ในการประชุม คณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมือง การมีส่วนร่วมของประชาชน สิทธิมนุษยชน สิทธิ เสรีภาพ และการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา ชุดของ “สว.อังคณา นีละไพจิตร” มีการหารือเรื่อง การเสียชีวิตของพลทหาร “ศิริวัฒน์ ใจดี” จากการถูกลงโทษในค่ายทหารอย่างต่อเนื่อง
โดยตัวแทนจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ ระบุว่า หลังจากรับเรื่องนี้ไว้เพื่อสืบสวน ในวันที่ 27-30 มกราคมนี้ เตรียมลงพื้นที่เกิดเหตุ ค่ายทหารในจังหวัดชลบุรี เพื่อซักถามบุคคลที่เกี่ยวข้อง ทั้งเพื่อน ครูฝึก แพทย์ที่ทำการรักษาพลทหาร
เมื่อได้ข้อเท็จจริง จึงประมวลเรื่องพิจารณาว่า มีมูลเหตุเข้าเงื่อนไขเป็นคดีพิเศษหรือไม่ หากเข้าเงื่อนไขจะเสนออธิบดีดีเอสไอ เพื่อพิจารณาต่อไป
และหากข้อเท็จจริงว่ากรณีเสียชีวิตครั้งนี้ เข้าข่ายซ้อมทรมาน ตาม พ.ร.บ.อุ้มหาย พนักงานสอบสวนในพระราชบัญญัตินี้ คือ พนักงานสอบสวนคดีพิเศษอยู่แล้ว ทางอธิบดีดีเอสไอ สามารถรับเป็นคดีพิเศษได้ โดยไม่ต้องเสนอคณะกรรมการคดีพิเศษ
แต่ขณะเดียวกัน ที่ประชุมยังแสดงความกังวล เกี่ยวกับ คำสั่งกระทรวงกลาโหม ที่ 1379/2567 เรื่อง มาตรการควบคุมและป้องกันการลงทัณฑ์หรือลงโทษที่ไม่เป็นไปตามกฎหมายและแบบธรรมเนียมทหาร ลงวันที่ 15 พฤศจิกายน 2567
เพราะคำสั่งดังกล่าวอาจ “ไม่สอดคล้อง” กับพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ.2565
เนื่องจากคำสั่งกลาโหมดังกล่าว เป็นคำสั่งที่ให้หน่วยงานของกลาโหม ตรวจสอบวินัยเจ้าหน้าที่ ที่มีคำสั่งหรือการดำเนินการใดๆ เกี่ยวข้องกับการทรมาน ตามนิยามกฎหมายอุ้มหายดังกล่าว
แต่ พ.ร.บ.อุ้มหายฯ ระบุว่า หากพบเห็นการกระทำที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม หรือการกระทำให้บุคคลสูญหาย จะต้องรีบแจ้งพนักงานสอบสวน 4 หน่วยงาน ตามกฎหมายฉบับนี้โดยไม่ชักช้า
เมื่อมีคำสั่งกลาโหม ในการตรวจสอบทางวินัย จึงอาจทำให้ผู้เห็นเหตุการณ์ ไม่กล้าแจ้งพนักงานสอบสวนด้วยหรือไม่
ขณะเดียวกัน ในคำสั่งของกระทรวงกลาโหมดังกล่าว ยังมีการนิยามการลงทัณฑ์หรือลงโทษตามแบบธรรมเนียมทหารเอาไว้ และกองทัพบก มีมาตการควบคุมป้องกันตามมา 9 ข้อ
พร้อม กำหนดท่าลงโทษเอาไว้ 13 ท่าหลัก มีทั้งหนัก-เบา และมี ท่าอนุโลม 11 ท่า สำหรับผู้ที่สูงอายุ หรือผู้เจ็บป่วย รวมเป็น 24 ท่า ดังนี้
1.ยกเข่าบิดลำตัว
ยกเข่าซ้ายขึ้นงอ 90 องศา บิดตัวศอกขวาใกล้เข่าซ้าย จากนั้นยกเข่าซ้ายขึ้นงอให้ได้ประมาณ 90 องศา บิดตัวศอกซ้ายใกล้เข่าขวา สลับกัน
2.ยกเข่าบิดลำตัวอนุโลม
ย่อเข่าทั้ง 2 ข้าง งอแขนทั้ง 2 ข้างตั้งฉากขึ้น 90 องศา และบิดลำตัวไปทางซ้ายและขวา
3.นอนปั่นจักรยานยกแขน
ยกเข่าซ้ายพร้อมดันลำตัวขึ้น บิดลำตัวให้ศอกขวาแตะกับเข่าซ้าย สลับกับบิดลำตัวให้ศอกซ้ายแตะกับเข่าขวา
4.นอนปั่นจักรยานยกแขนอนุโลม
ยกแขนขวาพร้อมยกขาซ้าย เอามือขวาแตะหน้าแข้งซ้าย ยกแล้ววางทำสลับกัน
5.ตั้งศอก หรือ แพลงก์
ค่อยๆ ยันตัวขึ้น ให้ศอกทั้ง 2 ข้างห่างกันประมาณหนึ่งช่วงไหล่ ยกสะโพกขึ้น เกร็งลำตัวและให้คออยู่ระนาบเดียวกัน แล้วค้างไว้
6.ตั้้งศอกอนุโลม
ดันตัวขึ้น เข่าติดพื้น ส่วนลำตัวค้างเอาไว้
7.ลุกบิดนั่งลำตัว
ยกเท้าทั้ง 2 ข้างขึ้น เกร็งหน้าท้อง บิดลำตัวไปด้านซ้ายให้มากที่สุด สลับกับบิดไปด้านขวาให้มากที่สุด
8.ลุกบิดนั่งลำตัวอนุโลม
ยกแขนขวาอ้อมตัวด้านหน้า พร้อมบิดตัวไปทางซ้าย จากนั้นยกแขนซ้ายอ้อมตัวด้านหน้า พร้อมบิดตัวไปทางขวา สลับกัน
9.ก้าวย่อ
ยืนตรงปลายเท้าแยกจากกัน แล้วก้าวเท้าข้างใดข้างหนึ่งไปข้างหน้าพร้อมย่อตัวลง ตั้งลำตัวตรง พยายามให้หัวเข่าทำมุม 90 องศา ทำสลับกันซ้ายขวา
10.ก้าวย่ออนุโลม
ก้าวเท้าข้างใดข้างหนึ่งออกไปข้างหน้า พร้อมย่อตัวลง ลำตัวตั้งตรง พยายามให้หัวเข่าทำมุม 90 องศา ยืดตัวขึ้น ก้าวเท้ากลับที่เดิม ทำสลับกัน
11.นอนตะแคงตั้งศอกยกขา
นอนคะแคงกับพื้นลักษณะขาเหยียดตรง ยกขาด้านบนขึ้นจนปลายเท้าเสมอกับข้อศอก จากนั้นลดขาลงกลับสู่ท่าเดิม ทำสลับกับขาอีกข้างหนึ่ง ข้างละ 25 วินาที
12.นอนตะแคงตั้งศอกยกขาอนุโลม
เกร็งลำตัวค้างไว้ไม่ต้องยกขา ทำสลับค้างไว้ข้างละ 25 วินาที
13.กระโดดตบ
ยืนตรงปลายเท้าชิดกัน กระโดดขึ้นแยกเท้าออกให้ความกว้างเท่ากับหัวไหล่ ยกมือสองข้างสัมผัสกันเหนือศีรษะแขนเหยียดตึง แล้วกลับสู่ท่าเดิม
14.กระโดดตบแบบอนุโลม
ยกแขนตบเหนือศีรษะ จากนั้นวาดมือลงมาทั้งสองข้าง พร้อมยกมือขวา และตบมือใต้ขาขวา ทำสลับข้างกัน
15.ดันพื้น
นอนคว่ำหน้า ปลายเท้าชิด ฝ่ามือสองข้างวางกับพื้นให้ตรงแนวหัวไหล่ งอแขนจนหน้าอกแตะพื้น จากนั้นดันลำตัวขึ้นในท่าเตรียม
16.ดันพื้นอนุโลม
แขนดันพื้นให้ตรงกับแนวหัวไหล่ จากนั้นยกมือขวาแตะหัวไหลซ้าย และยกมือซ้ายแตะหัวไหล่ขวาสลับกัน
17.ดันพื้นกางแขน
นอนคว่ำหน้าปลายเท้าชิด ฝ่ามือทั้ง 2 ข้างวางกับพื้นให้ตรงแนวหัวไหล่ งอแขนจนหน้าอกแตะพื้น จากนั้นกางแขนไปทางด้านข้าง แล้วดันพื้นไปอยู่ในท่าเตรียม ทำสลับกัน
18.แมงมุมแตะสลับ
นั่งชันเข่า 2 ข้าง วางมือ 2 ข้างห่างกันประมาณช่วงไหล่ ปลายนิ้วชี้ไปด้านหลัง จากนั้นยกตัวขึ้นเล็กน้อย โน้มตัวเอามือซ้ายแตะปลายเท้าขวา และเอามือขวาแตะปลายเท้าซ้าย สลับกัน
19.แมงมุมแตะสลับอนุโลม
โน้มตัวเอามือซ้ายแตะเท้าขวา และเอามือขวาแตะเท้าซ้าย ทำสลับกัน
20.ปีนเขา
นอนคว่ำหน้าปลายเท้าชิด ฝ่ามือ 2 ข้างวางแนวหัวไหล่เหยียดตัวขึ้น จากน้้นงอเข่าขึ้นมาค้างไว้ระดับอก ทำสลับซ้ายขวา
21.ท่าเบิร์ดด็อก อนุโลม
วางมือทั้ง 2 ข้างให้ตรงกับแนวหัวไหล่ ตั้งเข่าทั้งสองข้างกับพื้น 90 องศา ปลายเท้าแยกเล็กน้อย ยกแขนขวาไปข้างหน้า พร้อมยกแขนซ้ายไปข้างหลัง ทำสลับข้างกัน
22.วิ่งยกเข่าสูง
วิ่งอยู่กับที่ โดยยกเข่าสูงระดับหน้าอก ยกเข่าให้สูงที่สุดเท่าที่จะทำได้ และเหวี่ยงแขนไปมาอย่างเป็นจังหวะ
23.วิ่งอยู่กับที่อนุโลม
วิ่งเบาๆ อยู่กับที่
24.วิ่ง
มีการกำหนดช่วงอายุในการออกกำลังไว้อย่างชัดเจน ต้องวิ่งให้ได้ 1-2 กิโลเมตรตามระยะเวลาที่กำหนดเอาไว้ และมีโรคห้ามปฏิบัติ คือ 1.ผู้เป็นโรคเรื้อรังทางด้านโครงสร้างกระดูก ข้อต่อ และ 2.โรคที่กระดูกสันหลัง
ทั้งหมดคือ ท่าลงโทษตามแบบธรรมเนียมทหาร ที่มีการออกระเบียบออกมาไว้อย่างชัดเจน มีทั้งท่าหนักและเบา จุดมุ่งหมายสำคัญคือ ลดการสูญเสียในการฝึก การลงโทษจนมีกำลังพลเสียชีวิตในค่ายทหาร ให้หมดไปจากสังคมไทย
……………
รายงานพิเศษ : ฟ้าคำราม