ตลาดหุ้นไทยปิดพุ่ง 12.03 จุด เด้งรับนโยบาย “ทรัมป์” ไม่รีบเก็บภาษีจีนทำให้นักลงทุนคลายกังวลต่อเงินเฟ้อสหรัฐ ส่วนแนวโน้มวันพรุ่งนี้คาดตลาดฯ แกว่งไซด์เวย์อัพให้แนวรับไว้ที่ 1,345 จุด และแนวต้าน 1,370 จุด
นายศราวุธ เตโชชวลิต ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) เปิดเผยถึงภาวะตลาดหุ้นไทยปิดที่ระดับ 1,352.53 จุด เพิ่มขึ้น 12.03 จุด หรือ +0.90% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 38,012.20 ล้านบาทว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวขึ้นดีกว่าตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชีย ตอบรับนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ไม่เร่งรีบเก็บภาษีจากจีน ทำให้นักลงทุนคลายกังวลต่อเงินเฟ้อสหรัฐ ซึ่งเป็นปัจจัยหนุนต่อการปรับลดดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ 2 ครั้งในปีนี้
ขณะเดียวกันทรัมป์ ยังได้ลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหารเพื่อประกาศภาวะฉุกเฉินด้านพลังงานแห่งชาติ โดยมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มการผลิตน้ำมันดิบในสหรัฐฯ ซึ่งจะทำให้ราคาน้ำมันปรับตัวลดลง ด้วยการเพิ่มการขุดเจาะน้ำมัน วางท่อน้ำมัน และตั้งโรงกลั่นน้ำมัน ส่งผลดีต่อหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้า จากต้นทุนโรงไฟฟ้าดีขึ้น
นอกจากนี้หุ้นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์มีแรงซื้อเข้ามา หลังทรัมป์ ได้ยกเลิกคำสั่งห้ามส่งออกชิป ของนายโจ ไบเดน อดีตประธานาธิบดีสหรัฐ
สำหรับแนวโน้มวันพรุ่งนี้คาดตลาดฯ แกว่งไซด์เวย์อัพ เนื่องจากนโยบายหลายเรื่องส่งผลดีต่อตลาดหุ้นไทยโดยตรง ให้แนวรับไว้ที่ 1,345 จุด และแนวต้าน 1,370 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 2,558.41 ล้านบาท ปิดที่ 158.50 บาท ลดลง 1.50 บาท
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,881.07 ล้านบาท ปิดที่ 122.50 บาท ลดลง 4.00 บาท
DELTA มูลค่าการซื้อขาย 1,598.83 ล้านบาท ปิดที่ 142.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,504.73 ล้านบาท ปิดที่ 56.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
SCB มูลค่าการซื้อขาย 1,322.78 ล้านบาท ปิดที่ 122.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท