จากการตรวจสอบ บันทึกการประชุมครั้งที่ 62 ของ คณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ เมื่อปลายเดือนมกราคม 2568 ที่ผ่านมา มีการติดตามความคืบหน้าการ แก้ไขปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ รวมทั้งกรณีที่เกี่ยวข้องกับ การซื้อขายไฟฟ้า ชายแดนแม่สาย จังหวัดเชียงราย
เบื้องต้น หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อย่างเช่น การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ได้ส่งตัวแทนแจ้งต่อที่ประชุม ประเด็นจัดทำสัญญาซื้อ-ขายไฟฟ้า อันต้องสงสัยว่า จะมีความเกี่ยวพันขบวนการยาเสพติด แก๊งคอลเซ็นเตอร์ และขบวนการฟอกเงินของกลุ่มธุรกิจที่ผิดกฎหมาย
ทั้งนี้ พบข้อจำกัดในการพิจารณาผลกระทบด้านความมั่นคงของคู่สัญญา จึงได้ประชุมร่วมสำนักงาน ปปส. และ ป.ป.ง. ที่จะเข้ามาช่วยเหลือในขั้นตอนการตรวจสอบคุณสมบัติและความเหมาะสมของคู่สัญญาซื้อ-ขายไฟฟ้า
ชง “มท.” ทบทวนระเบียบซื้อ-ขายไฟฟ้าเพื่อนบ้าน 17 จุด
นอกจากนี้ ได้สอบถามไปยังประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อขอให้มีการส่งข้อมูลของ “บริษัทคู่สัญญา” เพิ่มเติม ประกอบการพิจารณาผลกระทบด้านความมั่นคง เพื่อเสนอต่อกระทรวงมหาดไทย เพื่อขอให้มีการพิจารณากำหนดระเบียบปฏิบัติในการซื้อ-ขายไฟฟ้าให้กับประเทศเพื่อนบ้าน ให้ครอบคลุม
ตั้งแต่ แนวทางการคงสัญญาซื้อ-ขายไฟฟ้า ไปจนถึงแนวทางการยุติการขายไฟฟ้า กับประเทศเพื่อนบ้านทั้งหมด 17 จุด ก่อนจะเสนอต่อคณะรัฐมนตรี เพื่อกำหนดให้เป็นแนวปฏิบัติต่อไป
จากนั้น “สภาความมั่นคงแห่งชาติ” ให้ข้อมูลต่อคณะกรรมาธิการฯว่า ได้รับทราบจากสายข่าวว่า การซื้อ-ขายไฟฟ้าในจุดระหว่างอำเภอแม่สายและการไฟฟ้าท่าขี้เหล็ก ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศจริง แต่ยังไม่ได้รับการยืนยันหรือหลักฐานที่ชัดเจน อยู่ระหว่างการพิสูจน์ทราบ
ทั้งนี้ ทางกรรมาธิการความมั่นคงฯได้ตั้งข้อสังเกตและข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการที่มีต่อหน่วยงาน สรุปได้ดังนี้
กรณีปัญหาจุดซื้อ-ขายไฟฟ้า อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย และจุดซื้อ-ขายไฟฟ้า อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ที่จะเปลี่ยนคู่สัญญา เป็นเอกชน 2 บริษัท ขอให้ตรวจสอบให้ถี่ถ้วน โดยขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พิจารณาในจุดจ่ายไฟทั้ง 2 เป็นสำคัญก่อน เพราะมีหลักฐานปรากฎเป็นข่าวชัดเจน
“สมช.” ประชุมบูรณาการ เคาะตัดไฟแก๊งคอลฯ
ขณะที่ “ฉัตรชัย บางชวด” เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ บอกว่า ในวันจันทร์ที่ 3 กุมภาพันธ์นี้ จะเป็นประธานการประชุมร่วมกับหน่วยงานเกี่ยวข้อง ที่สำนักงาน สมช. เพื่อประมวลข้อมูลด้านความมั่นคง
ก่อนจะส่งให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) พิจารณาดำเนินการและหารือกับคู่สัญญา ซึ่งการส่งข้อมูลให้ กฟภ.เป็นไปตามที่กระทรวงมหาดไทย ทำหนังสือสอบถามความคิดเห็น
สำหรับผู้ที่จะร่วมประชุมในวันที่ 3 กุมภาพันธ์นี้ มี 7-8 หน่วยงาน อาทิ กองทัพ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการต่างประเทศ กฟภ. ทั้งนี้ขอย้ำว่าการดำเนินการต่างๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้ต้องเป็นไปตามข้อกฎหมาย
………..
รายงานพิเศษ : ฟ้าคำราม
