‘ภูมิธรรม’ คุย ผู้ช่วย รมต.จีน ปมคอลเซ็นเตอร์ นานกว่าชั่วโมง รับจีนมีข้อมูลในมือเยอะ ขอไทยซีลชายแดนช่วยตัดเส้นทางลำเลียง ส่วนถึงขั้นปิดชายแดนหรือไม่ ขอพิจารณาก่อน ย้ำ จีนไม่ได้กดดัน แต่ต้องเคารพอธิปไตยของไทย
วันที่ 4 ก.พ.68 นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลัง หารือกับ นายหลิว จงอี ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคง และสาธารณะ สาธารณรัฐประชาชนจีน โดยใช้เวลานานกว่า 1 ชั่วโมง เมื่อถามว่าเหตุใดจึงหารือนาน ระบุว่า ที่คุยกันนานเพราะว่าคิดถึงกัน ก็ต้องคุยกันนานหน่อย ซึ่งทางการจีนมาประชุมกับกระทรวงกลาโหมในระดับปฏิบัติงาน โดยพูดคุยกับ พล.อ.ธราพงษ์ มะละคำ รองปลัดกระทรวงกลาโหม ที่เป็นหัวหน้าคณะเจรจา ซึ่งได้คุยเรื่องงานที่จะต้องร่วมมือกัน แต่ยังไม่ได้รับรายงานหลังจากการพูดคุย
.
ทั้งนี้ทางจีนมาเยี่ยมตนเองอย่างไม่เป็นทางการ โดยนำความปรารถนาดีของรองนายกฯฝ่ายความมั่นคงของจีนมาให้ ซึ่งผมกับรองนายกฯความมั่นคงจีนและอีกหลายคนได้พูดคุยกันมาต่อเนื่องเป็นเดือนแล้ว ในหลายเรื่องที่เกี่ยวข้องกับสิ่งที่เป็นปัญหา เพราะคิดว่าปัญหาเหล่านี้หากประเทศใดประเทศหนึ่งดำเนินการแก้ไขคงไม่จบ แต่ต้องเกิดจากหลายหลายส่วนพูดคุยกัน
.
ซึ่งเขาก็มีข้อมูลในหลายส่วนเยอะเหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็น เครือข่ายบุคคลที่เกี่ยวข้อง เพราะจีนเป็นประเทศที่ได้รับความเสียหายเป็นอย่างมาก เขาก็มาคุยเรื่องแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งเรื่องนี้ทำความเสียหายกับทุกประเทศ ซึ่งไทยก็เสียหายโดยในหนึ่งปีมีผู้เป็นเหยื่อ 557,500 ราย สูญเสียเงินกว่า 68,000 ล้านบาท หากคิดเป็นรายวันตกวันละ 80 ล้านบาท เพราะฉะนั้นเราก็ต้องจัดการ
.
ซึ่งการซีลชายแดนไม่ใช่แค่เรื่องยาเสพติด แต่รวมไปถึงแก๊งคอลเซ็นเตอร์อาชญากรรมและการค้ามนุษย์ ตามแนวชายแดน ซึ่งเขาก็อยากให้เราทำแต่เราทำไปก่อนแล้ว และจีนได้ขอบคุณแหละชื่นชมไทย
.
นอกจากนี้ จีนอยากให้ไทยช่วยตัดเส้นทางลำเลียง เพื่อช่วยสกัดกั้นทุกทาง ส่วนถึงขั้นปิดชายแดนหรือไม่นั้น คงต้องพิจารณา แต่ได้บอกไปแล้วว่าในการตัดสินใจเรื่องนี้ต้องเป็นความเห็นร่วมกันในฐานะที่มีปัญหาร่วมกัน และต้องเคารพอธิปไตยของประเทศไทยด้วย ซึ่งจีนก็ตอบรับ
.
ขณะเดียวกันยังมีแนวคิดการจัดประชุมร่วม 3 ฝ่าย ระหว่างไทย จีน และเมียนมา ส่วนจะต้องมีสำนักงานหรือไม่ อยู่ที่ปัญหา และความเห็นร่วมกันของทุกฝ่าย ซึ่งปัญหายังลามไปถึงลาวและกัมพูชา ให้ว่าไปตามเนื้อที่เกิดขึ้น แต่จะเอา 3 ประเทศก่อน
.
ในสิ่งที่อยากให้เรากดดัน เราดำเนินการอยู่แล้ว ซึ่งตนจะเดินทางไปประชุม สมช. ในเรื่องการตัดน้ำ ตัดไฟ ตัดโทรศัพท์นั้น สิ่งเหล่านี้ต้องดำเนินการ เพราะตนเองดูจากกฎระเบียบและข้อบังคับต่างๆ สามารถจัดการได้อยู่แล้ว
.
