‘เลขาฯ สภาองค์กรผู้บริโภค‘ เผย มีคนใน ‘กสทช.’ บอกให้ ‘พิรงรอง’ ลาออกจากตำแหน่ง แลกกับการถอนฟ้องคดี บอก คำพิพากษา ส่อทำผู้มีหน้าที่คุ้มครองผู้บริโภค เกิดความหวาดกลัว
วันที่ 6 ก.พ.68 หลังศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง มีคำพิพากษาให้จำคุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร.พิรงรอง รามสูต กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) โดยศาลชี้ว่า มีเจตนากลั่นแกล้งโจทก์ให้ได้รับความเสียหาย
ระหว่างการอ่านคำพิพากษา อ.พิรงรอง มีท่าทีเคร่งเครียด และคอยจดรายละเอียดคดี และทันทีที่ศาลมีคำพิพากษาตัดสินจำคุก 2 ปี อ.พิรงรอง ก้มหน้าด้วยอาการเสียใจ ขณะเดียวกัน กลุ่มตัวแทนที่มาให้กำลังใจในห้องพิพากษา มีบางคนอุทานออกมาด้วยความตกใจ บางคนร้องไห้กับคำตัดสิน และหลังจากที่ผู้พิพากษาลุกออกจากบัลลังก์ กลุ่มตัวแทนบางคนก็เข้าไปกอดให้กำลังใจ อ.พิรงรอง
น.ส.สารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการสำนักงานสภาองค์กรของผู้บริโภค ให้สัมภาษณ์หลังฟังคำพิพากษา ว่า ตนรู้สึกผิดหวังในคำพิพากษา คิดว่า คำพิพากษาจะเป็นประโยชน์กับ อ.พิรงรอง ซึ่งเป็นการพิพากษาความผิดครั้งแรก แต่กลับไม่รอลงอาญา แต่ก็เคารพคำพิพากษาของศาล ซึ่งเชื่อว่า อ.พิรงรอง คงจะอุทธรณ์และต่อสู้ต่อไปอย่างแน่นอน
น.ส.สารี กล่าวว่า ส่วนตัวคิดว่า ตอนนี้คนใน กสทช.หวาดกลัวในการออกมาคุ้มครองผู้บริโภค อาจจะคิดกันว่า รักษาผลประโยชน์ของผู้บริโภคแล้วจะได้อะไร ถ้าสุดท้าย จะถูกฟ้องคดี และมีคำพิพากษาจำคุกเช่นนี้
ส่วนคำว่า “ล้มยักษ์” ที่ผู้พิพากษาพูดให้ห้องพิพากษา น.ส.สารี อ๋อง กล่าวว่า ต้องรอดูในคำพิพากษา ไม่สามารถบอกรายละเอียดได้
ตามจริงแล้ว กสทช. มี มาตรา 27 พูดไว้ชัดว่า สำนักงานกสทช.มีหน้าที่ลงโทษ และบังคับใช้กฎหมาย หากมีการละเมิดจดทะเบียน กสทช.สามารถออกคำสั่ง หรือเพิกถอนใบอนุญาตได้ ซึ่งในการต่อสู้ในครั้งนี้ ไม่ทราบว่าทาง อ.พิรงรองได้นำกฎหมายตัวนี้มาใช้หรือไม่ ซึ่ง กสทช.มีหน้าที่คุ้มครอง และพิทักษ์สิทธิของผู้บริโภคโดยตรง ขอให้ อ.พิรงรองต่อสู้คดีและทำหน้าที่คุ้มครองผู้บริโภคอย่างเข้มข้น และผู้บริโภคจะคุ้มครองอาจารย์เองในท้ายที่สุด และส่งกำลังใจให้อาจารย์ในการสู้คดี
น.ส.สารี กล่าวว่า ต่อจากนี้ สภาองค์กรผู้บริโภคจะสำรวจรอบด้าน ว่ากิจการ OTT เขาปฏิบัติกันอย่างไร ผู้บริโภคถูกเอารัดเอาเปรียบอย่างไร ซึ่งเป็นหน้าที่สภาองค์กรของผู้บริโภค โดยตรง ถ้าไม่ชอบโฆษณา ก็ต้องให้ผู้บริโภคพิจารณาเอาเอง
น.ส.สารี กล่าวอีกว่า เมื่อวานนี้ มีคนบางกลุ่มบอกให้ อ.พิรงรอง ลาออกจาก กสทช.เพื่อป้องกันการฟ้องคดี ซึ่งเมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า บุคคลนั้นคือใคร เป็นคนนอกหรือในองค์กร น.ส.สารี กล่าวว่า ไม่อยากจะบอก เพราะกลัวถูกคดี เพราะคณะกรรมการที่อยู่ใน กสทช.หลายคนก็ถูกฟ้องร้องกันหลายคน แต่ใบ้ให้ว่า “คนในองค์กร มีทั้งหมด 7 คน ก็ลองไปหาดู เชื่อว่านักข่าวเก่งอยู่แล้ว”
น.ส.ดาราณี โพธิน ประธาน ศูนย์สิทธิผู้บริโภคเขตหลักสี่ เปิดเผยว่ารู้สึกตกใจ และ รู้ช็อคกับคำพิพากษา ส่วนตัวนั้นเป็นผู้บริโภคก็ดีใจที่อาจารย์เห็นความทุกข์ และเข้ามาช่วยเหลือบริโภค แต่พอเกิดเหตุการณ์นี้กับอาจารย์ที่ถูกตัดสินว่ามีความผิด ก็อยากจะให้กำลังใจ พร้อมบอกว่าเรายังต้องสู้กันต่อไป
นางสาวศรีสุรีย์ ศรีแก้วหล่อ ประชาสัมพันธ์ศูนย์สิทธิผู้บริโภคเขตบึงกุ่ม เผยว่าอยากให้กำลังใจอาจารย์พิรงรอง ซึ่งตอนนี้การต่อสู้เพิ่งเริ่มต้น ถ้าเรามีพลังเพียงพอ เราก็จะพร้อมสู้ และเชื่อว่าทุกอย่างจะต้องผ่านพ้นไป
