสั่งบริหารในสมัยของรัฐบาล “โจ ไบเดน” ถูก “ทรัมป์” สั่งยกเลิกไปทั้งหมด 78 ฉบับ เช่น การกำหนดเป้าหมายขายรถยนต์ไฟฟ้าจำนวน 50% ภายในปี พ.ศ.2573 และการควบคุมเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ เอไอ

ส่วนเรื่องของ ‘ภาษี’ ประธานาธิบดีทรัมป์บอกว่ามาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากเม็กซิโกและแคนาดาอาจเกิดขึ้นเร็วสุดในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ และว่าเขากำลังพิจารณาการเก็บภาษีในอัตราที่สูงถึง 25% โดยเหตุผลว่าทั้งสองประเทศนี้ปล่อยให้ผู้คนจำนวนมากข้ามพรมแดนเข้ามาในสหรัฐฯ

ส่วนการเก็บภาษีสินค้า 10%-60% จากจีนนั้น ทรัมป์ยังไม่ได้พูดอย่างชัดเจนว่าเมื่อไหร่ แต่เขาบอกว่าการหารือทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ก่อนหน้านี้ ค่อนข้างเป็นไปได้ดี

ประธานาธิบดีทรัมป์ยังได้พูดถึงเรื่องสงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครนด้วย ซึ่งก่อนหน้านี้เขาให้คำมั่นสัญญาว่าจะยุติสงครามตั้งแต่วันแรกที่ดำรงตำแหน่ง โดยบอกว่าเขาคิดว่าตอนนี้ ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกีของยูเครนต้องการทำข้อตกลงเพื่อยุติความขัดแย้ง

- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img
spot_imgspot_img
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
spot_img
spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img