ส่วนที่หลายคนมองว่าทำไปแล้วจะมีปัญหากับภาคธุรกิจที่ได้รับสัมปทานหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ถ้ากระทบกับความมั่นคงภายในสามารถจัดการได้ ตามที่ได้ระบุจำนวนเหยื่อ 500,000 กว่าราย มูลค่าความเสียหาย 68,000 ล้านบาท มันเสียหายอยู่แล้ว เพราะเรื่องนี้คนไทยหวาดกลัว ซึ่งที่ตนสั่งให้ สมช. ประชุมวานนี้ เขาชี้แล้วว่าเป็นปัญหาภัยความมั่นคง ซึ่งตนเองยืนยันว่ามันเป็นดังนั้น วันนี้เพื่อให้ชัดเจนเป็นทางการมากยิ่งขึ้น ตนให้ความเห็นของคนที่รับผิดชอบเรื่องความมั่นคง และตนเองคิดว่าต้องเด็ดขาดซึ่งถ้าเป็นอย่างนี้วันนี้ตนเองจะใช้มติ สมช. เพราะนายกรัฐมนตรี ได้มอบให้กับตนวันนี้ ดูแลด่วน ตนก็จะคุย ส่วนคำสั่งตัดไฟนั้นจะเร็วสุดได้เย็นนี้หรือในวันพรุ่งนี้หรือไม่นั้น รับว่าเป็นเรื่องด่วน แต่จะแค่ไหนอย่างไรนั้นยังไม่ได้ประชุม
ส่วนจีนได้เสนอความช่วยเหลืออะไรในเรื่องแก๊งคอลเซ็นเตอร์หรือไม่นั้น นายภูมิธรรม ระบุว่าเป็นการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร ในชั้นต้นตกลงกันว่าเราควรจะร่วมมือกัน เพราะไม่สามารถให้ประเทศใดประเทศหนึ่งจัดการได้ จัดการที่ไทยก็ไปโผล่ที่ประเทศอื่น โดยเราจะต้องทำหลายที่ไม่ใช่เฉพาะแค่ จ.ตาก ยังมีจังหวัด แม่ฮ่องสอน เชียงราย กาญจนบุรี ก็ยังมี เพราะฉะนั้นมาตรการนี้เราจะเริ่มจากจุดต่างๆนี้ไป
พร้อมยืนยันว่าการมาในครั้งนี้ไม่ใช่การกดดันประเทศไทย เพราะสิ่งที่จีนขอมาตนทำมาอยู่แล้ว และการที่เขาเสนอมาก็ตรงกับที่เราเห็น ไม่ใช่อยู่ๆเราเป็นประเทศ แล้วมีคนมาว่าเรา ตนเองก็ยืนยันกับเขาแล้วว่า ทั้งหมดเรามีปัญหาร่วมกันจะแก้ปัญหาร่วมกัน แต่ต้องเคารพ อธิปไตยของแต่ละประเทศ เขาก็บอกว่าเขาไม่มีเหตุผลที่จะต้องมา กดดันอะไรเราและก็เคารพในอำนาจอธิปไตยของบ้านเรา แต่เรื่องนี้เขาอยากหารือ
ส่วนขอความชัดเจนชัดๆว่ามติ สมช. วันนี้จะได้ความชัดเจนหรือไม่ เพราะเช้าวันนี้ นาย อนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยยังพูดอยู่ว่า กฟภ. ยังไม่สามารถตัดเองได้ต้องรอมติจาก สมช. โดยนายภูมิธรรมถึงกับยิ้ม และระบุว่า เมื่อเช้านี้ผมพูดชัดเจนแล้วฉะนั้นต้องรอดูโดยมารยาท ผมไม่ควรพูดอะไรที่เป็นความเห็นของตนเองอย่างเดียว ก็ต้องประชุม สมช. ก่อน
ส่วนกรณีที่ นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ที่ออกมาระบุว่า พลตำรวจตรี ต.เต่า มีส่วนเกี่ยวข้องกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และการพนันนั้น นายภูมิธรรม ย้อนว่าอย่าพูดเป็นแบบอักษรย่อ หรือดรามา มาบอกผมเลย และเอาหลักฐานมาให้ด้วย ผมจัดการเอง มาพูดแบบนี้ ผมจะไปเดาได้อย่างไรว่า ต.เต่าที่ใด ต.เต่า เต็มไปหมดเลย ในสระก็มี