วันอาทิตย์, กุมภาพันธ์ 2, 2025
หน้าแรกHighlightกูรูชี้ทิศทางทองคำสัปดาห์หน้าปรับตัวขึ้น กังวลนโยบาย‘ทรัมป์2.0-สงครามการค้า’
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

กูรูชี้ทิศทางทองคำสัปดาห์หน้าปรับตัวขึ้น กังวลนโยบาย‘ทรัมป์2.0-สงครามการค้า’

“วรุต” ประเมินทิศทางทองคำในสัปดาห์หน้า ปรับตัวขึ้น จากความไม่แน่นอนนโยบายของรัฐบาลทรัมป์ 2.0 จับตาสถานการณ์ตึงเครียดสงครามการค้า-ประชุมโอเปกพลัส-ธนาคารกลางอังกฤษ

นายวรุต รุ่งขำ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จํากัด เปิดเผยถึงทิศทางราคาทองคำในสัปดาห์หน้าว่า มีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้น จากความไม่แน่นอนในการดำเนินนโยบายของรัฐบาลทรัมป์ 2.0 ของนายโดนัลด์ ทรัมป์ โดยในช่วง 1-31 ม.ค. โดย ราคา Gold SPORT ปรับตัวขึ้น ประมาณ 170 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขึ้นทำ All Time High ใหม่ ที่ระดับ 2,800ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทองแท่ง 96.5% ปรับตัวขึ้นประมาณ 2,050 บาท ขึ้นแตะระดับ All Time High เดิมที่ระดับ 44,500 บาท

ทั้งนี้ราคาทองปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง โดยได้รับแรงหนุนจาก นักลงทุนมีการเร่งนำทองคำเข้าสหรัฐ ในเดือนธ.ค. จากทั้งอังกฤษ-สวิตเซอร์แลนด์ เพื่อป้องกันความเสี่ยงจาก กระแสคาดการณ์ เรื่องภาษีนำเข้า precious metal ที่อาจเกิดขึ้น ของ “ทรัมป์”

ปัจจัยที่แนะนำให้ติดตาม

-สถานการณ์ตึงเครียดสงครามการค้า จากความไม่แน่นอนในการดำเนินโยบายของรัฐบาลทรัมป์ 2.0 ทรัมป์กลับมาเร่งดำเนินแผนการปรับขึ้นอัตราภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนอีก 10.0% โดอาจเริ่มมีผลในวันที่ 1 ก.พ. คำสั่งดำเนินแผนการปรับขึ้นอัตราภาษีสินค้านำเข้าจากแคนาดาและเม็กซิโกที่ 25.0% โดยอาจเริ่มมีผลในวันที่ 1 ก.พ. นี้

-การประชุมรัฐมนตรีกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันและชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส ในวันที่ 3 ก.พ.นี้อย่างใกล้ชิด หลังจากปธน.ทรัมป์ได้เรียกร้องให้โอเปกพลัสปรับลดราคาน้ำมัน โดยแม้ว่าทางกลุ่มโอเปกพลัสยังไม่ได้ออกมาแสดงความเห็นใด ๆ เกี่ยวกับข้อเรียกร้องดังกล่าว แต่เจ้าหน้าที่โอเปกพลัสกล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงนโยบายการผลิตไม่มีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นในการประชุมเดือนก.พ.

-ประเด็นสงครามในตะวันออกกลาง นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู จะเดินทางเยือนกรุงวอชิงตันของสหรัฐฯ ในวันอังคารที่ 4 ก.พ. ตามคำเชิญของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ การประชุมดังกล่าวคาดว่าจะมุ่งเน้นไปที่การหารือเกี่ยวกับข้อตกลงหยุดยิงในฉนวนกาซาระยะที่ 2

-ติดตามแรงซื้อแรงขายจากทางฝั่งจีน หลังจากตลาดเงินตลาดทุนของจีนปิดทำการเนื่องในวันตรุษจีนในสัปดาห์ที่ผ่านมา และจะเปิดทำการอีกครั้งในวันอังคาร 4 ก.พ.2025 รวมทั้ง ตัวเลขเศรษฐกิจของจีน เช่น ดัชนี PMI ภาคการผลิตของจีนจากสถาบัน Caixin (ม.ค.), ดัชนี PMI ภาคการบริการของจีนจากสถาบัน Caixin (ม.ค.) และ ทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของจีน (ดอลลาร์สหรัฐ) (ม.ค.)

-การเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ โดยมี ดัชนี PMI ภาคการผลิต และภาคการบริการเดือนม.ค.จาก ISM,ตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนเดือนม.ค. จาก ADP และ ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร, อัตราการว่างงาน, รายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมงเดือนม.ค. เพื่อแสดงถึงทิศทางเศรษฐกิจสหรัฐ

-การประชุมของ ธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) ซึ่ง คาดการณ์ว่า โอกาสที่ BOE จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 3 ในการประชุมวันที่ 6 ก.พ. จะอยู่ที่ประมาณ 65% โดยคาดว่าจะปรับลดเพียงเล็กน้อยเท่านั้นสำหรับปี2025 ขณะที่แอนดรูว์ เบลีย์ ผู้ว่าการ BOE และกรรมการนโยบายการเงินคนอื่น ๆ ส่งสัญญาณสนับสนุนการปรับลดดอกเบี้ยเพิ่มเติมอย่าง “ค่อยเป็นค่อยไป” หลังจากเศรษฐกิจอังกฤษเริ่มกลับมาขยายตัวได้อีกครั้งในเดือนพ.ย. แต่ยังคงต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ ในขณะที่รัฐบาลกำลังพยายามขจัดความกังวลว่าประเทศกำลังประสบปัญหาเงินเฟ้อสูงท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว (Stagflation)

- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img
spot_imgspot_img
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
spot_img
spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img